วานนี้ (2 พ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวเตรียมทูลเกล้าฯพ.ร.ฎ.ยุบสภาในวันที่ 4 พ.ค.ว่า “ไปทราบมาจากไหน ถึงเวลาก็ทราบเอง เพราะไม่รู้ว่าศาลรัฐธรรมนูญ จะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 3 ฉบับเรียบร้อยหรือไม่ ยังมีขั้นตอนทางธุรการอยู่”
ส่วนจะมีโอกาสยุบสภา ในวันที่ 6 พ.ค.เป็นไปได้ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น อยู่ที่ขั้นตอนทางธุรการ เพราะศาลรัฐธรรมนูญ ต้องส่งเรื่องกลับมาเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ”
เมื่อถามอีกว่า หากศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาเสร็จเรียบร้อย จะทูลเกล้าฯเลยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “เดี๋ยวต้องดูก่อนเพราะมีขั้นตอนทางธุรการ เพราะศาลต้องส่งกลับมา และต้องนำกฎหมายขึ้นทูลเกล้าฯด้วย ซึ่งจะเสร็จก่อนเดินทางไปร่วมประชุมอาเซียน ที่อินโดนีเซีย เพราะวันที่ 7 พ.ค.ก็เป็นวันเสาร์”
**ศาลรธน.นัดตีความกม.ลูก 9พ.ค.
วันเดียวกันคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาเรื่องที่ประธานรัฐสภาขอให้ศาลพิจารณาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับ โดยศาลได้มีคำสั่งให้รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูณญ และข้อกำหนดศาล พร้อมทั้งมีหนังสือแจ้งประธานรัฐสภา นายกรัฐมนตรี และประธานกกต.เพื่อทราบ และหากมีคำชี้แจงหรือเสนอความเห็นเป็นการเพิ่มเติมให้กระทำเป็นหนังสือยื่นต่อศาลรัฐธรรมานูญภายในวันที่ 6 พ.ค.นี้
แหล่งข่าวจากศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า คณะตุลาการฯ จะประชุมเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับนัดต่อไปในวันจันทร์ที่ 9 พ.ค.นี้ และคาดว่าวันดังกล่าวน่าจะมีผลคำวินิจฉัยของศาลออกมาได้
“ส่วนเรื่องการยุบสภานั้นถือเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีไม่เกี่ยวข้องกับศาล ฉะนั้นหากจะยุบสภาวันนี้ก็ไม่ได้มีปัญหาอย่างใด “แหล่งข่าวกล่าว
**เทือกบอกยุบสภาก่อนวันเสาร์
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกำหนดวันยุบสภาที่สื่อมวลชนถามว่าตกลงได้วันยุบสภาที่แน่นอนแล้วหรือยัง โดยนายสุเทพหัวเราะพร้อมกล่าวว่า “ก่อนวันเสาร์ แหมไม่ต้องถามกันแล้ว เพราะวันนี้วันที่ 2 พ.ค.แล้วก็เหลือวันที่ 3, 4, 5, 6 เท่านั้นเอง”
**เทือกอัด3 คนในทำตัวเอะอ่ะ
อีกด้านนายสุเทพ กล่าวถึงการจัดวางตัวผู้สมัครส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ที่มีปัญหาอยู่จะได้ข้อสรุปหรือไม่ ว่า “พรรคไม่มีปัญหาหรอก แต่ว่าความไม่ชอบใจ ไม่ถูกใจของคนบางคน บางพื้นที่ก็ต้องมีบ้างเป็นธรรมดา เรื่องที่เป็นข่าวอยู่เป็นเรื่องของคนประมาณ 3 คน คนเหล่านี้ก็เอะอะโวยวายไปก่อน กระบวนการของพรรคยังไม่จบสิ้น ซึ่งก็น่าเสียดาย แต่พรรคจะดำเนินการทุกอย่างครบถ้วนตามกระบวนการและเหตุผล การพิจารณาของพรรคมีหลายขั้นตอน เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า นายโกวิทย์ ธารณา ส.ส.กทม.ระบุว่าเรื่องนี้เป็นกรณีเสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล นายุสเทพกล่าวย้อนว่า “ใครเขาจะไปคิดฆ่าคุณโกวิทย์ เนื้อก็สาปกินไม่ได้”
ถามว่าท่านกับนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์เข้าใจกันดีหรือยังเรื่องการจัดวางตัวผู้สมัคร ส.ส. นายสุเทพกล่าวว่า “ผมยังไม่มีปัญหาอะไรกับท่านบัญญัติเลย มีแต่คนช่วยบอกแทนว่ามีปัญหาอย่างนั้นอย่างนี้ ผมทำงานด้วยกันตลอด ประชุมในคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครเมื่อวันพฤหัสบดีหรือวันศุกร์ที่ผ่านมาก็ไม่มีข้อแย้งอะไรกันเลย”
**แขวะ!โตแล้วอย่าพูดให้พรรคเสีย
เมื่อถามว่า การจัดวางตัวผู้สมัคร ส.ส.จะไม่กลายเป็นปัญหาศึกในระหว่างแกนนำพรรคที่ขัดใจกันเอง ที่มองว่าเลขาธิการพรรคจัดส่งคนไม่เหมาะสม นายสุเทพย้อนถามกลับว่า “แหล่งข่าวคนเดิมของคุณอีกหรือเปล่าครับ ช่วยไปกระซิบเขาหน่อยว่าโตแล้วอย่าพูดจาอะไรให้พรรคเขาเสียหาย พรรคให้ประโยชน์มากแล้ว มาพึ่งพาพรรค พึ่งใบบุญของพรรคมานานแล้ว เพราะฉะนั้นให้รู้จักสำรวมตัว พูดจาอย่าให้พรรคเสียหาย มันไม่มีหรอกครับข้อขัดแย้งภายในพรรคประชาธิปัตย์ ผมที่จำเป็นต้องมาทำหน้าที่นี้เพราะเป็นเลขาธิการพรรค ก็มีหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ไป”
ต่อข้อถามว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคจะได้ข้อสรุปเรื่องตัวผู้สมัคร ส.ส.ทั้งหมดเลยหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เราทยอยทำไปเรื่อยๆ ให้เสร็จก่อนสมัคร แต่มีตั้ง 400 เขต จึงต้องทำไปเรื่อยๆ เขตสำคัญๆ ก็พิจารณาแล้วส่วนใหญ่ แต่จะนับจังหวัดที่พรรคมั่นใจก็คงยาก ส่วนจังหวัดที่ยังเหนื่อยหาผู้สมัครไม่ได้ เช่น จ.สุพรรณบุรี อยุธยา อ่างทอง ขอนแก่น นอกนั้นมีเกือบครบแล้ว
**มาร์คยันคนปชป.แค่ความคิดต่าง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหาขัดแย้ง มีแต่ความเห็นแตกต่างเป็นธรรมดา ตนอยู่ในการเลือกตั้งมา ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 8 แล้ว เป็นเรื่องปกติ ในพรรคเรามีระบบขั้นตอนที่ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้ แต่ทุกคนต้องยอมรับ นั่นคือวินัยของสมาชิกของพรรค
ผู้สื่อข่าวถามว่าส.ส.เก่าควรจะได้ลงรับเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มันจะใช้ได้อย่างไร เขตมันน้อยลง เมื่อเขตน้อยลง ผู้แทนเยอะกว่าเขต มันก็ต้องมีผู้แทนบางคนไม่ได้ลงเขตก็เท่านั้นเอง ไม่มีทางอื่น จะทำอย่างไรก็ทำไม่ได้ เมื่อถามว่าผู้ที่ทำเขตมานาน แต่ได้ขึ้นปาร์ตี้ลิสต์จะเสียกำลังใจหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคก็ดูแล ตนยังเชื่อว่าที่ดูแลกันอยู่ก็หมายความว่าผู้แทนราษฎรที่ทำหน้าที่ส่วนใหญ่หรือทั้งหมด น่าจะมีโอกาสกลับมาเป็นผู้แทน จริงๆ อยากจะบอกว่าดีกว่าแย่งกันขึ้นบัญชีรายชื่อ
**"ปู่ชัย"แอบหวัง"ชวรัตน์"นั่งนายกฯ
นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร แกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทย ประกาศเป็นตัวแปรพรรคอันดับ 3 ในการจัดตั้งรัฐบาลว่า พรรคการเมืองทุกพรรค หัวหน้าพรรคต้องการเป็นนายกรัฐมนตรี อย่าว่าแต่พรรคเล็กพรรคน้อยเลย แต่ละพรรคเขามีเป้าหมายในการวางนโยบายของพรรค เพื่อไปบริหารประเทศชาติทั้งนั้น พรรคภูมิใจไทยก็จะเสนอ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี
ถามว่าความเป็นไปได้ที่พรรคอันดับ 3 จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายชัยกล่าวว่า ก็ไม่แน่ สมัย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช จากพรรคกิจสังคมได้ 18 เสียง ก็ยังเป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้ว จะเอาอะไรกับการเมือง ประเทศไทยมันมีตัวอย่างมาแล้ว
ถามย้ำว่า แสดงว่าพรรคภูมิใจไทยก็หวังเป็นนายกฯเหมือนกัน นายชัยกล่าวว่า ก็ไม่แน่ แล้วแต่ประชาชน ถ้าเห็นคำว่า “ภูมิใจไทย” คนไทยทุกคนต้องมีความภูมิใจในเอกราชของประเทศ เช่น เราสามารถป้องกันประเทศได้ เขมรต้องยอม ยิงมาเราก็ยิงไป
**พท.โวยเมืองกาญจน์คนเพิ่มผิดปกติ
พล.ท.มะ โพธิ์งาม หรือ เสธ.มะ ส.ส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. ทั้ง 5 เขตของ จ.กาญจนบุรี แตกต่างไปจากการแบ่งเขตเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญปี 2540 เป็นอย่างมาก ทำให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยหวั่นวิตกอย่างไรก็ตาม พื้นที่ อ.ทองผาภูมิ และ อ.ไทรโยค ปัจจุบันมีประชากรเพิ่มขึ้นมากผิดปกติและมีการร้องเรียนเกิดขึ้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าบัตรประจำตัวประชาชนที่เพิ่มขึ้นจำนวนมากนั้น ออกโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
**เล็งตั้ง อดีตไอทีวี นั่งผอ.พรรค
รายงานจากพรรคเพื่อไทย แจ้งว่า การเรียกประชุมใหญ่วิสามัญวันที่ 3 พ.ค.เพื่อเลือกกรรมการบริหารแทนตำแหน่งที่ว่างลง ประกอบด้วย รองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และนายทะเบียนพรรค ในเบื้องต้นได้กำหนดไว้ 21 คนเท่าชุดเดิม โดยมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อไม่เกิน 5 ราย โดยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ยังคงดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเช่นเดิม ขณะที่เลขาธิการพรรค คาดว่าจะตกเป็นของ น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร อดีตเลขาธิการ สายนายพงษ์ศักดิ์ รัตพงษ์ไพศาล โดยครั้งนี้จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ
“จะมีการเสนอชื่อนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ ไอทีวี ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ แทนนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้า พท. ที่ควบตำแหน่ง ผอ.พรรคในปัจจุบัน เนื่องจากเห็นว่านายนิวัฒน์ธำรงมีความเหมาะสม และใหล้ชิด พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร
**พท.ปูดดูด 2 ส.ส.ประชาธิปัตย์
อีกด้านหนึ่งมีกกระแสข่าวว่า นายมานิตย์ ภาวสุทธิ์ ส.ส.ชลบุรี เขต 1 และนายองอาจ วงษ์ประยูร ส.ส.สระบุรี เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ ตอบรับการร่วมงาน แล้ว หลังเกิดปัญหาพื้นที่ทับซ้อนกับว่าที่ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย นอกจากนี้ยังมีนายวิรัตน์ รัตนเศรษฐ ส.ส.สัดส่วน พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน จะย้ายมาสังกัดด้วย
วันเดียวกันนี้ ก่อนหน้ามีรายงานว่า นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ จะแถลงเปิดใจทั้งหมดกับอนาคตของพรรค แต่กลับไม่มีท่าทีว่านายมิ่งขวัญจะเดินทางมายังที่ทำการพรรค
**“โฆษกมาร์ค”ยังฝันมิ่งไม่ทนเพื่อไทย
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีกระแสข่าวจากพรรคเพื่อไทยออกมายืนยันนายมิ่งขวัญ ยังคงอยู่กับพรรคต่อไปว่า เป็นความพยายามของพท.ที่จะเหนี่ยวรั้งคนในพรรคให้มากที่สุด ทั้งที่ยังไม่เห็นท่าทีที่ชัดเจนถ้านายมิ่งขวัญเป็นนักเมืองที่คิดแบบปุถุชนคนธรรมดาคงไม่สามารถร่วมสังฆกรรมกับพท.ต่อไปได้ เพราะถูกฉีกหน้า ดิสเครดิต หลังเคยประกาศตัวเป็นนายกรัฐมนตรีแข่งกับนายอภิสิทธิ์ ท่ามกลางการประชุมสภาผู้แทนราษฎร์ คงเป็นการหวังผลทางจิตวิทยาเพื่อกลุ่มส.ส.ที่เกี่ยวพันกับนายมิ่งขวัญเท่านั้น
**"ชัย"วอนส.ส.ประชุมสภานัดส่งท้าย
นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการประชุมสภาสัปดาห์สุดท้ายก่อนยุบสภาว่า ขอให้สมาชิกทุกคนเข้ามาร่วมประชุมวันสุดท้ายอย่างพร้อมเพรียงกัน วันที่ 3 พฤษภาคมเป็นการประชุมร่วมกันของรัฐสภา อยากขอร้องให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรุ่นที่ 23 มาประชุมโดยพร้อมเพียงกัน คิดว่ากรอบการเจรจาตามมาตรา 190 ให้เสร็จในวันดังกล่าว คงไม่มีปัญหาอะไร จะมีปัญหาเกี่ยวกับกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรที่ค้างอยู่หลายเรื่อง โดยจะมีการประชุมสภาฯวันที่ 4 พฤษภาคม คิดว่าที่ประชุมควรจะให้กฎหมายที่ค้างอยู่ผ่านการพิจารณาไปอยู่ที่วุฒิสภาดีกว่าที่จะให้มาค้างอยู่ที่สภาผู้แทนราษฎร
ถ้าไม่ร่วมแรงร่วมใจก็ไม่ควรจะเข้ามาเป็นสมาชิกสภาต่อไป พวกที่ขี้เกียจหลังยาว เข้าใจว่าทุกคนคงจะมีสำนึกในจิตวิญญาณของนักการเมือง ถ้าคนที่จะได้รับการเลือกตั้งเขาต้องมา แต่คนที่จะไม่ได้รับการเลือกตั้งมันไม่มาก็ต้องแล้วแต่มัน พูดมันเลยดีกว่าเหนื่อยเหลือเกิน
**ปชป.นัดเคาะรายชื่อสุดท้าย 5 พ.ค.
วันเดียวกันที่ ห้องประชุมชั้น 2 ตึกควง อภัยวงศ์ ที่พรรคประชาธิปัตย์ มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคโดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณารายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.เขต และบัญชีรายชื่อ โดยมีคณะกรรมการบริหารพรรคเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
ขณะที่ส.ส.บางส่วนที่ต้องการจะลงสมัครในระบบเขต ต่างก็มาสังเกตการณ์อาทิ นายนาราชา สุวิทย์ ส.ส.สงขลา ที่มีกระแสข่าวว่าพรรคจะไม่ส่งสมัครรับเลือกตั้งทั้งแบบเขตและบัญชีรายชื่อ ขณะที่ก่อนการประชุม ได้มีกลุ่มชาวบ้านจากจ.นนทบุรี ประมาณ 10 คน เดินทางมาเรียกร้องให้ส่งนางวิภาวรรณ วรวรรณปรีชา รองประธานสภาอบจ.นนทบุรี ลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 2 จ.นนทบุรี แทนนายวิทูรย์ กรุณา อดีตผู้สมัครส.ส.ที่พรรคตัดสินใจส่งลงสมัครในครั้งนี้ พร้อมกับขู่จะรวบรวมชาวบ้านมาอีกเป็นร้อยมากดดันอีก
ภายหลังการประชุมกว่า 4 ชั่วโมง นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ในฐานะกรรมการบริหารพรรค เปิดเผยว่า การคัดเลือกผู้สมัครได้ส่งรายชื่อมา 90 เปอร์เซนต์ ส่วนอีก 10 เปอร์เซนต์เป็นพื้นที่ที่ยังมีปัญหาไม่ลงตัวทั้งระบบเขตและปาตี้ลิส
ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับ โดยให้ส่งความเห็นเพิ่มเติมนั้น นายสาทิตย์ กล่าวว่า ในที่ประชุมไม่มีการหารือกันเรื่องนี้ เพราะไม่เกี่ยวกับพรรค เพราะเป็นเรื่องของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีกับนายชัย ชิดชอบ ประธานสภา ฯ เท่านั้น ซึ่งต้องรอดูในวันพรุ่งนี้ (3 พ.ค.) ว่าจะมีใครไปยื่นความคิดเห็นเพิ่มเติม ถ้าหากไม่มีก็จะไม่มีผลต่อการยุบสภาและการจัดสรรผู้สมัครของพรรคแต่อย่างใดเพราะนายกฯ ได้ยืนยันชัดเจนว่าจะมีการยุบสภา ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญก็ปฏิบัติตามกระบวนการต่อไป อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น และเป็นการใช้รัฐธรรมนูญรูปแบบใหม่จึงต้องมีการปรับตามความเป็นจริง ซึ่งพรรคต้องเตรียมทุกอย่างให้พร้อม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมในครั้งนี้เป็นไปอย่างเคร่งเครียด โดยทุกคนทยอยลงมาพร้อมสีหน้าเคร่งเครียด โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ แต่จะได้ข้อสรุปอีกครั้งใน วันที่ 5 พ.ค.นี้
รายงานข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุมได้มีการรือถึงปัญหาเขตทับซ้อนในกทม.ทั้ง 3 เขต โดยที่ประชุมได้เห็นชอบตามโผของคณะกรรมการคัดเลือกฯ ให้นายวัชระ ขึ้นบัญชีรายชื่อ และ ให้พ.ต.อ.นพ.สามารถ ม่วงศิริ ลงแทน โดยนายสุเทพได้แสดงเหตุผลว่า เหตุที่เรื่อกนายสามารถลงเพราะส.ก.สองคนในเขตนั้นเป็นครอบครัวม่วงศิริ เป็นฐานเสียงให้พรรค ส่วนอีก2เขตที่มีการถกเถียงกันมากคือ เขตของนายโกวิทย์ ธารนา และนางอรอนงค์ คล้ายนก แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป จึงต้องมีการหารือโดยจะเรียกหัวหน้าภาคกทม. คือนายอภิสิทธิ์ นายกรณ์ จาติกวนิช และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน มาคุย รวมทั้งเรียกคู่กรณีมาชี้แจงด้วย
ส่วนภาคใต้นั้น โดยเฉพาะจ.นครศรีธรรมราชที่มีจำนวนส.ส.ลดลงเหลือ 9 คนจาก 10 คน ซึ่งทำให้ต้องมี 1 คนถูกดันขึ้นบัญชีรายชื่อ จึงเกิดปัญหาระหว่างนายสัมพันธ์ ทองสมัคร และนายวิทยา แก้วภราดัย โดยทั้ง 2 คนต้องการที่จะลงสมัครในระบบเขต สุดท้ายนายสุเทพได้ตัดสินใจให้นายสัมพันธ์ขึ้นปาร์ตี้ลิสต์ นอกจากนี้ ยังมีส.ส.ใต้ในจังหวัดอื่นที่น่าจับตามอง อาทิ นายอาคม เอ่ง ฉ้วน ส.ส.กระบี่ ก็ถูกดันขึ้นปาร์ตี้ลิสค์เช่นกัน เพื่อเปิดทางให้ลูกชายคือ นายสุชิน เอ่งฉ้วน ลงสมัครในเขต 2 จ.กระบี่แทน รวมทั้งนายทศพร เทพบุตร ส.ส. ภูเก็ต ที่ครั้งนี้เสนอตัวไปลงในระบบบัญชีรายชื่อแทน
อีกด้านนายอลงกต มณีกาศ โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า ภายหลังจากที่สมาชิกพรรคเพื่อแผ่นดินย้ายเข้าสังกัดกับพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน คาดว่าพรรคจะส่งว่าที่ผู้สมัครลงพื้นที่หาเสียง ทั้งนี้ยอมรับว่าในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีความหนักใจจากกระแสพรรคเพื่อไทย ดังนั้นทางแกนนำได้หารือเบื้องต้นว่าอาจงดส่งผู้สมัครลงรับสมัครเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อแผ่นดิน
ส่วนจะมีโอกาสยุบสภา ในวันที่ 6 พ.ค.เป็นไปได้ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น อยู่ที่ขั้นตอนทางธุรการ เพราะศาลรัฐธรรมนูญ ต้องส่งเรื่องกลับมาเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ”
เมื่อถามอีกว่า หากศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาเสร็จเรียบร้อย จะทูลเกล้าฯเลยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “เดี๋ยวต้องดูก่อนเพราะมีขั้นตอนทางธุรการ เพราะศาลต้องส่งกลับมา และต้องนำกฎหมายขึ้นทูลเกล้าฯด้วย ซึ่งจะเสร็จก่อนเดินทางไปร่วมประชุมอาเซียน ที่อินโดนีเซีย เพราะวันที่ 7 พ.ค.ก็เป็นวันเสาร์”
**ศาลรธน.นัดตีความกม.ลูก 9พ.ค.
วันเดียวกันคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาเรื่องที่ประธานรัฐสภาขอให้ศาลพิจารณาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับ โดยศาลได้มีคำสั่งให้รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูณญ และข้อกำหนดศาล พร้อมทั้งมีหนังสือแจ้งประธานรัฐสภา นายกรัฐมนตรี และประธานกกต.เพื่อทราบ และหากมีคำชี้แจงหรือเสนอความเห็นเป็นการเพิ่มเติมให้กระทำเป็นหนังสือยื่นต่อศาลรัฐธรรมานูญภายในวันที่ 6 พ.ค.นี้
แหล่งข่าวจากศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า คณะตุลาการฯ จะประชุมเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับนัดต่อไปในวันจันทร์ที่ 9 พ.ค.นี้ และคาดว่าวันดังกล่าวน่าจะมีผลคำวินิจฉัยของศาลออกมาได้
“ส่วนเรื่องการยุบสภานั้นถือเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีไม่เกี่ยวข้องกับศาล ฉะนั้นหากจะยุบสภาวันนี้ก็ไม่ได้มีปัญหาอย่างใด “แหล่งข่าวกล่าว
**เทือกบอกยุบสภาก่อนวันเสาร์
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกำหนดวันยุบสภาที่สื่อมวลชนถามว่าตกลงได้วันยุบสภาที่แน่นอนแล้วหรือยัง โดยนายสุเทพหัวเราะพร้อมกล่าวว่า “ก่อนวันเสาร์ แหมไม่ต้องถามกันแล้ว เพราะวันนี้วันที่ 2 พ.ค.แล้วก็เหลือวันที่ 3, 4, 5, 6 เท่านั้นเอง”
**เทือกอัด3 คนในทำตัวเอะอ่ะ
อีกด้านนายสุเทพ กล่าวถึงการจัดวางตัวผู้สมัครส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ที่มีปัญหาอยู่จะได้ข้อสรุปหรือไม่ ว่า “พรรคไม่มีปัญหาหรอก แต่ว่าความไม่ชอบใจ ไม่ถูกใจของคนบางคน บางพื้นที่ก็ต้องมีบ้างเป็นธรรมดา เรื่องที่เป็นข่าวอยู่เป็นเรื่องของคนประมาณ 3 คน คนเหล่านี้ก็เอะอะโวยวายไปก่อน กระบวนการของพรรคยังไม่จบสิ้น ซึ่งก็น่าเสียดาย แต่พรรคจะดำเนินการทุกอย่างครบถ้วนตามกระบวนการและเหตุผล การพิจารณาของพรรคมีหลายขั้นตอน เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า นายโกวิทย์ ธารณา ส.ส.กทม.ระบุว่าเรื่องนี้เป็นกรณีเสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล นายุสเทพกล่าวย้อนว่า “ใครเขาจะไปคิดฆ่าคุณโกวิทย์ เนื้อก็สาปกินไม่ได้”
ถามว่าท่านกับนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์เข้าใจกันดีหรือยังเรื่องการจัดวางตัวผู้สมัคร ส.ส. นายสุเทพกล่าวว่า “ผมยังไม่มีปัญหาอะไรกับท่านบัญญัติเลย มีแต่คนช่วยบอกแทนว่ามีปัญหาอย่างนั้นอย่างนี้ ผมทำงานด้วยกันตลอด ประชุมในคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครเมื่อวันพฤหัสบดีหรือวันศุกร์ที่ผ่านมาก็ไม่มีข้อแย้งอะไรกันเลย”
**แขวะ!โตแล้วอย่าพูดให้พรรคเสีย
เมื่อถามว่า การจัดวางตัวผู้สมัคร ส.ส.จะไม่กลายเป็นปัญหาศึกในระหว่างแกนนำพรรคที่ขัดใจกันเอง ที่มองว่าเลขาธิการพรรคจัดส่งคนไม่เหมาะสม นายสุเทพย้อนถามกลับว่า “แหล่งข่าวคนเดิมของคุณอีกหรือเปล่าครับ ช่วยไปกระซิบเขาหน่อยว่าโตแล้วอย่าพูดจาอะไรให้พรรคเขาเสียหาย พรรคให้ประโยชน์มากแล้ว มาพึ่งพาพรรค พึ่งใบบุญของพรรคมานานแล้ว เพราะฉะนั้นให้รู้จักสำรวมตัว พูดจาอย่าให้พรรคเสียหาย มันไม่มีหรอกครับข้อขัดแย้งภายในพรรคประชาธิปัตย์ ผมที่จำเป็นต้องมาทำหน้าที่นี้เพราะเป็นเลขาธิการพรรค ก็มีหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ไป”
ต่อข้อถามว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคจะได้ข้อสรุปเรื่องตัวผู้สมัคร ส.ส.ทั้งหมดเลยหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เราทยอยทำไปเรื่อยๆ ให้เสร็จก่อนสมัคร แต่มีตั้ง 400 เขต จึงต้องทำไปเรื่อยๆ เขตสำคัญๆ ก็พิจารณาแล้วส่วนใหญ่ แต่จะนับจังหวัดที่พรรคมั่นใจก็คงยาก ส่วนจังหวัดที่ยังเหนื่อยหาผู้สมัครไม่ได้ เช่น จ.สุพรรณบุรี อยุธยา อ่างทอง ขอนแก่น นอกนั้นมีเกือบครบแล้ว
**มาร์คยันคนปชป.แค่ความคิดต่าง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหาขัดแย้ง มีแต่ความเห็นแตกต่างเป็นธรรมดา ตนอยู่ในการเลือกตั้งมา ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 8 แล้ว เป็นเรื่องปกติ ในพรรคเรามีระบบขั้นตอนที่ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้ แต่ทุกคนต้องยอมรับ นั่นคือวินัยของสมาชิกของพรรค
ผู้สื่อข่าวถามว่าส.ส.เก่าควรจะได้ลงรับเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มันจะใช้ได้อย่างไร เขตมันน้อยลง เมื่อเขตน้อยลง ผู้แทนเยอะกว่าเขต มันก็ต้องมีผู้แทนบางคนไม่ได้ลงเขตก็เท่านั้นเอง ไม่มีทางอื่น จะทำอย่างไรก็ทำไม่ได้ เมื่อถามว่าผู้ที่ทำเขตมานาน แต่ได้ขึ้นปาร์ตี้ลิสต์จะเสียกำลังใจหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคก็ดูแล ตนยังเชื่อว่าที่ดูแลกันอยู่ก็หมายความว่าผู้แทนราษฎรที่ทำหน้าที่ส่วนใหญ่หรือทั้งหมด น่าจะมีโอกาสกลับมาเป็นผู้แทน จริงๆ อยากจะบอกว่าดีกว่าแย่งกันขึ้นบัญชีรายชื่อ
**"ปู่ชัย"แอบหวัง"ชวรัตน์"นั่งนายกฯ
นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร แกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทย ประกาศเป็นตัวแปรพรรคอันดับ 3 ในการจัดตั้งรัฐบาลว่า พรรคการเมืองทุกพรรค หัวหน้าพรรคต้องการเป็นนายกรัฐมนตรี อย่าว่าแต่พรรคเล็กพรรคน้อยเลย แต่ละพรรคเขามีเป้าหมายในการวางนโยบายของพรรค เพื่อไปบริหารประเทศชาติทั้งนั้น พรรคภูมิใจไทยก็จะเสนอ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี
ถามว่าความเป็นไปได้ที่พรรคอันดับ 3 จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายชัยกล่าวว่า ก็ไม่แน่ สมัย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช จากพรรคกิจสังคมได้ 18 เสียง ก็ยังเป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้ว จะเอาอะไรกับการเมือง ประเทศไทยมันมีตัวอย่างมาแล้ว
ถามย้ำว่า แสดงว่าพรรคภูมิใจไทยก็หวังเป็นนายกฯเหมือนกัน นายชัยกล่าวว่า ก็ไม่แน่ แล้วแต่ประชาชน ถ้าเห็นคำว่า “ภูมิใจไทย” คนไทยทุกคนต้องมีความภูมิใจในเอกราชของประเทศ เช่น เราสามารถป้องกันประเทศได้ เขมรต้องยอม ยิงมาเราก็ยิงไป
**พท.โวยเมืองกาญจน์คนเพิ่มผิดปกติ
พล.ท.มะ โพธิ์งาม หรือ เสธ.มะ ส.ส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. ทั้ง 5 เขตของ จ.กาญจนบุรี แตกต่างไปจากการแบ่งเขตเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญปี 2540 เป็นอย่างมาก ทำให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยหวั่นวิตกอย่างไรก็ตาม พื้นที่ อ.ทองผาภูมิ และ อ.ไทรโยค ปัจจุบันมีประชากรเพิ่มขึ้นมากผิดปกติและมีการร้องเรียนเกิดขึ้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าบัตรประจำตัวประชาชนที่เพิ่มขึ้นจำนวนมากนั้น ออกโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
**เล็งตั้ง อดีตไอทีวี นั่งผอ.พรรค
รายงานจากพรรคเพื่อไทย แจ้งว่า การเรียกประชุมใหญ่วิสามัญวันที่ 3 พ.ค.เพื่อเลือกกรรมการบริหารแทนตำแหน่งที่ว่างลง ประกอบด้วย รองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และนายทะเบียนพรรค ในเบื้องต้นได้กำหนดไว้ 21 คนเท่าชุดเดิม โดยมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อไม่เกิน 5 ราย โดยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ยังคงดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเช่นเดิม ขณะที่เลขาธิการพรรค คาดว่าจะตกเป็นของ น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร อดีตเลขาธิการ สายนายพงษ์ศักดิ์ รัตพงษ์ไพศาล โดยครั้งนี้จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ
“จะมีการเสนอชื่อนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ ไอทีวี ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ แทนนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้า พท. ที่ควบตำแหน่ง ผอ.พรรคในปัจจุบัน เนื่องจากเห็นว่านายนิวัฒน์ธำรงมีความเหมาะสม และใหล้ชิด พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร
**พท.ปูดดูด 2 ส.ส.ประชาธิปัตย์
อีกด้านหนึ่งมีกกระแสข่าวว่า นายมานิตย์ ภาวสุทธิ์ ส.ส.ชลบุรี เขต 1 และนายองอาจ วงษ์ประยูร ส.ส.สระบุรี เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ ตอบรับการร่วมงาน แล้ว หลังเกิดปัญหาพื้นที่ทับซ้อนกับว่าที่ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย นอกจากนี้ยังมีนายวิรัตน์ รัตนเศรษฐ ส.ส.สัดส่วน พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน จะย้ายมาสังกัดด้วย
วันเดียวกันนี้ ก่อนหน้ามีรายงานว่า นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ จะแถลงเปิดใจทั้งหมดกับอนาคตของพรรค แต่กลับไม่มีท่าทีว่านายมิ่งขวัญจะเดินทางมายังที่ทำการพรรค
**“โฆษกมาร์ค”ยังฝันมิ่งไม่ทนเพื่อไทย
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีกระแสข่าวจากพรรคเพื่อไทยออกมายืนยันนายมิ่งขวัญ ยังคงอยู่กับพรรคต่อไปว่า เป็นความพยายามของพท.ที่จะเหนี่ยวรั้งคนในพรรคให้มากที่สุด ทั้งที่ยังไม่เห็นท่าทีที่ชัดเจนถ้านายมิ่งขวัญเป็นนักเมืองที่คิดแบบปุถุชนคนธรรมดาคงไม่สามารถร่วมสังฆกรรมกับพท.ต่อไปได้ เพราะถูกฉีกหน้า ดิสเครดิต หลังเคยประกาศตัวเป็นนายกรัฐมนตรีแข่งกับนายอภิสิทธิ์ ท่ามกลางการประชุมสภาผู้แทนราษฎร์ คงเป็นการหวังผลทางจิตวิทยาเพื่อกลุ่มส.ส.ที่เกี่ยวพันกับนายมิ่งขวัญเท่านั้น
**"ชัย"วอนส.ส.ประชุมสภานัดส่งท้าย
นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการประชุมสภาสัปดาห์สุดท้ายก่อนยุบสภาว่า ขอให้สมาชิกทุกคนเข้ามาร่วมประชุมวันสุดท้ายอย่างพร้อมเพรียงกัน วันที่ 3 พฤษภาคมเป็นการประชุมร่วมกันของรัฐสภา อยากขอร้องให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรุ่นที่ 23 มาประชุมโดยพร้อมเพียงกัน คิดว่ากรอบการเจรจาตามมาตรา 190 ให้เสร็จในวันดังกล่าว คงไม่มีปัญหาอะไร จะมีปัญหาเกี่ยวกับกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรที่ค้างอยู่หลายเรื่อง โดยจะมีการประชุมสภาฯวันที่ 4 พฤษภาคม คิดว่าที่ประชุมควรจะให้กฎหมายที่ค้างอยู่ผ่านการพิจารณาไปอยู่ที่วุฒิสภาดีกว่าที่จะให้มาค้างอยู่ที่สภาผู้แทนราษฎร
ถ้าไม่ร่วมแรงร่วมใจก็ไม่ควรจะเข้ามาเป็นสมาชิกสภาต่อไป พวกที่ขี้เกียจหลังยาว เข้าใจว่าทุกคนคงจะมีสำนึกในจิตวิญญาณของนักการเมือง ถ้าคนที่จะได้รับการเลือกตั้งเขาต้องมา แต่คนที่จะไม่ได้รับการเลือกตั้งมันไม่มาก็ต้องแล้วแต่มัน พูดมันเลยดีกว่าเหนื่อยเหลือเกิน
**ปชป.นัดเคาะรายชื่อสุดท้าย 5 พ.ค.
วันเดียวกันที่ ห้องประชุมชั้น 2 ตึกควง อภัยวงศ์ ที่พรรคประชาธิปัตย์ มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคโดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณารายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.เขต และบัญชีรายชื่อ โดยมีคณะกรรมการบริหารพรรคเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
ขณะที่ส.ส.บางส่วนที่ต้องการจะลงสมัครในระบบเขต ต่างก็มาสังเกตการณ์อาทิ นายนาราชา สุวิทย์ ส.ส.สงขลา ที่มีกระแสข่าวว่าพรรคจะไม่ส่งสมัครรับเลือกตั้งทั้งแบบเขตและบัญชีรายชื่อ ขณะที่ก่อนการประชุม ได้มีกลุ่มชาวบ้านจากจ.นนทบุรี ประมาณ 10 คน เดินทางมาเรียกร้องให้ส่งนางวิภาวรรณ วรวรรณปรีชา รองประธานสภาอบจ.นนทบุรี ลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 2 จ.นนทบุรี แทนนายวิทูรย์ กรุณา อดีตผู้สมัครส.ส.ที่พรรคตัดสินใจส่งลงสมัครในครั้งนี้ พร้อมกับขู่จะรวบรวมชาวบ้านมาอีกเป็นร้อยมากดดันอีก
ภายหลังการประชุมกว่า 4 ชั่วโมง นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ในฐานะกรรมการบริหารพรรค เปิดเผยว่า การคัดเลือกผู้สมัครได้ส่งรายชื่อมา 90 เปอร์เซนต์ ส่วนอีก 10 เปอร์เซนต์เป็นพื้นที่ที่ยังมีปัญหาไม่ลงตัวทั้งระบบเขตและปาตี้ลิส
ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับ โดยให้ส่งความเห็นเพิ่มเติมนั้น นายสาทิตย์ กล่าวว่า ในที่ประชุมไม่มีการหารือกันเรื่องนี้ เพราะไม่เกี่ยวกับพรรค เพราะเป็นเรื่องของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีกับนายชัย ชิดชอบ ประธานสภา ฯ เท่านั้น ซึ่งต้องรอดูในวันพรุ่งนี้ (3 พ.ค.) ว่าจะมีใครไปยื่นความคิดเห็นเพิ่มเติม ถ้าหากไม่มีก็จะไม่มีผลต่อการยุบสภาและการจัดสรรผู้สมัครของพรรคแต่อย่างใดเพราะนายกฯ ได้ยืนยันชัดเจนว่าจะมีการยุบสภา ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญก็ปฏิบัติตามกระบวนการต่อไป อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น และเป็นการใช้รัฐธรรมนูญรูปแบบใหม่จึงต้องมีการปรับตามความเป็นจริง ซึ่งพรรคต้องเตรียมทุกอย่างให้พร้อม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมในครั้งนี้เป็นไปอย่างเคร่งเครียด โดยทุกคนทยอยลงมาพร้อมสีหน้าเคร่งเครียด โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ แต่จะได้ข้อสรุปอีกครั้งใน วันที่ 5 พ.ค.นี้
รายงานข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุมได้มีการรือถึงปัญหาเขตทับซ้อนในกทม.ทั้ง 3 เขต โดยที่ประชุมได้เห็นชอบตามโผของคณะกรรมการคัดเลือกฯ ให้นายวัชระ ขึ้นบัญชีรายชื่อ และ ให้พ.ต.อ.นพ.สามารถ ม่วงศิริ ลงแทน โดยนายสุเทพได้แสดงเหตุผลว่า เหตุที่เรื่อกนายสามารถลงเพราะส.ก.สองคนในเขตนั้นเป็นครอบครัวม่วงศิริ เป็นฐานเสียงให้พรรค ส่วนอีก2เขตที่มีการถกเถียงกันมากคือ เขตของนายโกวิทย์ ธารนา และนางอรอนงค์ คล้ายนก แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป จึงต้องมีการหารือโดยจะเรียกหัวหน้าภาคกทม. คือนายอภิสิทธิ์ นายกรณ์ จาติกวนิช และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน มาคุย รวมทั้งเรียกคู่กรณีมาชี้แจงด้วย
ส่วนภาคใต้นั้น โดยเฉพาะจ.นครศรีธรรมราชที่มีจำนวนส.ส.ลดลงเหลือ 9 คนจาก 10 คน ซึ่งทำให้ต้องมี 1 คนถูกดันขึ้นบัญชีรายชื่อ จึงเกิดปัญหาระหว่างนายสัมพันธ์ ทองสมัคร และนายวิทยา แก้วภราดัย โดยทั้ง 2 คนต้องการที่จะลงสมัครในระบบเขต สุดท้ายนายสุเทพได้ตัดสินใจให้นายสัมพันธ์ขึ้นปาร์ตี้ลิสต์ นอกจากนี้ ยังมีส.ส.ใต้ในจังหวัดอื่นที่น่าจับตามอง อาทิ นายอาคม เอ่ง ฉ้วน ส.ส.กระบี่ ก็ถูกดันขึ้นปาร์ตี้ลิสค์เช่นกัน เพื่อเปิดทางให้ลูกชายคือ นายสุชิน เอ่งฉ้วน ลงสมัครในเขต 2 จ.กระบี่แทน รวมทั้งนายทศพร เทพบุตร ส.ส. ภูเก็ต ที่ครั้งนี้เสนอตัวไปลงในระบบบัญชีรายชื่อแทน
อีกด้านนายอลงกต มณีกาศ โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า ภายหลังจากที่สมาชิกพรรคเพื่อแผ่นดินย้ายเข้าสังกัดกับพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน คาดว่าพรรคจะส่งว่าที่ผู้สมัครลงพื้นที่หาเสียง ทั้งนี้ยอมรับว่าในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีความหนักใจจากกระแสพรรคเพื่อไทย ดังนั้นทางแกนนำได้หารือเบื้องต้นว่าอาจงดส่งผู้สมัครลงรับสมัครเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อแผ่นดิน