นายสุภัค ศิวะรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (CIMBT) เปิดเผยว่า กรณีเหตุภัยพิบัติที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น มองว่าไม่มีผลกระทบต่อธนาคาร โดยจากข้อมูลการสำรวจเบื้องต้นพบว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นกับบริษัทคู่ค้าในประเทศญี่ปุ่น ก็ไม่สูงนัก ขณะที่ยอดการปล่อยสินเชื่อของธนาคารในช่วง 2 เดือนแรกของปีเป็นไปตามวิสัยที่ธนาคารคาดหวังไว้ โดยเป็นการเติบโตจากสินเชื่อเอสเอ็มอี และสินเชื่อรายย่อยเป็นหลัก ซึ่งในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าการขยายตัวของสินเชื่อทั้งสองประเภทสูงกว่า 20% ขณะที่สินเชื่อขนาดใหญ่ ยังไม่นิ่งนักเนื่องจากมีการชำระคืนจากลูกค้าบางส่วน โดยทั้งปีตั้งเป้าสินเชื่อขนาดใหญ่ขยายตัว 10%
"จากในปีนี้ที่จะมีการรุกขยายสินเชื่อในทุกๆตัว รวมทั้งมีแผนการขยายสาขาในปีนี้ ตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มอย่างน้อย 10-20 สาขา ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะทำการเปิดสาขาที่รามอินทราธนาคารจึงมั่นใจว่าจะสามารถขยายสินเชื่อใหม่ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 20%หรือคิดเป็นวงเงิน 2 หมื่นล้าน จากปัจจุบันที่มีพอร์ตสินเชื่อยู่ประมาณ 9.1-9.2 หมื่นล้าน"
ด้านส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM)ในปีนี้นั้น น่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาที่อยู่ในระดับ 3.9-4% เนื่องจากเป็นช่วงทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น ทำให้ต้นทุนเงินฝากเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้การบริหารจัดการส่วนต่างดอกเบี้ยเป็นเรื่องยาก ซึ่งในช่วงที่ผ่านธนาคารก็จะมีการปรับขึ้นในส่วนของอัตราดอกเบี้ยไปในระดับหนึ่งแล้ว เพื่อให้บริหารจัดการเป็นไปตามเป้าหมาย
นายสุภัคกล่าวอีกว่า การแข่งขันระดมเงินฝากในระบบจะรุนแรงเพิ่มขึ้น จากสภาพคล่องที่เริ่มลดลง ประกอบกับในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ อาจจะเริ่มเห็นสถาบันต่างประเทศเข้ามาระดมเงินสกุลบาทออกไปเพิ่มขึ้น รวมถึงบริษัทไทยก็มีการลงทุนซื้อกิจการต่างประเทศเพื่อขยายธุรกิจออกไปต่างชาติเช่นกัน ดังนั้น ธนาคารจึงมองว่าการแข่งขันเพียงผลิตภัณฑ์เงินฝากอาจไม่ใช่กลยุทธ์หลักเท่านั้น จึงเตรียมผลิตภัณฑ์เงินฝากที่อิงกับอนุพันธ์เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้าอีกด้วย
**แจงขายหุ้นบล.เพิ่มความคล่องตัว**
สำหรับกรณีขายหุ้น บล.ซีไอเอ็มบี ให้กับซีไอเอ็มบี กรุ๊ปนั้น ก็เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงานของบริษัทหลักทรัพย์ เนื่องจากเงื่อนไขของสถาบันการเงินมีกฎระเบียบจำนวนมากซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดของการขยายธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์ได้ และหากจะมีการขยายธุรกิจเพิ่มก็จะต้องเพิ่มทุนอคก 1-2 พันล้านบาท จึงน่าจะเป็นเรื่องที่ให้ซีไอเอ็มบี กรุ๊ป เข้ามาเป็นผู้ดูแลขยายฐานธุรกิจ จะเหมาะสมกว่า แต่ธนาคารจะทำหน้าที่เป็น Selling Agency ต่อไป โดยเรื่งอดังกล่าวจะนำเข้าสู่การประชุมผู้ถือหุ้นในเดือนเม.ย. 2554 และคาดว่าจะสามารถบันทึกเข้ากำไรในงบการดำเนินงานได้ภายในไตรมาส 2 ปีนี้
ส่วนการระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้นั้น ธนาคารยังไม่มีแผนที่จะออกหุ้นกู้ในเร็วๆนี้ คงต้องติดตามทิศทางดอกเบี้ยและภาวะตลาดก่อน โดยการขออนุมัติที่ประชุมผู้ถือหุ้นในการออกหุ้นกู้นั้น เป็นการขอเผื่อไว้ แต่ยังไม่จำเป็นต้องออกทันที
**KTBฟุ้ง2เดือนสินเชื่อพุ่งเกินเป้า**
ด้านนายอภิศักดิ์ ตันติวรงค์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย(KTB)เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกแรกของปีที่ผ่านมาธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นจากการขยายตัวของสินเชื่อรายใหญ่และรายย่อย ขณะที่สินเชื่อผู้ประกอบขนาดกลางและย่อมก็เมีแนวโน้มเติบโตดี และธนาคารได้ตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อในปี 54 ไว้ที่ 7-8% ซึ่งเป็นระดับเดียวกับปีก่อน
"ดูจาก 2 เดือนแรกของปีสินเชื่อเติบโตขึ้นมาก เดือนมีนาคมก็ยังเติบโตอยู้ ก็คิดว่าไตรมาส 1 คงจะโตมากกว่าเป้าที่เราวางไว้ แต่ทั้งปีคงเป้าสินเชื่อเติบโต 7-8%"
"จากในปีนี้ที่จะมีการรุกขยายสินเชื่อในทุกๆตัว รวมทั้งมีแผนการขยายสาขาในปีนี้ ตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มอย่างน้อย 10-20 สาขา ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะทำการเปิดสาขาที่รามอินทราธนาคารจึงมั่นใจว่าจะสามารถขยายสินเชื่อใหม่ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 20%หรือคิดเป็นวงเงิน 2 หมื่นล้าน จากปัจจุบันที่มีพอร์ตสินเชื่อยู่ประมาณ 9.1-9.2 หมื่นล้าน"
ด้านส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM)ในปีนี้นั้น น่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาที่อยู่ในระดับ 3.9-4% เนื่องจากเป็นช่วงทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น ทำให้ต้นทุนเงินฝากเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้การบริหารจัดการส่วนต่างดอกเบี้ยเป็นเรื่องยาก ซึ่งในช่วงที่ผ่านธนาคารก็จะมีการปรับขึ้นในส่วนของอัตราดอกเบี้ยไปในระดับหนึ่งแล้ว เพื่อให้บริหารจัดการเป็นไปตามเป้าหมาย
นายสุภัคกล่าวอีกว่า การแข่งขันระดมเงินฝากในระบบจะรุนแรงเพิ่มขึ้น จากสภาพคล่องที่เริ่มลดลง ประกอบกับในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ อาจจะเริ่มเห็นสถาบันต่างประเทศเข้ามาระดมเงินสกุลบาทออกไปเพิ่มขึ้น รวมถึงบริษัทไทยก็มีการลงทุนซื้อกิจการต่างประเทศเพื่อขยายธุรกิจออกไปต่างชาติเช่นกัน ดังนั้น ธนาคารจึงมองว่าการแข่งขันเพียงผลิตภัณฑ์เงินฝากอาจไม่ใช่กลยุทธ์หลักเท่านั้น จึงเตรียมผลิตภัณฑ์เงินฝากที่อิงกับอนุพันธ์เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้าอีกด้วย
**แจงขายหุ้นบล.เพิ่มความคล่องตัว**
สำหรับกรณีขายหุ้น บล.ซีไอเอ็มบี ให้กับซีไอเอ็มบี กรุ๊ปนั้น ก็เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงานของบริษัทหลักทรัพย์ เนื่องจากเงื่อนไขของสถาบันการเงินมีกฎระเบียบจำนวนมากซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดของการขยายธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์ได้ และหากจะมีการขยายธุรกิจเพิ่มก็จะต้องเพิ่มทุนอคก 1-2 พันล้านบาท จึงน่าจะเป็นเรื่องที่ให้ซีไอเอ็มบี กรุ๊ป เข้ามาเป็นผู้ดูแลขยายฐานธุรกิจ จะเหมาะสมกว่า แต่ธนาคารจะทำหน้าที่เป็น Selling Agency ต่อไป โดยเรื่งอดังกล่าวจะนำเข้าสู่การประชุมผู้ถือหุ้นในเดือนเม.ย. 2554 และคาดว่าจะสามารถบันทึกเข้ากำไรในงบการดำเนินงานได้ภายในไตรมาส 2 ปีนี้
ส่วนการระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้นั้น ธนาคารยังไม่มีแผนที่จะออกหุ้นกู้ในเร็วๆนี้ คงต้องติดตามทิศทางดอกเบี้ยและภาวะตลาดก่อน โดยการขออนุมัติที่ประชุมผู้ถือหุ้นในการออกหุ้นกู้นั้น เป็นการขอเผื่อไว้ แต่ยังไม่จำเป็นต้องออกทันที
**KTBฟุ้ง2เดือนสินเชื่อพุ่งเกินเป้า**
ด้านนายอภิศักดิ์ ตันติวรงค์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย(KTB)เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกแรกของปีที่ผ่านมาธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นจากการขยายตัวของสินเชื่อรายใหญ่และรายย่อย ขณะที่สินเชื่อผู้ประกอบขนาดกลางและย่อมก็เมีแนวโน้มเติบโตดี และธนาคารได้ตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อในปี 54 ไว้ที่ 7-8% ซึ่งเป็นระดับเดียวกับปีก่อน
"ดูจาก 2 เดือนแรกของปีสินเชื่อเติบโตขึ้นมาก เดือนมีนาคมก็ยังเติบโตอยู้ ก็คิดว่าไตรมาส 1 คงจะโตมากกว่าเป้าที่เราวางไว้ แต่ทั้งปีคงเป้าสินเชื่อเติบโต 7-8%"
