ASTVผู้จัดการรายวัน - พันธมิตรฯประณามแขมร์ แถลงการณ์หวังฮุบแผ่นดินไทย “ปานเทพ” ชี้วางแผนขโมยปราสาทตาควาย-ตาเมือนธม เดินตามโมเดลเขาพระวิหาร จี้รัฐไล่เขมรพ้นแดนไทย เผย “เทพมนตรี” ลงพื้นที่พบทหารยังลำบาก แนะ ผบ.ทบ.ทบทวนบทบาทแม่ทัพภาค 2
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายกัมพูชา ออกแถลงการณ์ระบุว่า ปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม เป็นของกัมพูชาว่า ในนามของคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักร และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอประณามการกระทำดังกล่าว เพราะถือว่าเป็นเจตนาใช้แถลงการณ์นั้น เพื่อขโมยโบราณสถานของประเทศไทย และต้องการรุกล้ำยึดครองแผ่นดินไทยเพิ่มเติม นอกจากกรณีปราสาทพระวิหาร
ส่วนกรณีที่กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง เป็นวันที่ 3 ติดต่อกันนั้น นายปานเทพ กล่าวว่าจากตรวจสอบพบว่า เหตุจูงใจของกัมพูชานั้นมาจากความต้องการให้มีผู้สังเกตการณ์จากนานาชาติเข้ามาในพื้นที่ชายแดน เพื่อให้เกิดการหยุดยิงถาวร ในขณะที่กัมพูชา ยังยึดครองอยู่ ทำให้ฝ่ายไทยไม่สามารถใช้กำลังผลักดันออกไปได้ และส่งผลให้กัมพูชา สามารถครอบครองแผ่นดินไทยได้อย่างไม่มีกำหนดระยะเวลา พร้อมกับการจัดทำแผนบริหารจัดการเพื่อเตรียมขึ้นทะเบียนปราสาทอื่นๆ เป็นมรดกโลก โดยเฉพาะปราสาทตาเมือนธม ที่มีความชัดเจนว่า กัมพูชาเตรียมการไว้แล้ว
“ขอเรียกร้องให้ประเทศไทย หลุดออกจากพันธนาการนี้ โดยการผลักดันกัมพูชาออกจากแผ่นดินไทย โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ภูมะเขือ และวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ที่เป็นจุดสูงข่มในการใช้อาวุธทำร้ายราษฎรไทย ก่อนที่จัดให้มีการเจรจาในระดับทวิภาคี หรือในระดับนานาชาติที่กำลังเข้ามาแทรกแซงต่อไป เพราะหากไทยยังยืนยันที่จะไปเจรจาทั้งที่กัมพูชายังยึดครองแผ่นดินไทยอยู่ ก็จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกรณีปราสาทเขาพระวิหาร ที่ยูเอ็นเอสซี และอาเซียน เรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายหยุดยิง ทั้งที่กัมพูชายึดครองแผ่นดินไทยอยู่ เนื่องจากฝ่ายไทยไม่ยอมยืนยันเรื่องเส้นเขตแดน" นายปานเทพ กล่าว
นายปานเทพ กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เห็นความอ่อนแอของรัฐบาล และฝ่ายทหาร โดยเราขอให้กำลังใจนายทหารระดับปฏิบัติการ ที่ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ โดยใช้สามัญสำนึกของตัวเอง ในขณะที่ระดับผู้บังคับบัญชา กลับใช้วิธีการเจรจา และอพยพคนไทยออกจากแผ่นดินไทย ทั้งที่หลักการที่แท้จริงควรผลักดันกัมพูชาออกไปอย่างสุดความสามารถ พร้อมส่งกำลังบำรุงให้กับผู้ที่ทำหน้าที่อยู่อย่างเต็มที่
ล่าสุดนายเทพมนตรี ลิมปพยอม กรรมการป้องกันราชอาณาจักร ได้เดินทางไปบริเวณใกล้เคียงกับจุดปะทะ ที่ชายแดน จ.สุรินทร์ แล้วพบว่า ทหารยังทำหน้าที่ปกป้องปราสาทตาเมือนธมอยู่ได้ แต่ที่ปราสาทตาควายนั้น ทหารกัมพูชาขึ้นมายึดพื้นที่ประจัญหน้ากับทหารไทยแบบครึ่งๆ ของตัวปราสาท โดยการส่งกำลังบำรุงและเสบียงนั้นอ่อนแอมาก ไม่สามารถบริหารจัดการให้ทหารหาญมีอาหารการกิน และความเป็นอยู่ที่ดีพอ สะท้อนถึงปัญหาในการจัดการสวัสดิการ และเอาใจใส่ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ต้องเร่งทบทวนบทบาทของ พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งรับผิดชอบในพื้นที่ ที่ปล่อยให้กัมพูชาเข้ามายึดพื้นที่ ที่ไม่เคยยึดได้มาก่อน
"ความรับผิดชอบนี้ต้องโยงมาถึงฝ่ายการเมืองด้วย เพราะการยืนยันใช้เอ็มโอยู 2543 ได้ทำให้กัมพูชา เข้ามายึดดินแดนไทยเพิ่มเติม นอกจากพื้นที่เขาพระวิหาร แสดงให้เห็นว่า เอ็มโอยู 2543 ไม่สามารถใช้ทวงคืนแผ่นดินไทยได้แล้ว ยังไม่สามารถป้องกันการรุกล้ำดินแดนเพิ่มเติมจากฝ่ายกัมพูชา จึงขอเรียกร้องให้นายกฯ และรัฐบาลทบทวนบทบาทตัวเองเสียใหม่ ในการปกป้องอธิปไตยของชาติ และปรับขบวนครั้งใหญ่ ในส่วนของฝ่ายความมั่นคง" นายปานเทพกล่าว
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายกัมพูชา ออกแถลงการณ์ระบุว่า ปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม เป็นของกัมพูชาว่า ในนามของคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักร และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอประณามการกระทำดังกล่าว เพราะถือว่าเป็นเจตนาใช้แถลงการณ์นั้น เพื่อขโมยโบราณสถานของประเทศไทย และต้องการรุกล้ำยึดครองแผ่นดินไทยเพิ่มเติม นอกจากกรณีปราสาทพระวิหาร
ส่วนกรณีที่กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง เป็นวันที่ 3 ติดต่อกันนั้น นายปานเทพ กล่าวว่าจากตรวจสอบพบว่า เหตุจูงใจของกัมพูชานั้นมาจากความต้องการให้มีผู้สังเกตการณ์จากนานาชาติเข้ามาในพื้นที่ชายแดน เพื่อให้เกิดการหยุดยิงถาวร ในขณะที่กัมพูชา ยังยึดครองอยู่ ทำให้ฝ่ายไทยไม่สามารถใช้กำลังผลักดันออกไปได้ และส่งผลให้กัมพูชา สามารถครอบครองแผ่นดินไทยได้อย่างไม่มีกำหนดระยะเวลา พร้อมกับการจัดทำแผนบริหารจัดการเพื่อเตรียมขึ้นทะเบียนปราสาทอื่นๆ เป็นมรดกโลก โดยเฉพาะปราสาทตาเมือนธม ที่มีความชัดเจนว่า กัมพูชาเตรียมการไว้แล้ว
“ขอเรียกร้องให้ประเทศไทย หลุดออกจากพันธนาการนี้ โดยการผลักดันกัมพูชาออกจากแผ่นดินไทย โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ภูมะเขือ และวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ที่เป็นจุดสูงข่มในการใช้อาวุธทำร้ายราษฎรไทย ก่อนที่จัดให้มีการเจรจาในระดับทวิภาคี หรือในระดับนานาชาติที่กำลังเข้ามาแทรกแซงต่อไป เพราะหากไทยยังยืนยันที่จะไปเจรจาทั้งที่กัมพูชายังยึดครองแผ่นดินไทยอยู่ ก็จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกรณีปราสาทเขาพระวิหาร ที่ยูเอ็นเอสซี และอาเซียน เรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายหยุดยิง ทั้งที่กัมพูชายึดครองแผ่นดินไทยอยู่ เนื่องจากฝ่ายไทยไม่ยอมยืนยันเรื่องเส้นเขตแดน" นายปานเทพ กล่าว
นายปานเทพ กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เห็นความอ่อนแอของรัฐบาล และฝ่ายทหาร โดยเราขอให้กำลังใจนายทหารระดับปฏิบัติการ ที่ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ โดยใช้สามัญสำนึกของตัวเอง ในขณะที่ระดับผู้บังคับบัญชา กลับใช้วิธีการเจรจา และอพยพคนไทยออกจากแผ่นดินไทย ทั้งที่หลักการที่แท้จริงควรผลักดันกัมพูชาออกไปอย่างสุดความสามารถ พร้อมส่งกำลังบำรุงให้กับผู้ที่ทำหน้าที่อยู่อย่างเต็มที่
ล่าสุดนายเทพมนตรี ลิมปพยอม กรรมการป้องกันราชอาณาจักร ได้เดินทางไปบริเวณใกล้เคียงกับจุดปะทะ ที่ชายแดน จ.สุรินทร์ แล้วพบว่า ทหารยังทำหน้าที่ปกป้องปราสาทตาเมือนธมอยู่ได้ แต่ที่ปราสาทตาควายนั้น ทหารกัมพูชาขึ้นมายึดพื้นที่ประจัญหน้ากับทหารไทยแบบครึ่งๆ ของตัวปราสาท โดยการส่งกำลังบำรุงและเสบียงนั้นอ่อนแอมาก ไม่สามารถบริหารจัดการให้ทหารหาญมีอาหารการกิน และความเป็นอยู่ที่ดีพอ สะท้อนถึงปัญหาในการจัดการสวัสดิการ และเอาใจใส่ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ต้องเร่งทบทวนบทบาทของ พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งรับผิดชอบในพื้นที่ ที่ปล่อยให้กัมพูชาเข้ามายึดพื้นที่ ที่ไม่เคยยึดได้มาก่อน
"ความรับผิดชอบนี้ต้องโยงมาถึงฝ่ายการเมืองด้วย เพราะการยืนยันใช้เอ็มโอยู 2543 ได้ทำให้กัมพูชา เข้ามายึดดินแดนไทยเพิ่มเติม นอกจากพื้นที่เขาพระวิหาร แสดงให้เห็นว่า เอ็มโอยู 2543 ไม่สามารถใช้ทวงคืนแผ่นดินไทยได้แล้ว ยังไม่สามารถป้องกันการรุกล้ำดินแดนเพิ่มเติมจากฝ่ายกัมพูชา จึงขอเรียกร้องให้นายกฯ และรัฐบาลทบทวนบทบาทตัวเองเสียใหม่ ในการปกป้องอธิปไตยของชาติ และปรับขบวนครั้งใหญ่ ในส่วนของฝ่ายความมั่นคง" นายปานเทพกล่าว