สุรินทร์ - ชายแดนสุรินทร์ปะทะเดือดระลอก 3 หลังทหาร 2 ฝ่ายเผชิญหน้าตึงเครียดตลอดแนว “ตาควาย-ช่องกร่าง-ตาเมือนธม” พบเขมรเคลื่อนอาวุธหนักจากบ้านโกมุยด้านเขาพระวิหาร เข้าเสริมชายแดน “ปราสาทตาควาย-ตาเมือนธม” ล่าสุดมีรายงานทหารเจ็บแล้ว 1 นาย เผยทั้ง 2 ฝ่ายดวลปืนใหญ่ถล่มกันหนัก ขณะที่ศูนย์อพยพชั่วคราว 14 แห่งกว่า 15,000 คน ขาดน้ำดื่ม-ห้องสุขา เครื่องใช้ส่วนตัวเด็ก-สตรี
วันนี้ (24 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ได้เปิดฉากปะทะกันเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายใช้อาวุธเบาและอาวุธหนัก ทั้งปืนอาก้า 47, ปืนเอ็ม 16, ปืนกล และปืนค.ชนิดต่างๆ ยิงต่อสู้กันตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ไล่ตั้งแต่ด้านปราสาทตาควาย ต.บักได เรื่อยมาจนถึงช่องกร่าง บ้านหนองตาเลิฟ ต.บักได และปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ซึ่งได้ยินเสียงปืนยิงต่อสู้กันดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากนั้นทั้ง 2 ฝ่ายได้ยิงกระสุนใหญ่สนับสนุนแนวรบตอบโต้กันอย่างรุนแรง
ล่าสุดมีรายงานว่า ทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะกันดังกล่าวแล้วจำนวน 1 นาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำตัวออกจากจุดปะทะเพื่อส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลพนมดงรัก อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์
ขณะที่ประชาชนบางส่วนที่ยังปักหลักอยู่ในหมู่บ้านตามแนวชายแดนและอพยพกลับเข้าไปในพื้นที่ต้องอพยพหนีตายไปอยู่ในที่ปลอดภัยกันอย่างวุ่นวายอลหม่านอีกครั้ง และจนถึงขณะนี้ เวลา 12.00 น.ยังได้ยินเสียงปืนจากการปะทะกันดังขึ้นตลอดเวลา
ทั้งนี้ การเปิดฉากปะทะกันเป็นระลอกที่ 3 ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากทหารทั้ง 2 ฝ่ายยังคงตรึงกำลังเผชิญหน้ากันอย่างตรึงเครียดตลอดแนวชายแดน ตั้งแต่บริเวณปราสาทตาควาย ต.บักได-ช่องกราง บ.หนองตาเลิฟ ต.บักได-ปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก ระยะทาง 15-20 กิโลเมตร
นอกจากนี้ ทหารไทยยังตรวจพบความเคลื่อนไหวฝ่ายทหารกัมพูชา มีการเคลื่อนอาวุธหนัก จากพื้นที่บ้านโกมุย จ.พระวิหาร ชายแดนด้านเขาพระวิหาร ฝั่งประเทศกัมพูชา ตรงข้าม อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เข้ามาเสริมกำลังบริเวณชายแดนด้านตรงข้ามปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก เพิ่มขึ้นอีก
ขณะที่ทหารไทยยืนยันว่าจะไม่เปิดฉากยิงกัมพูชาก่อนแน่นอน แต่หากกัมพูชาเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงทหารไทยก็พร้อมตอบโต้เป็นครั้งๆไป ซึ่ง พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) ได้กำชับในแนวทางปฏิบัตินี้มาโดยตลอด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ในเขตชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.พนมดงรัก อย่างรุนแรงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ล่าสุดทาง จ.สุรินทร์ ได้เปิดศูนย์อพยพผู้ประสบภัยสงครามชั่วคราว เพิ่มรวมเป็นจำนวน 14 แห่ง ใน 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.พนมดงรัก, อ.กาบเชิง และ อ.ปราสาท ล่าสุดมีผู้ประสบภัยพักอาศัยอยู่ในศูนย์อพยพต่างๆ รวมประมาณ 15,000 คน ในจำนวนนี้มีศูนย์อพยพชั่วคราวขนาดใหญ่ 2 แห่ง คือ ที่โรงเรียนบ้านโคกกลาง ต.โคกกลาง อ.พนมดงรักและที่นิคมสร้างตนเอง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
ทั้งนี้ ล่าสุดหลังจากนายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เดินทางมาตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชนในศูนย์อพยพพร้อมมอบสิ่งของช่วยเหลือ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สร้างหรือจัดหาห้องสุขาเพิ่มเติม เนื่องจากเห็นว่าไม่เพียงพอกับจำนวนผู้อพยพ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประสานขอสนับสนุนรถสุขาเคลื่อนที่ของเทศบาล จาก จ.นครราชสีมา และ จ.ขอนแก่น เข้ามาสมทบช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้ประชาชนแล้ว
พร้อมกำชับไม่ให้ประชาชนผู้อพยพดื่มน้ำจากรถบรรทุกน้ำ เพราะเกรงจะไม่สะอาดให้ดื่มน้ำบรรจุน้ำขวดแทนเพื่อป้องกันเชื้อโรคและไม่ให้เกิดโรคทางเดินอาหาร รวมทั้งให้ประสานโรงเรียน และสถานที่ราชการใกล้เคียงกับศูนย์อพยพทุกแห่งเปิดห้องน้ำห้องส้วมให้ชาวบ้านได้เข้าใช้อย่างทั่วถึงด้วย หลังพบว่าแต่ละศูนย์อพยพชั่วคราวมีจำนวนห้องน้ำและน้ำอาบไม่เพียงพอ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ศูนย์อพยพผู้ประสบภัยสงคราม ชั่วคราวทั้ง 14 แห่งของ จ.สุรินทร์ ใน 3 อำเภอ ยังคงขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะน้ำดื่มบรรจุขวดและห้องสุขา รวมถึงเครื่องใช้ส่วนตัวของสตรี และเด็กเล็กต่างๆ เช่น ผ้าอนามัย เป็นต้น
ส่วนที่ด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ล่าสุดเช้าวันนี้ (24 เม.ย.) พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) ได้มีคำสั่งให้เปิดประตูด่านให้ประชาชนทั้ง 2 ประเทศสามารถเดินทางผ่านแดนและค้าขายได้ตามปกติแล้ว หลังสั่งปิดชั่วคราวจากเหตุการณ์ปะทะกันที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาด้าน อ.พนมรัก ติดต่อกัน 2 วันที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ด้านชายแดน ด.พนมดังรก ขึ้นอีกในเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันนี้ ( 24 เม.ย.) ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้มีคำสั่งให้ทำการปิดด่านช่องจอมเป็นการด่วนอย่างไม่กำหนดอีกครั้ง หลังจากเปิดด่านได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง พร้อมสั่งห้ามส่งน้ำมันเชื้อเพลิงและสินค้ายุทธปัจจัยจากประเทศไทยเข้าไปยังฝั่งกัมพูชาในช่วงนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของกัมพูชาพยายามเข้ามาเจรจากับเจ้าหน้าที่ไทยเพื่อให้เปิดด่านช่องจอมตามปกติ แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยไม่สามารถดำเนินการได้