กูรูฟันธง หลังการประชุมบอร์ด กนง.มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรง 0.50% เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อและราคาน้ำมันพุ่งไม่หยุด แต่เชื่ออุปสงค์ในประเทศยังไปได้ ในส่วนตลาดหุ้นไทยคาดไม่คึกคัก บจ.กำไรหด ทำต้องต้นทุนอ่วม โดยยังไม่พบเงินทุนไหลออก มีแต่โยกเข้าตลาดบอนด์ ฉุดสเปรดแบงก์พาณิชย์วูบ
วันนี้ (2 มี.ค.) นายบันลือศักดิ์ ปุสสะรังษี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในวันพุธที่ 9 มีนาคมนี้ ซึ่งหลายฝ่ายต่างให้ความเห็นว่าทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับตัวอัตราดอกเบี้ยนโยบายถึง 0.50% มาอยู่ที่ระดับ 2.75% จากเดิม 2.25% เพราะอัตราเงินเฟ้อมีโอกาสสูงกว่าที่ ธปท.คาดว่า ไว้ที่ 3.5-5% หรือเฉลี่ย 4% เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนปัจจุบันราคาน้ำมันพุ่งแตะที่ระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแล้ว จากเดิมที่คาดไว้ว่าราคาน้ำมันจะเฉลี่ยประมาณ 93-94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเท่านั้น รวมทั้งปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีก คือ วิกฤตการประท้วงภายในประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่กำลังลุกลามไปที่อิหร่าน อิรัก และซาอุดีอาระเบีย ส่วนสถานการณ์ในประเทศลิเบีย คาดว่า จะยังไม่จบได้โดยง่าย
ขณะเดียวกัน จากทิศทางเศรษฐกิจในประเทศสหรัฐอเมริกา ยุโรป จีน รวมถึงไทย ยังขยายตัวได้ดีส่งผลให้ไม่มีปัญหาด้านอุปสงค์ ดังนั้น มีโอกาสที่ ธปท.จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายปีนี้ขึ้นสู่ที่ระดับ 3.5-4% สูงกว่าประมาณการเดิมที่คาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพียง 3-3.5% เท่านั้น
ส่วนผลกระทบทางตลาดทุนนั้น เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้วันที่ 9 มีนาคม ที่ระดับ 0.50% สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งในระยะสั้นๆ จะทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงได้ เพราะนักลงทุนอาจมองว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่รุนแรงจะเป็นการเพิ่มภาระต้นทุนทางการเงินให้เพิ่มสูงขึ้น โดยจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกระทบความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนได้ อย่างไรก็ดี จะยังไม่พบสัญญาณเงินทุนไหลออกจากประเทศ แต่จะเป็นเพียงการโยกไปลงทุนในตลาดพันธบัตรเท่านั้น ส่วนค่าเงินบาทจะยังทรงตัว แต่ท้ายที่สุดแล้วค่าเงินบาทก็จะเริ่มกลับมาแข็งค่าได้
อีกทั้งภายหลังจาก ธปท.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแล้ว เชื่อว่า กลุ่มธนาคารพาณิชย์จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในทันที จากก่อนหน้านี้ จะรอดูสถานการณ์ก่อนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งในช่วงแรกจะส่งผลกระทบให้สเปรดของกลุ่มธนาคารปรับตัวลดลง
ด้าน นายเวลเลียน วิรานโต นักเศรษฐศาสตร์ ประจำภูมิภาคเอเชีย ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย (HSBC) กล่าวว่า การประชุม กนง.ในปี 2554 ธปท.จะมีการพิจารณาปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีก 3 ครั้ง จนสิ้นปีนี้อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะอยู่ที่ระดับ 3% จากปัจจุบันที่อยู่ระดับ 2.25% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่เหมาะสมในการดูแลความเสี่ยงจากปัญหาเงินเฟ้อและการควบคุมราคาสินค้า ทั้งนี้ การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยจะปรับแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม
