xs
xsm
sm
md
lg

แบงก์โชว์กำไรQ1แกร่ง สินเชื่อพุ่งสวนดอกเบี้ยขาขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - แบงก์เปิดผลประกอบการไตรมาสแรกโชว์ความแกร่ง ผลจากสินเชื่อโดยรวมที่ขยายตัวได้ดี "ไทยพาณิชย์"แจงกำไร 1.3 หมื่นล้าน โต 104% แต่หากหักรายการพิเศษกำไรหุ้น SCNYL แล้วเหลือ 8 พันล้าน "ทหารไทย"กำไร 1,096 ล้าน โต 38% ขณะที่"ซีไอเอ็มบีไทย"มีกำไร 282 ล้าน ลดลง 66 ล้าน เหตุไตรมาสนี้ไม่มีกำไรรายการพิเศษ

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)(SCB) ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2554 ที่ระดับ 1.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 104.7% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และเมื่อหักกำไรครั้งเดียวจากเงินลงทุนจำนวน 5.1 พันล้านบาทแล้ว ผลประกอบการปกติของไตรมาสที่ 1 ได้เติบโตขึ้นมาอยู่ในระดับสูงสุดที่ 8 พันล้านบาท จากการขยายตัวของสินเชื่อสูงถึง 20.1% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือ 6.6% นับจากต้นปี 2554 โดยในไตรมาส 1 สินเชื่อเพิ่มขึ้น 6.9 หมื่นล้านบาท มาอยู่ที่ 1.13 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ สินเชื่อเติบโตแข็งแกร่งและกระจายทั่วทุกกลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจ ขนาดใหญ่ เพิ่มขึ้น 22.4% ธุรกิจ SME เพิ่มขึ้น 28.4% และธุรกิจลูกค้าบุคคลเพิ่มขึ้น 17.5% ส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 14.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่สินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ณ สิ้นไตรมาส 1/2554 ลดลงมาอยู่ที่ 3.05% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดหลังจากวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540

ด้านรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (ไม่รวมกำไรพิเศษครั้งเดียวของเงินลงทุน) สูงขึ้นถึง 31.2% เทียบกับไตรมาส 1/2553 อันเป็นผลจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ การเพิ่มขึ้นอย่างมากของรายได้จากการรับประกัน บริหารการเงิน และบริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

ทั้งนี้ กำไรครั้งเดียวที่ไม่เป็นตัวเงินจากเงินลงทุนในไตรมาสแรกนั้น เกิดจากการเข้าซื้อหุ้นของบริษัทไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ จำกัด (มหาชน) (SCNYL) เป็นจำนวนเงิน 8.4 พันล้านบาท ทำให้ธนาคารถือหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 47.33% เป็น 94.66% ทำให้ต้องมีการประเมินมูลค่าของหุ้น SCNYL ที่ธนาคารถือครองอยู่เดิมจำนวน 47.33% ด้วยราคาหุ้นเดียวกับราคาที่ซื้อหุ้นเพิ่ม ส่งผลให้เกิดกำไรครั้งเดียวที่ไม่เป็นตัวเงินจากการลงทุนเป็นจำนวน 5.1 พันล้านบาท

TMBปลื้มกำไรโตต่อเนื่อง

ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) (TMB) แจ้งว่า ในไตรมาสแรกของปี 2554 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 1,096 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.8% เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ 790 ล้านบาท ในไตรมาสเดียวกันของปี 2553 หรือเพิ่มขึ้น 33.3% เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ 822 ล้านบาท ในไตรมาสก่อนหน้า

นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TMB กล่าวว่า กำไรสุทธิจากการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี 2554 เกิดจากพัฒนาการที่ดีของรายได้จากการดำเนินงาน ซึ่งได้แก่รายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิ กำไรจากธุรกรรรมที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยน ค่าธรรมเนียมและค่าบริการธนาคาร ตลอดจนคุณภาพสินเชื่อที่ปรับปรุงให้ดีขึ้น โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ สินเชื่อด้อยคุณภาพลดลงอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายในการลดสัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพลงอีก 2% ภายในสิ้นปี โดยงบการเงินเฉพาะธนาคารไตรมาสที่ 1/2554 สินเชื่อด้อยคุณภาพมีจำนวน 31,993 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 7.0% ของเงินให้สินเชื่อรวม ลดลง 1,297 ล้านบาท จาก 33,290 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 7.67% ของเงินให้สินเชื่อรวม ณ สิ้นปี 2553

ขณะที่สินเชื่อรวมของธนาคารในไตรมาสที่ 1/2554 เติบโตขึ้น 4.1% โดยงบการเงินเฉพาะธนาคาร สินเชื่อคุณภาพเพิ่มขึ้น 5% เนื่องจากการเติบโตของสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ ในขณะที่NPL ลดลง 3.9%

CIMBTแจงกำไรหดจากรายได้พิเศษ

นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)(CIMBT) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของธนาคารไตรมาสแรกปี 2554 มีกำไรสุทธิ 282 ล้านบาท ลดลง 66 ล้านบาท หรือคิดเป็น 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1.6 พันล้านบาท ลดลง 106 ล้านบาท หรือ 6% ขณะที่ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น ซึ่งรายได้ดอกเบี้ยสุทธินั้นเพิ่มขึ้น 95 ล้านบาท หรือ 9% สะท้อนการเติบโตของสินเชื่อ ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น 29 ล้านบาท หรือ 24% ตามค่าธรรมเนียมจากการให้สินเชื่อและประกันภัยที่เพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้จากการดำเนินงานอื่นลดลง 281 ล้านบาท หรือ 69% เนื่องจากในไตรมาส 1 ปี 2553 ธนาคารมีกำไรจากรายการพิเศษคือ การขายอาคารสำนักงานใหญ่ที่สาทร

ด้านเงินให้สินเชื่อ ณ ไตรมาส 1 ปี 2554 อยู่ที่ 9.72 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับเงินให้สินเชื่อ ณ 31 ธันวาคม 2553 ส่วนใหญ่มาจากการขยายตัวของสินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อเอสเอ็มอี ขณะที่อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Net Interest Margin - NIM) สำหรับไตรมาส 1 ปี 2554 และปี 2553 อยู่ที่ 3.8% และ NPL ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2554 ลดลงเหลือ 2.6 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 2.7% จาก ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2553 ที่ 10.2%

"ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกออกมาเป็นที่น่าพอใจ โดยรายได้และสินเชื่อมีอัตราเติบโตที่แข็งแกร่งและมีที่มาของรายได้ที่หลากหลายมากขึ้น ขณะเดียวกันยังคงรักษาคุณภาพสินทรัพย์ไว้ได้ ซึ่งธนาคารเชื่อว่าจะสามารถรักษามาตรฐานในการดำเนินธุรกิจในช่วง 3 ไตรมาสที่เหลือเพื่อให้ผลประกอบการทั้งปี เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้"
กำลังโหลดความคิดเห็น