ASTVผู้จัดการรายวัน-การบินไทยปรับราคาซื้อคืนหุ้นนกแอร์จากกรุงไทยเป็นหุ้นละ 30 บาทจากเดิมหุ้นละ 13 บาท หรือเป็นเงิน 150 ล้านบาท หลังพิจารณาผลประกอบการแผนธุรกิจน่าพอใจ บอร์ดสั่งทีมเดินหน้าเจรจาสัปดาห์หน้า พร้อมตบรางวัล จ่ายโบนัส 3 เดือนใช้เงิน 4,250 ล้านบาท และขึ้นเงินเดือ0นปี 54 อีก 7 % เปิดแผนจ่อซื้อเครื่องบินเพิ่มอีก 37ลำ ขณะที่ “ปานฑิต”สวมบทตาอยู่คัมแบ็คเก้าอี้ฝ่ายพาณิชย์
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ที่มีนายอำพน กิตติอำพน เป็นประธานวานนี้ (14 ม.ค.) ว่า ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการขอซื้อหุ้น สายการบินนกแอร์ จากธนาคารกรุงไทย ในราคาหุ้นละ 30 บาท วงเงินรวม 150 ล้านบาท จากที่ก่อนหน้านี้เคยเสนอขอซื้อในราคา หุ้นละ 13 บาท วงเงินรวม 65 ล้านบาท แต่กรุงไทยเสนอขายในราคาหุ้นละ 44 บาท วงเงิน 220 ล้านบาท
ทั้งนี้ หลังจากบริษัทได้พิจารณาแล้วพบว่าแผนการดำเนินงาน แผนการขยายฝูงบิน ที่มีความชัดเจนและผลประกอบการของนกแอร์ที่ฟื้นตัวขึ้น โดยได้มอบหมายให้ผู้แทนไปเจรจากับธนาคารกรุงไทยในสัปดาห์หน้า หากตกลงกันซื้อหุ้นได้ จะทำให้การบินไทยถือหุ้นในนกแอร์เพิ่มจาก 39 %เป็น 49 % ตามแผนกลยุทธ์ของบริษัทและสามารถบริหารจัดการนกแอร์ได้อย่างเต็มรูปแบบ
สำหรับผลการดำเนินงานของนกแอร์ในปี 2554 ได้ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 4,000-5,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 30-40 % ที่มีรายได้ประมาณ 3,500 ล้านบาท โดยประมาณการอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร ( Load Factor)ประมาณ 75 % นอกจากนี้ บอร์ดได้อนุมัติให้จัดหาวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนเพิ่มเติมจากธนาคารออมสิน จำนวน 7,000 ล้านบาท และธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำนวน 1,000 ล้านบาท
***จ่ายโบนัส 3 ด.ขึ้นเงินเดือนอีก7 %
นอกจากนี้ที่ประชุมมีมติอนุมัติจ่ายโบนัสประจำปี 2553 ในอัตรา 3 เท่าของเงินเดือน คิดเป็นเงิน 4,250 ล้านบาท และปรับเพิ่มเงินเดือนประจำปี 2554 ให้พนักงาน 7 % คิดเป็นเงิน 60 ล้านบาทต่อเดือนหลังจากพิจารณาผลประกอบการและกำไรของปี 2553 ดีขึ้น จากมาตรการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวกับน้ำมันอย่างจริงจัง ประกอบกับปี 2552 พนักงานได้โบนัสเพียงครึ่งเดือนเท่านั้นโดยมีการคำนึงถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตโดยเฉพาะการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นด้วย
***จ่อซื้อเครื่องบินเพิ่มอีก 37ลำ
นายปิยสวัสดิ์กล่าวว่า บอร์ดเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์และแผนการลงทุนระยะยาวของบริษัท ซึ่งมีการปรับปรุงกลยุทธ์ใหม่ 9 ด้าน แผนการดำเนินงานและแผนการลงทุนปี 2554-2560 โดยมีแผนปลดระวางเครื่องบินเก่า จำนวน 46 ลำ และจัดหาเครื่องบินใหม่ 37 ลำเพื่อทดแทนเครื่องบินเก่าที่จะปลดระวางและเพิ่มเที่ยวบินเพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจ ซึ่งจะทำรายละเอียดเสนอบอร์ดอีกครั้งในการประชุมเดือนก.พ.2554 โดยแผนดังกล่าวจะทำให้ในปี 2560 บริษัทจะมีฝูงบินจำนวน 105 ลำ อายุเฉลี่ยของเครื่องบินจะอยู่ที่ 8.5 ปี จากปัจจุบัน 11.5 ปี
ทั้งนี้ เป้าหมายการดำเนินการและการเงินระยะยาว บริษัทจะมีอัตราการเติบโตของรายได้จากการดำเนินการ 7-10 % ต่อปี มีเป้าหมายสัดส่วนเงินสดต่อรายได้ไม่น้อยกว่า 15 % และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนในระดับไม่เกิน 2 เท่าตลอดแผน สำหรับผลการดำเนินงานในเดือนธ.ค. 2553 มี Load Factor ประมาณ 75.3 % สูงกว่าเดือนพ.ย.ประมาณ 4.9 %
นายปิยสวัสดิ์กล่าวว่า บอร์ดมีมติแต่งตั้งนายปานฑิต ชนะภัย รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายทรัพยากรบุคคลและบริหารทั่วไป ไปดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์และแต่งตั้งนายอภิชาต ดนัยวรรณ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายบริหารทั่วไป ดำรงตำแหน่ง รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายทรัพยากรบุคคลและบริหารทั่วไป มีผลตั้งแต่ 1 ก.พ. 2554 เป็นต้นไป
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ที่มีนายอำพน กิตติอำพน เป็นประธานวานนี้ (14 ม.ค.) ว่า ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการขอซื้อหุ้น สายการบินนกแอร์ จากธนาคารกรุงไทย ในราคาหุ้นละ 30 บาท วงเงินรวม 150 ล้านบาท จากที่ก่อนหน้านี้เคยเสนอขอซื้อในราคา หุ้นละ 13 บาท วงเงินรวม 65 ล้านบาท แต่กรุงไทยเสนอขายในราคาหุ้นละ 44 บาท วงเงิน 220 ล้านบาท
ทั้งนี้ หลังจากบริษัทได้พิจารณาแล้วพบว่าแผนการดำเนินงาน แผนการขยายฝูงบิน ที่มีความชัดเจนและผลประกอบการของนกแอร์ที่ฟื้นตัวขึ้น โดยได้มอบหมายให้ผู้แทนไปเจรจากับธนาคารกรุงไทยในสัปดาห์หน้า หากตกลงกันซื้อหุ้นได้ จะทำให้การบินไทยถือหุ้นในนกแอร์เพิ่มจาก 39 %เป็น 49 % ตามแผนกลยุทธ์ของบริษัทและสามารถบริหารจัดการนกแอร์ได้อย่างเต็มรูปแบบ
สำหรับผลการดำเนินงานของนกแอร์ในปี 2554 ได้ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 4,000-5,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 30-40 % ที่มีรายได้ประมาณ 3,500 ล้านบาท โดยประมาณการอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร ( Load Factor)ประมาณ 75 % นอกจากนี้ บอร์ดได้อนุมัติให้จัดหาวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนเพิ่มเติมจากธนาคารออมสิน จำนวน 7,000 ล้านบาท และธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำนวน 1,000 ล้านบาท
***จ่ายโบนัส 3 ด.ขึ้นเงินเดือนอีก7 %
นอกจากนี้ที่ประชุมมีมติอนุมัติจ่ายโบนัสประจำปี 2553 ในอัตรา 3 เท่าของเงินเดือน คิดเป็นเงิน 4,250 ล้านบาท และปรับเพิ่มเงินเดือนประจำปี 2554 ให้พนักงาน 7 % คิดเป็นเงิน 60 ล้านบาทต่อเดือนหลังจากพิจารณาผลประกอบการและกำไรของปี 2553 ดีขึ้น จากมาตรการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวกับน้ำมันอย่างจริงจัง ประกอบกับปี 2552 พนักงานได้โบนัสเพียงครึ่งเดือนเท่านั้นโดยมีการคำนึงถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตโดยเฉพาะการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นด้วย
***จ่อซื้อเครื่องบินเพิ่มอีก 37ลำ
นายปิยสวัสดิ์กล่าวว่า บอร์ดเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์และแผนการลงทุนระยะยาวของบริษัท ซึ่งมีการปรับปรุงกลยุทธ์ใหม่ 9 ด้าน แผนการดำเนินงานและแผนการลงทุนปี 2554-2560 โดยมีแผนปลดระวางเครื่องบินเก่า จำนวน 46 ลำ และจัดหาเครื่องบินใหม่ 37 ลำเพื่อทดแทนเครื่องบินเก่าที่จะปลดระวางและเพิ่มเที่ยวบินเพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจ ซึ่งจะทำรายละเอียดเสนอบอร์ดอีกครั้งในการประชุมเดือนก.พ.2554 โดยแผนดังกล่าวจะทำให้ในปี 2560 บริษัทจะมีฝูงบินจำนวน 105 ลำ อายุเฉลี่ยของเครื่องบินจะอยู่ที่ 8.5 ปี จากปัจจุบัน 11.5 ปี
ทั้งนี้ เป้าหมายการดำเนินการและการเงินระยะยาว บริษัทจะมีอัตราการเติบโตของรายได้จากการดำเนินการ 7-10 % ต่อปี มีเป้าหมายสัดส่วนเงินสดต่อรายได้ไม่น้อยกว่า 15 % และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนในระดับไม่เกิน 2 เท่าตลอดแผน สำหรับผลการดำเนินงานในเดือนธ.ค. 2553 มี Load Factor ประมาณ 75.3 % สูงกว่าเดือนพ.ย.ประมาณ 4.9 %
นายปิยสวัสดิ์กล่าวว่า บอร์ดมีมติแต่งตั้งนายปานฑิต ชนะภัย รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายทรัพยากรบุคคลและบริหารทั่วไป ไปดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์และแต่งตั้งนายอภิชาต ดนัยวรรณ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายบริหารทั่วไป ดำรงตำแหน่ง รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายทรัพยากรบุคคลและบริหารทั่วไป มีผลตั้งแต่ 1 ก.พ. 2554 เป็นต้นไป