ASTVผู้จัดการรายวัน-บีทีเอสเสียรายวัน หลังเปลี่ยนระบบอาณัติสัญญาณจากซีเมนส์เป็นบอมบาร์ดิเอร์ ล่าสุดวานนี้ สายสีลมระบบขัดข้องช่วงเช้า ผู้โดยสารนับหมื่นป่วน ด้านผู้บริหารบีทีเอสชี้แจง เกิดจากทดสอบระบบอาณัติสัญญาณสายสุขุมวิท เชื่อมส่วนต่อขยาย พร้อมคืนเงินผู้ที่ซื้อตั๋วไปแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า วานนี้ ( 3พ.ค.) เวลาประมาณ 07.00 น. รถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีสม (วงเวียนใหญ่-สนามกีฬาแห่งชาติ) เกิดเหตุขัดข้องต้องหยุดให้บริการประมาณ2ชั่วโมง ทำให้ผู้โดยหลายหมื่นคนที่ใช้บริการในช่วงเช้าได้รับความเดือดร้อน โดยบีทีเอสแจ้งว่าเกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบอาณัติสัญญาณของขบวนรถไฟฟ้า ทำให้ขบวนรถต้องหยุดให้บริการชั่วคราว ซึ่งเจ้าหน้าที่บีทีเอสได้เข้าดำเนินการแก้ไขระบบดังกล่าว จนถึงเวลาประมาณ 9.00 น. จึงสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ หลังจากเมื่อวันที่ 2พ.ค. เวลาประมาณ09.20น. บีทีเอสสายสุขุมวิท (หมอชิต-อ่อนนุช ) ก็เกิดปัญหาขัดข้อง สามารถเดินรถได้ถึงแค่สถานีอโศกมาแล้ว
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา ผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส เปิดเผยว่า สาเหตุเบื้องต้นที่ทำให้การเดินรถสายสีลมเกิดขัดข้องมาจากการที่บริษัทได้มีการทดสอบระบบอาณัติสัญญาณในการเดินรถไฟฟ้าสายสุขุมวิท เพื่อให้มีความพร้อมที่จะเชื่อมต่อกับส่วนต่อขยายอ่อนนุช-แบริ่ง ที่จะเปิดให้บริการในวันที่ 12 ส.ค.2554 นี้ ซึ่งระบบดังกล่าวเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงกับสายสีลม ส่งผลให้ระบบอาณัติสัญญาณควบคุมการเดินรถไฟฟ้าสายสีลมเกิดขัดข้องตามไปด้วย
โดยการออกแบบระบบดังกล่าว เป็นระบบที่คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ระบบจึงได้สั่งให้ขบวนรถไฟฟ้าทุกขบวนในเส้นทางสายสีลมหยุดวิ่งให้บริการ ซึ่งในช่วงที่เกิดเหตุขัดข้องนั้น เป็นช่วงที่มีผู้โดยสารหนาแน่น ทำให้มีจำนวนผู้โดยสารรอใช้บริการอยู่บนชั้นชานชาลาในทุกสถานีของสายสีลมเป็นจำนวนมาก ในขณะที่สายสุขุมวิทยังสามารถให้บริการได้ตามปกติ ซึ่งบริษัทได้ส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบสาเหตุและทำการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยที่การเดินรถได้เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อเวลา ประมาณ 09.00 น.
นายสุรพงษ์กล่าวว่า หลังจากจากเหตุการณ์ดังกล่าว บริษัทได้ประกาศแจ้งบนสถานีให้ผู้ใช้บริการทราบถึงสาเหตุขัดข้องเป็นระยะ พร้อมทั้งได้มีการดำเนินการในเรื่องบัตรโดยสาร โดยผู้ใช้บัตรเดินทางเที่ยวเดียว (Single Journey Ticket) จะได้รับเงินคืนหากไม่ต้องการเดินทางต่อ หรือสามารถนำตั๋วดังกล่าวกลับมาใช้เดินทางได้ใหม่ภายใน 14 วัน รวมทั้งระบบจะไม่หักจำนวนเที่ยวการเดินทางผู้ที่ใช้บัตรสมาร์ทพาสประเภท 30 วัน หรือหักค่าโดยสาร สำหรับบัตรสมาร์พาส ประเภทเติมเงิน ในกรณีที่ผู้โดยสารเปลี่ยนใจและไม่ต้องการเดินทางต่อเนื่องจากความล่าช้าที่เกิดขึ้น โดยให้แจ้งเจ้าหน้าที่สถานีรับทราบ
“ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ทั้งที่ได้พยายามปรับปรุงและเพิ่มมาตรการในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขัดข้องหรือเกิดขึ้นน้อยครั้งที่สุด และใช้เวลาในการแก้ไขให้น้อยที่สุด มาเป็นระยะ เพื่อที่จะทำการแก้ไขได้ทันท่วงทีกรณีเกิดเหตุขัดข้องเกี่ยวกับระบบอาณัติสัญญาณดังกล่าว อย่างไรก็ตาม จะพยายามมุ่งมั่นที่จะไปสู่เป้าหมายที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์รถไฟฟ้าขัดข้องเช่นนี้อีก”นายสุรพงษ์กล่าว
ก่อนหน้านี้ รถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีลม ได้เกิดเหตุขัดข้องมาอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากที่บีทีเอสได้มีการปรับเปลี่ยนระบบอาณัติสัญญาณจากของบริษัท ซีเมนส์ จำกัด มาใช้ระบบของบริษัท บอมบาร์ดิเอร์ ทรานสปอร์เทชั่น ซิกแนล (ประเทศไทย) จำกัด รวมทั้งการที่บีทีเอส ได้นำรถโดยสารใหม่ที่สั่งจากประเทศจีนจำนวน 12 ขบวน เข้ามาวิ่งให้บริการตั้งแต่เดือนมิ.ย.2553 ที่ผ่านมา และเป็นสาเหุที่ทำให้เกิดปัญหาในการเดินรถมาเป็นระยะระยะ
อย่างไรก็ตาม การที่บีทีเอส เปลี่ยนระบบอาณัติสัญญาณจากซีเมนส์มาใช้ของบอมบาร์ดิเอร์ฯ นั้น เพื่อเปิดการต่อเชื่อมระบบอาณัติสัญญาณให้สามารถใช้ได้กับรถไฟฟ้าทุกประเภท ในขณะที่ระบบของซีเมนส์นั้น จะมีการล็อคระบบไว้ให้ใช้ได้เฉพาะรถของซีเมนส์เท่านั้น โดยช่วงแรกรถไฟฟ้าบีทีเอส ซื้อรถจากซีเมนส์จึงต้องซื้อระบบของซีเมนส์ด้วย เพราะจำหน่ายเป็นแพคเกจ ต่อมาบีทีเอสได้เริ่มทยอยซื้อรถเพิ่มตามสายทางที่ขยายออกไปและเลือกซื้อรถจากจีน ไม่ได้ซื้อจากซีเมนส์ จึงเปลี่ยนระบบอาณัติสัญญาณใหม่ ให้สามารถใช้งานได้กับรถไฟฟ้าทุกยี่ห้อ และล่าสุดบีทีเอส มีการเจรจากับซีเมนส์แล้วว่าจะขอถอดระบบอาณัติสัญญาณของซีเมนส์ออก เพื่อเปลี่ยนมาใช้ของบอมบาร์ดิเอร์แทน ซึ่งซีเมนส์ก็ยินยอม
รายงานข่าวแจ้งว่า วานนี้ ( 3พ.ค.) เวลาประมาณ 07.00 น. รถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีสม (วงเวียนใหญ่-สนามกีฬาแห่งชาติ) เกิดเหตุขัดข้องต้องหยุดให้บริการประมาณ2ชั่วโมง ทำให้ผู้โดยหลายหมื่นคนที่ใช้บริการในช่วงเช้าได้รับความเดือดร้อน โดยบีทีเอสแจ้งว่าเกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบอาณัติสัญญาณของขบวนรถไฟฟ้า ทำให้ขบวนรถต้องหยุดให้บริการชั่วคราว ซึ่งเจ้าหน้าที่บีทีเอสได้เข้าดำเนินการแก้ไขระบบดังกล่าว จนถึงเวลาประมาณ 9.00 น. จึงสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ หลังจากเมื่อวันที่ 2พ.ค. เวลาประมาณ09.20น. บีทีเอสสายสุขุมวิท (หมอชิต-อ่อนนุช ) ก็เกิดปัญหาขัดข้อง สามารถเดินรถได้ถึงแค่สถานีอโศกมาแล้ว
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา ผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส เปิดเผยว่า สาเหตุเบื้องต้นที่ทำให้การเดินรถสายสีลมเกิดขัดข้องมาจากการที่บริษัทได้มีการทดสอบระบบอาณัติสัญญาณในการเดินรถไฟฟ้าสายสุขุมวิท เพื่อให้มีความพร้อมที่จะเชื่อมต่อกับส่วนต่อขยายอ่อนนุช-แบริ่ง ที่จะเปิดให้บริการในวันที่ 12 ส.ค.2554 นี้ ซึ่งระบบดังกล่าวเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงกับสายสีลม ส่งผลให้ระบบอาณัติสัญญาณควบคุมการเดินรถไฟฟ้าสายสีลมเกิดขัดข้องตามไปด้วย
โดยการออกแบบระบบดังกล่าว เป็นระบบที่คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ระบบจึงได้สั่งให้ขบวนรถไฟฟ้าทุกขบวนในเส้นทางสายสีลมหยุดวิ่งให้บริการ ซึ่งในช่วงที่เกิดเหตุขัดข้องนั้น เป็นช่วงที่มีผู้โดยสารหนาแน่น ทำให้มีจำนวนผู้โดยสารรอใช้บริการอยู่บนชั้นชานชาลาในทุกสถานีของสายสีลมเป็นจำนวนมาก ในขณะที่สายสุขุมวิทยังสามารถให้บริการได้ตามปกติ ซึ่งบริษัทได้ส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบสาเหตุและทำการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยที่การเดินรถได้เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อเวลา ประมาณ 09.00 น.
นายสุรพงษ์กล่าวว่า หลังจากจากเหตุการณ์ดังกล่าว บริษัทได้ประกาศแจ้งบนสถานีให้ผู้ใช้บริการทราบถึงสาเหตุขัดข้องเป็นระยะ พร้อมทั้งได้มีการดำเนินการในเรื่องบัตรโดยสาร โดยผู้ใช้บัตรเดินทางเที่ยวเดียว (Single Journey Ticket) จะได้รับเงินคืนหากไม่ต้องการเดินทางต่อ หรือสามารถนำตั๋วดังกล่าวกลับมาใช้เดินทางได้ใหม่ภายใน 14 วัน รวมทั้งระบบจะไม่หักจำนวนเที่ยวการเดินทางผู้ที่ใช้บัตรสมาร์ทพาสประเภท 30 วัน หรือหักค่าโดยสาร สำหรับบัตรสมาร์พาส ประเภทเติมเงิน ในกรณีที่ผู้โดยสารเปลี่ยนใจและไม่ต้องการเดินทางต่อเนื่องจากความล่าช้าที่เกิดขึ้น โดยให้แจ้งเจ้าหน้าที่สถานีรับทราบ
“ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ทั้งที่ได้พยายามปรับปรุงและเพิ่มมาตรการในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขัดข้องหรือเกิดขึ้นน้อยครั้งที่สุด และใช้เวลาในการแก้ไขให้น้อยที่สุด มาเป็นระยะ เพื่อที่จะทำการแก้ไขได้ทันท่วงทีกรณีเกิดเหตุขัดข้องเกี่ยวกับระบบอาณัติสัญญาณดังกล่าว อย่างไรก็ตาม จะพยายามมุ่งมั่นที่จะไปสู่เป้าหมายที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์รถไฟฟ้าขัดข้องเช่นนี้อีก”นายสุรพงษ์กล่าว
ก่อนหน้านี้ รถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีลม ได้เกิดเหตุขัดข้องมาอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากที่บีทีเอสได้มีการปรับเปลี่ยนระบบอาณัติสัญญาณจากของบริษัท ซีเมนส์ จำกัด มาใช้ระบบของบริษัท บอมบาร์ดิเอร์ ทรานสปอร์เทชั่น ซิกแนล (ประเทศไทย) จำกัด รวมทั้งการที่บีทีเอส ได้นำรถโดยสารใหม่ที่สั่งจากประเทศจีนจำนวน 12 ขบวน เข้ามาวิ่งให้บริการตั้งแต่เดือนมิ.ย.2553 ที่ผ่านมา และเป็นสาเหุที่ทำให้เกิดปัญหาในการเดินรถมาเป็นระยะระยะ
อย่างไรก็ตาม การที่บีทีเอส เปลี่ยนระบบอาณัติสัญญาณจากซีเมนส์มาใช้ของบอมบาร์ดิเอร์ฯ นั้น เพื่อเปิดการต่อเชื่อมระบบอาณัติสัญญาณให้สามารถใช้ได้กับรถไฟฟ้าทุกประเภท ในขณะที่ระบบของซีเมนส์นั้น จะมีการล็อคระบบไว้ให้ใช้ได้เฉพาะรถของซีเมนส์เท่านั้น โดยช่วงแรกรถไฟฟ้าบีทีเอส ซื้อรถจากซีเมนส์จึงต้องซื้อระบบของซีเมนส์ด้วย เพราะจำหน่ายเป็นแพคเกจ ต่อมาบีทีเอสได้เริ่มทยอยซื้อรถเพิ่มตามสายทางที่ขยายออกไปและเลือกซื้อรถจากจีน ไม่ได้ซื้อจากซีเมนส์ จึงเปลี่ยนระบบอาณัติสัญญาณใหม่ ให้สามารถใช้งานได้กับรถไฟฟ้าทุกยี่ห้อ และล่าสุดบีทีเอส มีการเจรจากับซีเมนส์แล้วว่าจะขอถอดระบบอาณัติสัญญาณของซีเมนส์ออก เพื่อเปลี่ยนมาใช้ของบอมบาร์ดิเอร์แทน ซึ่งซีเมนส์ก็ยินยอม
