xs
xsm
sm
md
lg

ทหารไทย-เขมรปะทะเดือดชายแดน! “ตาควาย-ตาเมือนธม” - ไทยเจ็บแล้ว 8 นาย สาหัส 3

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปราสาทตาควาย ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ (แฟ้มภาพ)
สุรินทร์- ทหารไทย-เขมรเปิดฉากปะทะเดือดตลอดแนวชายแดน ปราสาทตาควาย- ตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ สั่งเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่แล้ว ล่าสุดทหารไทยบาดเจ็บ 8 นาย สาหัส 3 นาย ด้าน รพ.พนมดงรักประสานระดมแพทย์ พยาบาลและเวชภัณฑ์จาก รพ.ใกล้เคียงช่วยรับมือจากเหตุการณ์สู้รบ



วันนี้ (22 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุปะทะกันอย่างหนักระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย ที่ประจำการฐานที่มั่นปราสาทตาควาย ต.บักได อ.พนมดงรัก เรื่อยไปจนถึงบริเวณปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ โดยทหารทั้ง 2 ฝ่ายได้ใช้ทั้งอาวุธเบาและหนัก เช่น ปืนเอเค 47 เอ็ม 16 ปืนกล ปืน ค.60 และปืนใหญ่ยิงถล่มเข้าใส่กันเสียงดังสนั่นหวั่นไหวตลอดแนวชายแดนดังกล่าว ตั้งแต่เวลา 06.00 น. เป็นต้นมา ล่าสุดจนถึง เวลา 09.30 น. เสียงปืนจากการต่อสู้กันยังดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

รายงานข่าวระบุว่า สาเหตุเกิดการปะทะกันครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากทหารไทยและกัมพูชาต่างพยายามห้ามไม่ให้กำลังทหารติดอาวุธของทั้งสองฝ่ายเข้ามาวางกำลังในบริเวณปราสาทตาควาย เนื่องจากต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิในการครอบครองพื้นที่ โดยทหารไทยยืนยันว่าปราสาทตาควายเป็นพื้นที่ของไทย และจะมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของทหารไทยเข้าพื้นที่ แต่ทหารกัมพูชาไม่ยอมให้เข้า และอีกหนึ่งประเด็นเกิดจากการที่ทหารไทยนำพระพุทธรูปไปประดิษฐานที่ปราสาทตาควาย ทำให้ฝ่ายทหารเขมรไม่พอใจ จนเกิดความตึงเครียดมาอย่างหนัก และเกิดการปะทะอันอย่างรุนแรงตลอดแนวชายไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาควาย ต.บักได อ.พนมดงรัก จน ถึง ปราสาตาเมือนธม ต.ตาเมียง อยู่ในขณะนี้

เมื่อเวลาประมาณ 07.35 น. ทหารกัมพูชาได้ยิงกระสุนปืนใหญ่ตกข้าง สภ.พนมดงรัก 1 ลูก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบความเสียหาย และล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้มีการแจ้งเตือนให้ประชาชนอพยพออกนอกจากพื้นชายแดนเข้าไปอยู่ในที่ปลอดภัย และทางอำเภอพนมดงรักได้ทำการอพยพประชาชนที่อาศัยตามแนวชายแดนเข้าไปอยู่ในพื้นที่รองรับที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้อยู่แล้ว

พระครูสัน เจ้าอาวาสวัดป่าเขาโต๊ะ กล่าวว่า ฝ่ายกัมพูชามีฐานที่มั่นจุดยิงปืนใหญ่ อยู่หลังวัดป่าเขาโต๊ะ ห่างจากชายแดนไทยประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งได้พบเห็นทหารกัมพูชาลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์มา 2-3 วันแล้ว ทั้งที่ทหารไทยได้เจรจาให้กัมพูชานำอาวุธหนักปืนใหญ่ออกห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชา 15 กิโลเมตร ตามสนธิสัญญาเจนีวา แต่ไม่เป็นผล ทำให้ทหารกัมพูชาไม่พอใจจึงเป็นเหตุของการปะทะดุเดือดดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ยังไม่หยุดยิงแต่อย่างใด

ทางด้านโรงพยาบาลพนมดงรัก อ.พนมดงรัก รายงานว่า ได้รับทหารไทยที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะจำนวน 8 นาย มี 3 นายได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกสะเก็ดระเบิดต้องส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ส่วนอีก 5 นายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และขณะนี้ทางโรงพยาบาลพนมดงรักได้ประกาศงดรับผู้ป่วยปกติทั่วไปโดยจะรับรักษาผู้ป่วยจากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชาเท่านั้น พร้อมได้ประสานระดมกำลังเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล พร้อมเวชภัณฑ์จากโรงพยาบาลใกล้เคียง ทั้งโรงพยาบาลปราสาท อ.ปราสาท, รพ.กาบเชิง อ.กาบเชิง และโรงพยาบาลสุรินทร์ อ.เมืองสุรินทร์ เข้ามาช่วยรับมือผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์การสู้รบดังกล่าวเพิ่มเติม

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย ต.บักได และ ตาเมือนธม. ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ดังกล่าวได้มีกระสุนปืนใหญ่ฝ่ายทหารกัมพูชาเข้าตกในหมู่บ้านเขตแดนไทย ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนเสียหายเบื้องต้นกว่า 3 หลัง ชาวบ้าน 20 หมู่บ้านใน ต.บักได ต้องเร่งอพยพออกจากบ้านกันอย่างอลหม่าน

นายวินันท์ สุขประสบ กำนันตำบลบักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้อพยพประชาชนใน 20 หมู่บ้าน ต.บักได หลายพันคนออกจากหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา มาอยู่ในที่ปลอดภัยรวมกัน 3 จุด ประกอบด้วย โรงเรียนพนมดงรักวิทยา ต.จีกแดก อ.พนมดังรัก , โรงเรียนบ้านโคกกลาง ต.โคกกลาง อ.พนมดงรัก และ นิคมสร้างตนเอง อ.ปราสาท ซึ่งเป็นไปตามแผนการอพยพประชาชนหนีภัยการสู้รบที่ภาครัฐได้เตรียมการไว้

ขณะนี้ชาวบ้านหลายคนอยู่ในอาการหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะมีเสียงปืนเล็ก และปืนใหญ่ยิงเข้าใส่หมู่บ้านในฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนแตกตื่นวิ่งหลบหนีกันวุ่นวายอลหม่าน

ในเบื้องต้นได้ประสานไปยังที่ว่าการอำเภอพนมดงรักและ สภ.พนมดงรัก เจ้าหน้าที่ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อพปร.) และ อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) เข้ามาช่วยเหลือในการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากเนื่องจากเหตุเกิดในช่วงเช้า ทำให้หลายคนยังไม่ได้รับประทานอาหาร จึงขอให้ทางภาครัฐเร่งช่วยเหลือในเรื่องอาหาร น้ำดื่มและสุขาเคลื่อนที่ โดยด่วน

รายงานข่าวแจ้งว่า ทหารกัมพูชาที่เข้าปะทะกับทหารดังกล่าวเป็นกองกำลังจากกองพลน้อย 42 กองพลทหารภูมิภาคที่ 4 ประเทศกัมพูชา มี พล.ท.เจียมอน ผบ.กองพลภูมิภาคที่ 4 ซึ่งเป็นผู้ที่รับผิดชอบพื้นที่จ.พระวิหาร-จ.อุดรมีชัย กัมพูชา เป็นผู้บัญชาการ ซึ่งตั้งกองกำลังอยู่บริเวณ บ้านกู่ ต.บันเตีย อ.สำโรง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ห่างจากชายแดนไทยประมาณ 6 กิโลเมตร (กม.)โดยมีอาวุธหนักทั้งปืนใหญ่ รถถัง อาวุธขนาดกลาง มีปืน ค. ปืนอาร์พีจี จำนวนมาก

ทั้งนี้กองกำลังทหารกัมพูชา ได้แยกกันเข้าประจำการ 2 จุด คือ บริเวณชายแดนด้านปราสาทตาเมือนควาย จำนวน 500 นาย และ ชายแดนด้านปราสาทตาเมือนธม อีก 500 นาย แต่ละจุดมีรถถังจุดละ 5 คัน โดยกองกำลังเขมรที่เข้าตรึงกำลังชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ได้รับการสนับสนุนกองกำลังทหารบกจำนวน 1 กองพัน มีอาวุธหนักปืนใหญ่ประมาณ 3 กระบอก รถถัง 5 คัน ซึ่งเป็นกองกำลังที่เดินทางมาจากชายแดนเขาพระวิหาร ด้านจ.ศรีสะเกษ เข้ามาสมทบกองพลน้อย 42

กำลังทหารไทยในปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ (แฟ้มภาพ)

กำลังโหลดความคิดเห็น