ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - หลังจากที่ห่างหายไปนานพอสมควร สำหรับ นช.ทักษิณ ชินวัตรในฐานะแม่ทัพเสื้อแดงที่คอยบัญชาลูกสมุนแกนนำเสื้อแดงในสงครามชิงเมืองก่อนนำไปสู่เหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง ซึ่งสุดท้ายก็พ่ายแพ้ไปอย่างยับเยิน ในที่สุด นายใหญ่ของคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยก็กลับมาบัญชาการทัพด้วยตัวเองอีกครั้ง
ในช่วงเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง อาจกล่าวได้ว่าการห่างหายของเขาไปช่วงเวลาหนึ่ง เพราะต้องการลบภาพว่าตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับความรุนแรงในการชุมนุมของคนเสื้อแดง แต่อย่างไรเสียสังคมก็รับรู้ รับทราบความเป็นจริงอย่างถ่องแท้แล้วว่าเขาคือคนที่อยู่เบื้องหลังในการสั่งการและความเป็นไปทุกอย่างของพรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดง อย่างปฏิเสธเสียมิได้
แต่ด้วยในห้วงเวลาที่การเมืองจะพลิกเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง ซึ่งต้องถือว่าขณะนี้เป็นการขับเคี่ยวกันระหว่าง “พรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย” ยามนี้แต่ละพรรคจึงต้องงัดสารพัดกลยุทธ์ต่างๆ นานา ที่ต้องทำคะแนนแข่งกันกันทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และดูเหมือนว่าสังคมจะได้เห็นสัญญาณทางการเมืองของ นช.ทักษิณ ชินวัตร จากการโฟนอินและวีดิโอลิงก์ดังถี่ยิบขึ้นมาเรื่อยๆ อย่างมีนัยสำคัญ
อาทิ ที่สนามกีฬากลางหนองกระทิง อ.เมือง จ.ลำปาง
"หากมีการเลือกตั้งใหม่ พรรคเพื่อไทยได้รับชัยชนะ และได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล อีก 3 เดือนให้หลัง ผมจะกลับมาเมืองไทย เพื่อต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ เพื่อบ้านเมืองของเราจะได้ไม่ถดถอยเหมือนอย่างทุกวันนี้ ขอให้คนลำปางช่วยนำตนเองกลับเข้ามาเมืองไทยด้วย เพราะคิดถึงคนไทยทุกคน"
หรือจะเป็นที่ สนามในหมู่บ้านกรีนวัลเลย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ซึ่งทางแกนนำพรรคเพื่อไทยและบรรดาคนใกล้ชิด ก็ได้จัดพิธีสระเกล้าดำหัวให้กับเขา โดยมีนายสมชาย และนางเยาวภา วงษ์สวัสดิ์ นายพายัพ ชินวัตร เข้าร่วม นช.ทักษิณได้วิดีโอลิงก์มาทักทายผู้ร่วมงาน พร้อมได้จัดพิธีรดน้ำดำหัวออนไลน์ โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งอยู่กับเขาที่ต่างประเทศได้เป็นตัวแทนผู้ร่วมงานรดน้ำให้
"เอาไว้วันที่ 30 เมษายนนี้ ผมจะออนไลน์มาอีกครั้ง จะมาพูดให้ฟังว่าจะทำอะไรให้บ้านเมืองเจริญ ขอบคุณทุกคนที่รำลึกถึงผม ขอให้ทุกคนอดทนอดกลั้นและเข้มแข็ง วันไหนที่ความเข้าใจเกิดขึ้นวันนั้นเราจะมีชัยอย่างมั่นคงถาวร นั้นคือชัยชนะแห่งความดี วันนั้นผมมั่นใจว่าจะได้กลับไปทำให้คนบ้านเรามีความสุข อยู่ดีกินดี ร่ำรวยกัน"
หรือจะเป็นก่อนหน้านี้ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ หนังสือพิมพ์ เดอะ วอลล์สตรีทเจอร์นัล จากบ้านพักในกรุงดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยประกาศเจตนารมณ์ว่าจะกลับมามีบทบาทสำคัญในการบริหารประเทศจากต่างแดนหากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง
ไม่เว้นแม้แต่ ช่องทางทวิตเตอร์ เขาก็ยังได้ส่งข้อความว่า "ผมขอส่งความสุขและความปรารถนาดีมายังพี่น้องคนไทยทุกคนเนื่องในวันสงกรานต์ด้วยความเคารพรักและคิดถึงด้วยครับ ขอให้พักผ่อนให้สนุกและปลอดภัยครับ หลังสงกรานต์อยากขอร้องให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากันในฐานะคนไทยด้วยกันสาดน้ำเสร็จก็สะอาดแล้วหยุดสาดโคลนการเมืองกันเถอะ บ้านเมืองจะได้เดินต่อไปได้"
เรียกว่าตัวมาไม่ได้ ก็ใช้ภาพและเสียงแทน โดยการใช้วิธีชิงอำนาจผ่านสนามเลือกตั้ง อาศัยมัดใจฐานมวลชนเสื้อแดงที่ยังจงรักภักดี ในการนำเขากลับประเทศไทย หากจับสัญญาณการพูดของเขาก็ชัดถึงแนวทางว่า หากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ก็จะกลับมาเมืองไทยนั้น เล่นเอาอุณหภูมิการเมืองร้อนฉ่าขึ้นมาไม่น้อย
ยิ่งเด่นชัดเข้าไปอีก เมื่อพล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารบก ญาติผู้พี่ทักษิณ ก็ยังออกมาขานรับ ว่าถ้าหากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง จะต้องมีการหารือถึงแนวทางการขออภัยโทษ และมั่นใจว่าถ้า นช.ทักษิณ กลับมาประเทศจะสงบและจะไม่มีการเรียกร้องเอาสมบัติคืน
ดังนั้น จึงอย่าได้แปลกใจ หาก นช.ทักษิณ จะปรากฏตัวผ่านสื่อต่างๆอย่างบ่อยครั้ง ซึ่งยังถือเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งในการเลือกตั้งที่จะมาถึงในเร็ววันอีกด้วย เพราะหากปล่อยให้พรรคประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้งโอกาสที่เขาจะได้กลับประเทศย่อมมืดมนเข้าไปทุกทีเช่นกัน เรียกได้ว่าอาจจะเป็นการเดิมพันครั้งสุดท้ายของเขาเลยทีเดียว
ขณะเดียวกัน การที่ นช.ทักษิณ ได้ลงทุนเดินเกมด้วยตัวเองในการโฟนอิน ไปตามจังหวัดต่างๆใ นภาคเหนือและภาคอีสาน ทางหนึ่งก็เพื่อหยั่งเสียงเรตติ้งให้กับตัวเขาเอง ซึ่งก็ยังนับว่ายี่ห้อ นช.ทักษิณ ยังเป็นจุดขายของคนในพื้นที่สีแดงแจ๋อยู่ไม่เสื่อมคลาย สอดรับกับผลโพลของทางพรรคเพื่อไทยที่ได้ออกมาขย่มรัฐบาลอยู่บ่อยครั้งว่า เพื่อไทยจะกวาด ส.ส.ได้จำนวนกว่า 260-270 คน
ขณะที่ในอีกทางหนึ่งก็สามารถหวังผลสยบอำนาจกลุ่มก๊วนภายในพรรคเพื่อไทยที่นับวันจะยิ่งขยายอำนาจ แตกแถว หรือพร้อมที่จะกระชับอำนาจภายในพรรคเพื่อไทย อย่าง กลุ่มมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รวมไปถึงกลุ่มก๊วนต่างๆ ว่าเขาคือจุดขายที่แท้จริงของพรรคเพื่อไทย ที่ไม่ว่าใครในพรรคก็จำเป็นต้องเกาะใบบุญ และหากใครคิดจะทำการใดก็ต้องคิดหน้าคิดหลังให้จงดี ซึ่งจากนี้คาดการณ์ได้ว่ากว่าจะถึงวันสมัครเลือกตั้งจริง คงจะมีแรงกระเพื่อมภายในพรรคเพื่อไทยอีกหลายยกทีเดียว
นอกจากนี้ อีกด้านหนึ่งต้องอย่าลืมว่าในเดือนพฤษภาคมปีหน้า กลุ่มวิญญาณนักการเมือง 111 ก็จะพ้นโทษแบนกลับสู่การเมืองได้ ถึงตอนนั้นตัวเลือกในการเป็นผู้นำทางการเมืองเปิดกว้าง อาจทำให้กระแสข่าวที่มุ่งสู่ นช.ทักษิณเองก็จะต้องถูกลดลงไป
งานนี้ นช.ทักษิณ รู้อยู่เต็มอกว่าศึกเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญกับเขาเพียงใด จึงบัญชาการการเลือกตั้งครั้งนี้เองอย่างสุดกำลัง ตั้งเป้าให้ได้เสียงเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเพื่อตั้งรัฐบาลพรรคเดียว หวังตัดปัญหาการสกัดกั้นเพราะถ้าไม่ได้เสียงข้างมาก โอกาสในการตั้งรัฐบาลย่อมริบหรี่ แม้จะได้ สส.เป็นอันดับที่ 1 เขาก็รู้ว่าไม่ได้ง่ายต่อการเถลิงอำนาจเป็นรัฐบาลเสียด้วยซ้ำ
ภาระหนักของ นช.ทักษิณจึงทวีคูณ ทั้งเรื่องของการคิดนโยบาย แคมเปญหาเสียง การคัดตัวผู้สมัคร สส.ทั้งระบบเขตและปาร์ตี้ลิสต์ ที่สำคัญคือการหาคนมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแข่งกับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะจากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจนบัดนี้ก็ยังไม่ได้เคาะชื่อออกมาอย่างเป็นทางการ จนพรรคเพื่อไทยเกิดปัญหาแพแตกอยู่รอมล่อ จึงเป็นปัญหาที่ นช.ทักษิณ ต้องจัดการให้เบ็ดเสร็จอีกเปราะหนึ่งหากจะฝันหวานกลับมาเหยียบประเทศไทยอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน ที่ผ่านมาไม่เว้นแม้แต่การประชุมของส.ส.พรรคเพื่อไทยที่ผ่านมา ทักษิณก็ได้ร่วมวีดีโอลิงก์ ทุกครั้งที่มีการประชุมพรรคเพื่อไทย แถมล่าสุดยังรุกคืบด้วยการล็อกคิวปล่อยแถวผู้สมัคร ส.ส. โดยจะเป็นคนแถลงเปิดนโยบายเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยด้วยตัวเอง ในวันที่ 23 เมษายน ที่ศูนย์ประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดยจะใช้หัวข้อการจัดงานว่า "ประกาศความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง"และเช่นเดิม ทักษิณ จะวีดีโอลิงก์มายังสถานที่จัดงาน ตอกย้ำให้เห็นอีกครั้งว่างานนี้เขาเดินเกมทุกอย่างด้วยตัวเองเต็มสูบ
แต่ไม่ว่าอย่างไร เป้าหมายหลักทั้งหมดทั้งปวงของ นช.ทักษิณ ที่ลงทุนเดินหมากเกมการเมืองครั้งนี้ด้วยตัวเอง ก็หนีไม่พ้นประกาศออดอ้อนคนเสื้อแดงให้ช่วยกันเลือกพรรคเพื่อไทย ถ้าได้กลับมาเป็นรัฐบาลจะเดินหน้านิรโทษกรรมนักโทษการเมืองและเดินทางกลับประเทศไทยภายใน 3 เดือน
นี่จึงเป็นอีกประเด็นสำคัญที่สังคมคงต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด ที่หากพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งจนได้จัดตั้งรัฐบาลนั้นก็หมายความว่า เป้าหมายที่ นช.ทักษิณ วางไว้ก็คือการนิรโทษกรรมให้ตัวเองในคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ ที่ศาลได้ตัดสินจำคุกไปแล้ว หรืออาจจะเลยเถิดไปถึงคดียึดทรัพย์ที่ได้มาจากการฉ้อฉลไม่เสียภาษีคงต้องเกิดขึ้นแน่ๆ อย่างที่บรรดาส.ส.พรรคเพื่อไทย นำไปใช้ในการหาเสียง รวมไปถึงญาติผู้พี่พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ที่กล้าประกาศกร้าวต่อสังคม โดยไม่มีท่าทีเหนียมอาย เรียกได้ว่าเป็นตบหน้ากระบวนการยุติธรรมฉาดใหญ่ และไม่ได้เห็นหัวประชาชนชนผู้รักความยุติธรรมเลยแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตาม การที่ นช.ทักษิณบอกว่าจะนิรโทษให้กับทุกฝ่ายนั้น ก็เพียงเพื่อว่าจะเบี่ยงกระแสไม่ให้สังคมพุ่งเป้า ว่าเขาทำเพื่อตัวเองเพียงถ่ายเดียว แต่สังคมก็คงทราบได้อย่างดีว่าการนิรโทษกรรมให้ตัวเองเป็นสิ่งที่ นช.ทักษิณ คิดและต้องการมาอยู่ตลอด ซึ่งจะว่าไปแล้วแค่เรื่องนี้เพียงเรื่องเดียว ก็ทำให้แผ่นดินลุกเป็นไฟได้แล้ว เพราะคนไทยที่รับไม่ได้กับพฤติกรรมของ นช.ทักษิณมีอยู่มาก เพียงแต่ว่า นช.ทักษิณ ยังคงห่างหายไปจากกระแสข่าวหลัก และเพิ่งจะมาปรากฏให้เป็นข่าวในช่วงเลือกตั้งที่จะมาถึงในเร็ววันนี้ ซึ่งเป็นช่วงนาทีทองที่เขาจำเป็นต้องปั่นกระแสตัวเองให้ติดตลาดกับคนเสื้อแดง ที่ถือเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้เขาบรรลุเป้าหมาย
ส่วนที่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ระบุว่า ถ้า นช.ทักษิณ กลับมาประเทศจะเกิดความสงบ ก็ดูจะห่างไกลความจริงเสียเหลือเกิน เพราะด้วยความคลั่งแค้นสุมอกจากการที่เขาต้องอยู่ต่างแดนอย่างหลบๆซ่อนๆ จึงมีสิ่งที่ นช.ทักษิณต้องทำแน่ๆ คือ ล้างบางกองทัพ ล้มสถาบันองคมนตรี และรื้อฟื้นระบอบทักษิณกลับคืนมา สังเกตได้จากการโฟนอินให้คนเสื้อแดง ต้องมีประเด็นดังกล่าวแถมมาด้วยทุกครั้งไป
สุดท้ายการกลับมาของ นช.ทักษิณโดยไม่ต้องติดคุก เชื่อได้ว่าจะเป็นชนวนให้ประชาชนพร้อมใจกันลุกขึ้นมาขับไล่เขา ซึ่งหลังการเลือกตั้งประเทศไทยอาจจะเข้าสู่ภาวะความขัดแย้งอย่างรุนแรงอีกครั้งหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้