คนดี รู้ว่า..ทำดี-ได้ดี..ทำชั่ว-ได้ชั่ว การทำคุณงามความดีนั้น..ทำยากแสนยาก บางคราไม่มีผลประโยชน์ใดจะตอบแทนให้อีกด้วย แต่คนดีส่วนใหญ่ในสังคมไทย ก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตากระทำความดีไม่หยุดหย่อน..
คนชั่ว ยึดถือสูตร..ทำชั่ว..ได้ดี-มีถมไป การทำชั่วนั้น..ทำง่ายมาก ยิ่งทำชั่วเพื่อแลกเปลี่ยนกับลาภ-ยศ-เงินทองด้วยแล้ว..ทำกันจัง..
ขณะนี้บางพรรคการเมืองได้ทุ่มเงิน ซื้อตัว ส.ส.เกรดเอบวก จากพรรคอื่นเข้าพรรคตนถึง 60 ล้านบาทต่อคน ในขณะที่บางพรรคจะให้เงิน ส.ส.ซื้อเสียง ถึงเขตละ 45 ล้านบาทต่อคน! ศึกซื้อเสียงเลือกตั้ง-ชิงอำนาจรัฐครั้งนี้ ทุกพรรคการเมืองชั่วล้วนมีเงินสู้กันชนิด..อู้ฟู่
ทำให้ผู้เกี่ยวข้องกับการทำให้เลือกตั้งบริสุทธิ์บางคนบอกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้..จะมีการโกงกันชนิดสกปรกที่สุด ขืนปล่อยให้มีการเลือกตั้ง..จะไม่เป็นผลดีต่อชาติบ้านเมือง ใครจะรัฐประหารก็ทำเสียเถอะ..อย่าเสียเวลาเลือกตั้งเลย!
เพราะรู้อยู่แล้วว่า..หลังเลือกตั้ง ประเทศไทยจะได้รัฐบาลสารเลวสุดๆ ที่มุ่งแต่จะคอร์รัปชันโกงกินกันอย่างตะกละตะกลาม โดยไม่แยแสต่อการเปิดโปง-แฉโพย-ประณาม-ประท้วง ที่จะต่อต้านรัฐบาลสามานย์ไปทั่วทุกหัวระแหง สังคมจะหาความสงบศานติไม่ได้เลย ฯลฯ
ยิ่งหน่วยงานที่ดูแลความมั่นคงของชาติทั้งหลาย ยังไม่เข้าใจภาระหน้าที่ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญของตนว่า การต้องทำให้ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ประชาชน ดินแดนแห่งราชอาณาจักร รวมทั้งระบอบปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้มั่นคงแข็งแรงนั้น
ต้องรู้ว่า..การที่นักการเมืองชั่วไม่กี่คน (คณาธิปไตย) ตั้งพรรคการเมืองขึ้น ใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้ง (ธนาธิปไตย) ครั้งแล้วครั้งเล่า เข้ายึดอำนาจรัฐไว้ในกำมือ (เป็นรัฐบาล) เพื่อทำมาหากินกับการคอร์รัปชันโกงกินชาติไทย (โจราธิปไตย)
นั่นคือ เนื้อแท้ของปัญหาทั้งในอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต ที่บ่อนเซาะและทำลายความมั่นคงของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ประชาชน รวมทั้งทำให้ชาติไทยสุ่มเสี่ยง ที่จะดินแดนให้กับต่างชาติอยู่ในขณะนี้!
ยกตัวอย่างเช่น..รัฐบาลอภิสิทธิ์ยังรับรอง MOU2543 ที่มีแผนที่ฯ 1 ต่อ 2 แสน ทำให้เกิดเส้นแบ่งเขตแดนทับซ้อนบนแผ่นดินไทย จนเป็นข้ออ้างให้ทหารเขมรบุกยึดดินแดนไทย ตั้งชุมชน-วัด-ตลาดขึ้นในบริเวณที่ดิน 4.6 ตร.กม.ที่เป็นของไทย
หากหน่วยงานความมั่นคง..โดยเฉพาะกองทัพ ที่เป็นกำลังสำคัญในการรักษาความมั่นคงของชาติ ยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงต้นเหตุ ยังไม่กระจ่างในการจำแนกมิตรและศัตรูว่า ใครดี-ใครชั่ว พลังใดเป็นโทษ พลังใดเป็นคุณต่อการปกป้องรักษา ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ฯลฯ
นอกจากนั้น หากกองทัพยังไม่เข้าใจในข้อกฎหมาย และอำนาจหน้าที่ของตนตามตัวบทกฎหมายรัฐธรรมนูญว่า หากรัฐบาลไทยไปกระทำ MOU หรือสนธิสัญญากับต่างชาติ จนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือสูญเสียดินแดน จะโดยตามพฤตินัยหรือนิตินัยก็ตามที
กองทัพจะต้องไม่ปฏิบัติตามสิ่งที่รัฐบาลกระทำผิดกฎหมาย ต้องไม่ยอมรับหรือไม่ยึดติดในเอกสาร ที่ทำให้ชาติไทยต้องสูญเสียดินแดนโดยเด็ดขาด
MOU 2543 นั้น เซ็นโดยรัฐบาลชวน หลีกภัย แต่เป็น MOU เถื่อน เพราะบริเวณรอบปราสาทพระวิหารนั้น ได้ประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติ มาตั้งแต่ปี 2541 โดยรัฐบาลชวนเองนั่นแหละ!
ที่สำคัญ..MOU 2543 รัฐบาลชวนไม่เคยให้รัฐสภารับรองแต่ประการใดเลย!
การที่ทหารใหญ่บางคนอ้าง MOU 2543 เถื่อนของรัฐบาลอภิสิทธิ์ ปล่อยให้เขมรยกกำลังบุกเข้ามายึดดินแดนไทยบริเวณ 4.6 ตร.กม. ตั้งชุมชน-ตลาด-วัด-ค่ายทหารบนภูมะเขือ-ฯลฯ ดังหลักฐานบ่งบอกอย่างชัดแจ้งอยู่ในขณะนี้นั้น
นั่นหมายถึง..นายทหารใหญ่บางคนในกองทัพ กำลังร่วมกระทำความผิดกับนักการเมืองชั่ว จะด้วยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือจงใจแกล้ง “ตาบอด” ไม่เข้าใจในข้อกฎหมาย จนทำให้ชาติเสียหายอย่างใหญ่หลวง
ที่สำคัญ..ทหารใหญ่ของกองทัพบางคนระวังไว้เถอะ นักการเมืองชั่วที่เห็นแก่ได้-เห็นแก่ตัว อาจใช้กฎหมายหวนกลับมาทำร้ายทหารใหญ่บางคนว่า ได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 นะครับ
รัฐบาลอภิสิทธิ์เป็นคนสั่งทหารให้จัดการกับคนเสื้อแดงด้วยมือเปล่า จนทหารโดนคนชุดดำเข่นฆ่าด้วยอาวุธสงครามนานาชนิด ตายและบาดเจ็บกันระนาว แต่..รัฐบาลกลับตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ให้ดีเอสไอสืบสวนสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้ทหารกลายจากวีรบุรุษเป็นฆาตกรกระหายเลือดไปเสียฉิบ
นายทหารใหญ่ในกองทัพไทยบางคน ยังเขลาต่อการเรียนรู้ ไม่สรุปบทเรียน หรือเจ็บแล้วไม่รู้จักจำว่า นักการเมืองไทยนั้น..ชั่วร้ายยิ่งนัก..พร้อมจะหักหลัง ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า ขอเพียงพวกเขาได้มาซึ่งลาภ-ยศ-เงินทอง-เท่านั้นเป็นพอ..
กองทัพ..แยกมิตร-แยกศัตรูไม่ออก แถมไม่ยอมทำหน้าที่รักษาปกป้องความมั่นคงชาติ ไม่จัดการนักการเมืองชั่วที่เป็นต้นเหตุการทำลายชาติ นั่นทำให้กองทัพเสียหาย-เสียชื่ออย่างหนักอยู่ในเวลานี้..ไงล่ะครับ!
คนชั่ว ยึดถือสูตร..ทำชั่ว..ได้ดี-มีถมไป การทำชั่วนั้น..ทำง่ายมาก ยิ่งทำชั่วเพื่อแลกเปลี่ยนกับลาภ-ยศ-เงินทองด้วยแล้ว..ทำกันจัง..
ขณะนี้บางพรรคการเมืองได้ทุ่มเงิน ซื้อตัว ส.ส.เกรดเอบวก จากพรรคอื่นเข้าพรรคตนถึง 60 ล้านบาทต่อคน ในขณะที่บางพรรคจะให้เงิน ส.ส.ซื้อเสียง ถึงเขตละ 45 ล้านบาทต่อคน! ศึกซื้อเสียงเลือกตั้ง-ชิงอำนาจรัฐครั้งนี้ ทุกพรรคการเมืองชั่วล้วนมีเงินสู้กันชนิด..อู้ฟู่
ทำให้ผู้เกี่ยวข้องกับการทำให้เลือกตั้งบริสุทธิ์บางคนบอกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้..จะมีการโกงกันชนิดสกปรกที่สุด ขืนปล่อยให้มีการเลือกตั้ง..จะไม่เป็นผลดีต่อชาติบ้านเมือง ใครจะรัฐประหารก็ทำเสียเถอะ..อย่าเสียเวลาเลือกตั้งเลย!
เพราะรู้อยู่แล้วว่า..หลังเลือกตั้ง ประเทศไทยจะได้รัฐบาลสารเลวสุดๆ ที่มุ่งแต่จะคอร์รัปชันโกงกินกันอย่างตะกละตะกลาม โดยไม่แยแสต่อการเปิดโปง-แฉโพย-ประณาม-ประท้วง ที่จะต่อต้านรัฐบาลสามานย์ไปทั่วทุกหัวระแหง สังคมจะหาความสงบศานติไม่ได้เลย ฯลฯ
ยิ่งหน่วยงานที่ดูแลความมั่นคงของชาติทั้งหลาย ยังไม่เข้าใจภาระหน้าที่ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญของตนว่า การต้องทำให้ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ประชาชน ดินแดนแห่งราชอาณาจักร รวมทั้งระบอบปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้มั่นคงแข็งแรงนั้น
ต้องรู้ว่า..การที่นักการเมืองชั่วไม่กี่คน (คณาธิปไตย) ตั้งพรรคการเมืองขึ้น ใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้ง (ธนาธิปไตย) ครั้งแล้วครั้งเล่า เข้ายึดอำนาจรัฐไว้ในกำมือ (เป็นรัฐบาล) เพื่อทำมาหากินกับการคอร์รัปชันโกงกินชาติไทย (โจราธิปไตย)
นั่นคือ เนื้อแท้ของปัญหาทั้งในอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต ที่บ่อนเซาะและทำลายความมั่นคงของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ประชาชน รวมทั้งทำให้ชาติไทยสุ่มเสี่ยง ที่จะดินแดนให้กับต่างชาติอยู่ในขณะนี้!
ยกตัวอย่างเช่น..รัฐบาลอภิสิทธิ์ยังรับรอง MOU2543 ที่มีแผนที่ฯ 1 ต่อ 2 แสน ทำให้เกิดเส้นแบ่งเขตแดนทับซ้อนบนแผ่นดินไทย จนเป็นข้ออ้างให้ทหารเขมรบุกยึดดินแดนไทย ตั้งชุมชน-วัด-ตลาดขึ้นในบริเวณที่ดิน 4.6 ตร.กม.ที่เป็นของไทย
หากหน่วยงานความมั่นคง..โดยเฉพาะกองทัพ ที่เป็นกำลังสำคัญในการรักษาความมั่นคงของชาติ ยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงต้นเหตุ ยังไม่กระจ่างในการจำแนกมิตรและศัตรูว่า ใครดี-ใครชั่ว พลังใดเป็นโทษ พลังใดเป็นคุณต่อการปกป้องรักษา ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ฯลฯ
นอกจากนั้น หากกองทัพยังไม่เข้าใจในข้อกฎหมาย และอำนาจหน้าที่ของตนตามตัวบทกฎหมายรัฐธรรมนูญว่า หากรัฐบาลไทยไปกระทำ MOU หรือสนธิสัญญากับต่างชาติ จนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือสูญเสียดินแดน จะโดยตามพฤตินัยหรือนิตินัยก็ตามที
กองทัพจะต้องไม่ปฏิบัติตามสิ่งที่รัฐบาลกระทำผิดกฎหมาย ต้องไม่ยอมรับหรือไม่ยึดติดในเอกสาร ที่ทำให้ชาติไทยต้องสูญเสียดินแดนโดยเด็ดขาด
MOU 2543 นั้น เซ็นโดยรัฐบาลชวน หลีกภัย แต่เป็น MOU เถื่อน เพราะบริเวณรอบปราสาทพระวิหารนั้น ได้ประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติ มาตั้งแต่ปี 2541 โดยรัฐบาลชวนเองนั่นแหละ!
ที่สำคัญ..MOU 2543 รัฐบาลชวนไม่เคยให้รัฐสภารับรองแต่ประการใดเลย!
การที่ทหารใหญ่บางคนอ้าง MOU 2543 เถื่อนของรัฐบาลอภิสิทธิ์ ปล่อยให้เขมรยกกำลังบุกเข้ามายึดดินแดนไทยบริเวณ 4.6 ตร.กม. ตั้งชุมชน-ตลาด-วัด-ค่ายทหารบนภูมะเขือ-ฯลฯ ดังหลักฐานบ่งบอกอย่างชัดแจ้งอยู่ในขณะนี้นั้น
นั่นหมายถึง..นายทหารใหญ่บางคนในกองทัพ กำลังร่วมกระทำความผิดกับนักการเมืองชั่ว จะด้วยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือจงใจแกล้ง “ตาบอด” ไม่เข้าใจในข้อกฎหมาย จนทำให้ชาติเสียหายอย่างใหญ่หลวง
ที่สำคัญ..ทหารใหญ่ของกองทัพบางคนระวังไว้เถอะ นักการเมืองชั่วที่เห็นแก่ได้-เห็นแก่ตัว อาจใช้กฎหมายหวนกลับมาทำร้ายทหารใหญ่บางคนว่า ได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 นะครับ
รัฐบาลอภิสิทธิ์เป็นคนสั่งทหารให้จัดการกับคนเสื้อแดงด้วยมือเปล่า จนทหารโดนคนชุดดำเข่นฆ่าด้วยอาวุธสงครามนานาชนิด ตายและบาดเจ็บกันระนาว แต่..รัฐบาลกลับตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ให้ดีเอสไอสืบสวนสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้ทหารกลายจากวีรบุรุษเป็นฆาตกรกระหายเลือดไปเสียฉิบ
นายทหารใหญ่ในกองทัพไทยบางคน ยังเขลาต่อการเรียนรู้ ไม่สรุปบทเรียน หรือเจ็บแล้วไม่รู้จักจำว่า นักการเมืองไทยนั้น..ชั่วร้ายยิ่งนัก..พร้อมจะหักหลัง ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า ขอเพียงพวกเขาได้มาซึ่งลาภ-ยศ-เงินทอง-เท่านั้นเป็นพอ..
กองทัพ..แยกมิตร-แยกศัตรูไม่ออก แถมไม่ยอมทำหน้าที่รักษาปกป้องความมั่นคงชาติ ไม่จัดการนักการเมืองชั่วที่เป็นต้นเหตุการทำลายชาติ นั่นทำให้กองทัพเสียหาย-เสียชื่ออย่างหนักอยู่ในเวลานี้..ไงล่ะครับ!