สุรินทร์- ปะทะเดือดชายแดน “ตาควาย-ตาเมือนธม” ด้าน อ.พนมดงรัก สุรินทร์ นานกว่า 5 ชั่วโมง ทหารไทยพลีชีพแล้ว 1 เจ็บ 13 นาย เร่งอพยพประชาชนชาวพนมดงรักตามหมู่บ้านชายแดนไทย-กัมพูชา ไปอยู่ศูนย์อพยพชั่วคราว 4 จุดแล้วกว่า 5,000 คน ด้าน กองทัพภาค 2 สั่งปิดด่วน “ด่านช่องจอม” อ.กาบเชิง ไม่มีกำหนด
วันนี้ (22 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เหตุการณ์ทหารไทยและทหารกัมพูชาเปิดฉากปะทะกันอย่างรุนแรงด้วยอาวุธหนัก-เบา ทั้งปืนเอเค 47, เอ็ม 16, ปืนกล, ปืน ค.60 และการยิงสนับสนุนด้วยปืนใหญ่ ที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน ปราสาทตาควาย ต.บักได อ.พนมดงรัก เรื่อยไปจนถึงบริเวณปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ตั้งแต่เวลาประมาณ 06.00 น.นั้น ขณะนี้ เสียงปืนการยิงต่อสู้กันของทหารทั้ง 2 ฝ่าย ได้เงียบลงชั่วคราวในเวลาประมาณ 11.00 น.
ล่าสุด มีเจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อยจู่โจมที่ 926 ฐานปฏิบัติการปราสาทตาควาย ทหารพรานกองร้อยจู่โจม ที่ 960 ฐานปฏิบัติการปราสาทตาเมือนธม กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 13 ราย และเสียชีวิต 1 ราย ยังไม่ทราบ ชื่อและสังกัด พร้อมทั้งมีการประสานงานนำเฮลิคอปเตอร์ เดินทางมารับผู้ได้รับบาดเจ็บไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา จำนวน 3 เที่ยว
เบื้องต้นรายชื่อทหารไทยที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะ ถูกนำส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลพนมดงรัก ประกอบด้วย 1.จ.ส.อ.ธนเศรษฐ์ สาคร ส่งต่อรพ.สุรินทร์ 2.พลทหาร อดิเรก แซ้อึ้ง ส่งต่อ รพ.สุรินทร์ 3.ส.อ.กิตติเดช ทรงศรี ส่งต่อ รพ.สุรินทร์ 4.อาสาสมัครทหารพราน (ทพ.) บุญญาฤทธิ์ บัวงาม ส่งต่อ รพ.สุรินทร์ 5.ทพ.ศุภชัย ฤทธิแสง นอนรพ.พนมดงรัก 6.ทพ.ทองเลื่อน ศรีสุข แพทย์อนุญาตให้กลับบ้าน 7.ทพ.สุทธิชัย สุดทวีป 8.ทพ.เทพมนตรี ตุ้มจงกุล และ 9.ทพ.จักรี ร้อยหาญ เป็นต้น
ขณะที่โรงพยาบาลพนมดงรัก ได้งดรับผู้ป่วยนอกทั้งหมด และเคลื่อนย้ายผู้ป่วยใน จากโรงพยาบาลพนมดงรัก ไปรักษาตัว ต่อ ที่โรงพยาบาลปราสาททั้งหมด และระดมเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล และเวชภัณฑ์ จากโรงพยาบาลใกล้เคียง เช่น รพ.กาบเชิง รพ.ปราสาท และรพ.สุรินทร์ เข้ามารองรับสถานการณ์การสู้รบดังกล่าวอย่างเร่งด่วน
ด้านทางอำเภอพนมดงรัก ได้แจ้งเตือนให้ประชาชนให้อพยพออกนอกจากพื้น ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยได้เปิดศูนย์อพยพชั่วคราว ขึ้นจำนวน 4 แห่ง ประกอบด้วย นิคมสร้างตนเอง อ.ปราสาท, โรงเรียนพนมดงรักวิทยา ต.จีกแดก, โรงเรียนบ้านโคกกลาง ต.โคกกลาง อ.พนมดงรัก และ วัดบ้านโนนสมบูรณ์ ต.โคกกลาง อ.พนมดังรัก มีผู้อพยพรวมกว่า 5,000 คน แล้ว และทางเจ้าหน้าที่ยังได้ขยายเปิดศูนย์อพยพชั่วคราวเพื่อรองรับประชาชนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
นายเสริม ไชยณรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้เดินทางมาอำนวยการการอพยพประชาชน ที่อ.พนมดังรัก และรับทราบแผนการอพยพชาวบ้าน จากพื้นที่ชายแดน เข้าไปยังพื้นที่ปลอดภัยที่กำหนดไว้ พร้อมกำกับการดูแล อำนวยความสะดวก อาหาร น้ำดื่ม ที่พัก แก่ ประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อน อย่างเร่งด่วน
ล่าสุด กองทัพภาคที่ 2 กองกำลังสุรนารี ได้สั่งปิด ด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ อย่างไม่มีกำหนด แล้ว