สุรินทร์ - “มาร์ค” ประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ รับทราบสถานการณ์สู้รบชายแดนสุรินทร์ กำชับดูแลความปลอดภัย ปชช.เป็นอันดับแรก ยันรัฐบาลพยายามเจรจาคลี่คลายโดยเร็วที่สุด ระบุ เขมรยิงก่อน ไทยยึดหลักสากล ตอบโต้เฉพาะฐานทหาร ผู้ว่าฯสุรินทร์ สรุปยอดทหารพลีชีพรวม 4 นาย เจ็บ 27 นาย เปิดศูนย์อพยพ 22 แห่ง ผู้ประสบภัยกว่า 23,000 คน ยันไม่มี ปชช.เสียชีวิต เผย “ฮุน มาเน็ต” ลูกชาย “ฮุน เซน” โผล่ชายแดนบัญชาการรบเอง จ่อปะทะอีกด้าน “เขาวิหาร”
วันนี้ (24 เม.ย.) เวลา 14.00 น.ที่ผ่านมา ที่ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ติดตามสถานการณ์ชายแดนด้าน จ.สุรินทร์ กับ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมี พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2), นายเสริม ไชยณรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และ นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ รายงานถึงสถานการณ์ชายแดน และการอพยพช่วยเหลือประชาชน
นอกจากนี้ ยังมี นายณัฐ ชาติวัฒนศิริ นายอำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์, พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) สุรินทร์, นายวชิระ เกตุพันธุ์ นายอำเภอพนมดงรัก, นายพิจิตร บุญทัน นายอำเภอกาบเชิง, นายสันติชัย คงเถลิงศิริวัฒนา นายอำเภอปราสาท จ.สุรินทร์, นพ.สะอาด วีระเจริญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์, ร.ต.อ.นครินทร์ เกตุสิริ ป้องกันจังหวัดสุรินทร์ และ พ.ต.อ.เดชา คำเกิด ผกก.ตชด.ที่ 21 เข้าร่วมประชุมและรับนโยบายจากนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ด้วย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนมีความห่วงใยในความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ต้องเน้นเรื่องความปลอดภัยของประชาชนเป็นอันดับแรก ซึ่งมีประชาชนเกือบ 3 หมื่นคน ที่ต้องอพยพออกจากพื้นที่ และทหารก็มีหน้าที่ในการรักษาอธิปไตย ในเมื่อกัมพูชามีความพยายามที่จะละเมิดอธิปไตยและทำให้กระทบกระเทือนต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนด้วย ก็ต้องมีการตอบโต้ ซึ่งไทยเรายังคงยึดถือหลักสากล คือ การตอบโต้ไปยังเป้าหมายทางทหารเท่านั้น และตอบโต้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์และการใช้กำลังของกัมพูชา ขณะเดียวกัน ด้านการต่างประเทศก็พยายามหาทางคลี่คลายสถานการณ์โดยเร็วที่สุด
ด้าน นายเสริม ไชยณรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวรายงานว่า จ.สุรินทร์ มีความพร้อมในการช่วยเหลือและดูแลรักษาความปลอดภัยของประชาชนได้อย่างทั่วถึง ส่วนทหารที่เสียชีวิตจากการสู้รบมี 4 นาย และบาดเจ็บทั้งหมดรวมวันนี้ 3 ราย เป็น 27 นาย ส่วนประชาชนไม่มีเสียชีวิต และบ้านเรือนประชาชนก็ไม่ได้รับความเสียหาย
สำหรับที่มีข่าวว่า ชาวบ้านเสียชีวิต 1 รายนั้น เป็นโรคประจำตัว ซึ่งรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ยังไม่เสียชีวิต และล่าสุด จ.สุรินทร์ ได้เปิดศูนย์อพยพชั่วรองรับประชาชนผู้ประสบภัยแล้วทั้งหมด 22 แห่ง รวมผู้อพยพกว่า 23,000 คน ส่วนเรื่องอาหารมีการช่วยเหลือทั้งอาหารผู้ใหญ่และเด็ก
ส่วนการก่อสร้างหลุมหลบภัยที่ทาง จ.สุรินทร์ เสนองบประมาณเข้าไป ประกอบด้วย ในพื้นที่ อ.พนมดงรัก จำนวน 40 แห่ง และ อ.กาบเชิง อีก 131 แห่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรัฐบาลพิจารณาอนุมัติ
ขณะที่ พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) กล่าวว่า สำหรับความเคลื่อนไหวชายแดนไทย-กัมพูชา ทางด้านเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ นั้น ล่าสุด ทหารไทยตรวจการณ์พบความเคลื่อนไหวทหารกัมพูชาได้เปิดผ้าคลุมปืนใหญ่ และ เครื่องยิงจรวด BM 21 ขนาด 40 ลำกล้องเพื่อเตรียมพร้อมยิง ซึ่งมีแนวโน้มอาจเกิดเหตุการณ์ปะทะขึ้นอีกในชายแดนด้านนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับสถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารไทย กับทหารกับพูชา บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาควาย-ช่องกร่าง ต.บักได และ ปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ที่เปิดฉากปะทะกันในวันที่ 3 ในวันนี้ (24 เม.ย.) ตั้งแต่เวลา 10.00 น.เป็นต้นมา นั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 16.30 น.การปะทะได้เพิ่มความดุเดือดขึ้นอีกครั้ง เมื่อทหารกัมพูชาหน่วยรบพิเศษ 91 ซึ่งทราบว่า มี พล.ท.ฮุน มาเน็ต บุตรชาย สมเด็จฯ ฮุน เชน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษ 91 เดินทางมาบัญชาการรบด้วยตนเอง ได้สั่งให้ทหารกว่า 100 นาย พยายามบุกเข้าโจมตีฐานที่มั่นทหารไทย บริเวณปราสาทตาเมือนธม และทหารไทยได้เปิดฉากยิงปะทะอย่างหนัก ทั้ง ปืนกล และ ปืนใหญ่ ทำให้ทหารกัมพูชาต้องถอยห่างออกไปจากจุดแนวปะทะใกล้ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งทหารหน่วยรบพิเศษ 91 กัมพูชาใช้วิธีการเช่นนี้ เข้าต่อสู้กับทหารไทย ตลอดทั้งวัน
โดยการเหตุการณ์ปะทะกันตลอดทั้งวันนี้ เป็นผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ รวม 3 นาย ประกอบด้วย ร.ต.อดิศักดิ์ บุงนาม ผู้บังคับหมู่ปืนเล็ก สังกัด ร.2341, พลทหาร ชิดพล พุทไธสง สังกัดร้อย ร.23 พัน 4 และ อาสาสมัครทหารพราน (ทพ.) กรกต ดีดวงพันธ์ สังกัดร้อยทหารพราน 2606 ชุดเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ซึ่งทั้งหมดได้นำส่งโรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ อ.พนมดงรัก ก่อนส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน จังหวัดทหารบกสุรินทร์ และ โรงพยาบาลสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ แล้ว
