สุรินทร์ - ปะทะรอบ 2 ชายแดน “พนมดงรัก” สุรินทร์ สุดดุเดือด ! ทหารไทย-เขมร ต่างระดมอาวุธยิงถล่มใส่กันอย่างหนักหน่วงตลอดครึ่งวันที่ผ่านมา พร้อมระดมกำลัง-อาวุธหนักเสริมแนวรบเต็มอัตราศึก ทหารเจ็บ 7 เสียชีวิต 1 การสู้รบจ่อขยายพื้นที่ไปอ.กาบเชิง สั่งอพยพชาวบ้านชายแดน 5 ตำบลด่วน 15,000 คน ขณะกลุ่มวัยรุ่นร่วมช่วยทหารขนลูกปืนใหญ่ยิงสู้เขมร ลือสะพัดเตรียมเปิดฉากปะทะอีกที่ “เขาวิหาร” เผยแนวโน้มรบยืดเยื้อถึงขั้นแตกหัก
วันนี้ ( 23 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุการณ์ปะทะเดือดรอบ 2 ระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ตลอดแนวชายแดนไทย - กัมพูชา บริเวณปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก เรื่อยไปจนถึง ช่องกร่าง บ้านหนองตาเลิฟ ต.บักได และ ปราสาทตาควาย ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ตั้งแต่เวลาประมาณ 06.00 น. เป็นต้นมานั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น.ทหารทั้ง 2 ฝ่าย ยังระดมอาวุธหนัก-เบา ทั้ง ปืน อาร์ก้า เอเค 47 ,ปืนเอ็ม 16 , ปืน กล ปืน คอ ชนิดต่างๆ ยิงต่อสู้กันอย่างดุเดือดและต่อเนื่อง เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวตลอดแนวชายแดน ด้านนี้เป็นระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร (กม.)
นอกจากนั้น ทหารไทย ยังระดมยิงปืนใหญ่ ขนาดต่างๆ เข้าใส่ทหารกัมพูชา ที่ได้เสริมกำลัง พร้อมอาวุธหนักเข้ายังชายแดนไทยบริเวณปราสาทตาควาย และฐานที่มั่น ที่บริเวณบ้านทมอโดน และบ้านปราสาทตาเมือนธมใหม่ ซึ่งเป็นฐานที่ตั้งของหน่วยทหารเขมรในฝั่งชายแดนประเทศกัมพูชาอย่างหนัก ซึ่งเป็นที่สังเกตว่านี้ ทหารไทยได้ระดมการยิงกระสุนปืนใหญ่เข้าใส่ที่ตั้งกำลังทหารเขมรหนักหน่วงรุนแรงและต่อเนื่อง สลับกับการระดมยิงในพื้นที่แนวปะทะ ทำให้เสียงปืนดังกึกก้องไม่หยุดตลอดครึ่งวันที่ผ่านมา
ขณะที่ฝ่ายทหารกัมพูชา ได้ระดมยิงปืนตอบโต้ทหารไทย อย่างหนักเช่นกัน กระสุนปืนทหารกัมพูชาเข้าตกลงใกล้บริเวณปราสาทตาควาย และ ปราสาทตาเมือนธม เป็นจำนวนมาก
ผลจากการปะทะกันอย่างดุเดือดดังกล่าว ทำให้ทหารไทยเสียชีวิต 1 นาย คือ อาสาสมัครทหารพราน (ทพ.) สมคิด สมศรี สังกัดกองร้อยทหารพราน 2602 ที่จุดปะทะบริเวณปราสาทตาควาย และ บาดเจ็บ 7 นาย สาหัส 1 นาย โดยได้รับบาดเจ็บที่จุดปะทะ บริเวณปราสาทตาเมือนธม จำนวน 2 นาย คือ ทพ. สุพจน์ ทรงเนียนศรี ทหารพราน สังกัดกองร้อย ที่ 2607 และ ทพ. ฤทธิชัย เจียมรัมย์ ทหารพราน สังกัดกองร้อยที่ 2607 ชุดเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี(กกล.สุรนารี) กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2)
นอกจากนี้ ยังมีทหารชุดเฉพาะกิจที่ 2 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อีก 5 นาย ได้รับบาดเจ็บ จากสะเก็ดระเบิด ขณะนี้ถูกนำตัวส่งเข้ารักษา ที่โรงพยาบาลพนมดงรัก อ.พนมดงรัก และส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสุรินทร์ , โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน อ.เมือง จ.สุรินทร์ ทั้งหมดอาการปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้การสู้รบระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา มีแนวโน้มสูงที่จะขยายพื้นที่จากเขต อ.พนมดงรัก ไปยังชายแดนด้าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จ.สุรินทร์ ดังนั้นทางจังหวัดฯจึงได้สั่งอพยพประชาชนตามแนวชายแดน จาก 5 ตำบล ใน อ.กาบเชิง ที่อยู่ในรัศมีกระสุนใหญ่ทหารเขมร ไปยังพื้นที่ปลอดภัย ที่ อ.สังขะ 1 แห่ง และ ที่โรงเรียนบ้านคูตัน 1 แห่ง รวมกว่า 15,000 คนแล้ว
สำหรับประชาชน ในพื้นที่ ต.ตาเมียง และ ต.บักได อ.พนมดงรัก ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย พื้นที่ที่มีการปะทะกันรุนแรง ล่าสุดประชาชน กว่า 5,000 คน ที่ยังติดค้างในพื้นที่ ได้เคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ไปอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราว ที่ นิคมสร้างตนเอง อ.ปราสาท และโรงเรียนประสาทวิทยาคาร และโรงเรียนโสตศึกษา อ.ปราสาท ทั้งหมดแล้ว
ส่วนในหมู่บ้านแนวชายแดน ของ อ.พนมดงรัก คงเหลือเพียงชายฉกรรจ์ วัยรุ่น หัวหน้าครอบครัว และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ที่ได้รับการแจกจ่ายอาวุธปืนลูกซอง 5 นัด อยู่รักษาความปลอดภัยภายในหมู่บ้านชุมชนต่างๆ ร่วมกับทางราชการ ซึ่งวัยรุ่นหลายคนได้สมัครใจเข้าช่วยเหลือทหารไทยในการบรรทุกและบรรจุกระสุนปืนใหญ่ ยิงต่อสู้กับทหารเขมร ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้เป็นชาวบ้านในพื้นที่ ต.บักได ที่เต็มใจร่วมช่วยเหลือทางราชการในการปกป้องผืนแผ่นดินไทย
ทางด้าน ด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ กองทัพภาคที่ 2 ยังคงสั่งปิดด่านต่อไปอย่างไม่มีกำหนด
อย่างไรก็ตามมีกระแสข่าวแพร่สะพัดในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.พนมดงรัก ว่า ทหารเขมรจะเปิดฉากปะทะขึ้นอีกที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งจะเป็นการสู้รบรุนแรง เช่นเดียวกับพื้นที่ อ.พนมดงรัก ซึ่งกระแสข่าวดังกล่าวหลายฝ่ายกำลังติดตามสถานการณ์ อย่างใกล้ชิด
ขณะเดียวกันในช่วงเช้าวันนี้ ( 23 เม.ย.) กองทัพภาคที่ 2 ได้สนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ ทั้ง กระสุน และอาวุธหนัก เข้าเสริมหน่วยรบหลัก ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ อย่างต่อเนื่องเต็มอัตรากำลัง ซึ่งคาดการสู้รบระหว่างไทยกับกัมพูชา ครั้งนี้มีแนวโน้มยืดเยื้อยาวนาน ถึงขั้นแตกหัก