“บินไทย” อู้ฟู่! เคาะซื้อเครื่องใหม่รวดเดียว 37 ลำ ควัก 4.2 พันล้าน จ่ายโบนัส 3 เดือน พร้อมขึ้นเงินเดือนอีก 7% พร้อมอนุมัติให้ “ปานฑิต” กลับนั่งเก้าอี้ฝ่ายพาณิชย์ “นกแอร์” อีก 10% เพื่อเพิ่มสัดส่วนถือหุ้นเป็น 49% จูงใจด้วยเพิ่มเงินค่าหุ้นเป็น 30 บาทต่อหุ้น
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) วานนี้ โดยระบุว่า ที่ประชุมเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์และแผนการลงทุนระยะยาวของบริษัท ซึ่งมีการปรับปรุงกลยุทธ์ใหม่ 9 ด้าน แผนการดำเนินงานและแผนการลงทุนปี 2554-2560 โดยมีแผนปลดระวางเครื่องบินเก่า จำนวน 46 ลำ และจัดหาเครื่องบินใหม่ 37 ลำ
ทั้งนี้ เพื่อทดแทนเครื่องบินเก่าที่จะปลดระวางและเพิ่มเที่ยวบินเพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจ ซึ่งจะทำรายละเอียดเสนอบอร์ดอีกครั้งในการประชุมเดือน ก.พ.2554 โดยแผนดังกล่าวจะทำให้ในปี 2560 บริษัทจะมีฝูงบินจำนวน 105 ลำ อายุเฉลี่ยของเครื่องบินจะอยู่ที่ 8.5 ปี จากปัจจุบัน 11.5 ปี
โดยเป้าหมายการดำเนินการและการเงินระยะยาว บริษัทจะมีอัตราการเติบโตของรายได้จากการดำเนินการ 7-10% ต่อปี มีเป้าหมายสัดส่วนเงินสดต่อรายได้ไม่น้อยกว่า 15% และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนในระดับไม่เกิน 2 เท่าตลอดแผน สำหรับผลการดำเนินงานในเดือน ธ.ค. 2553 มี Load Factor ประมาณ 75.3% สูงกว่าเดือนพ.ย.ประมาณ 4.9%
ที่ประชุมยังมีมติอนุมัติให้จ่ายเงินรางวัล (โบนัส) ประจำปี 2553 ให้แก่พนักงานในอัตรา 3 เท่าของเงินเดือนค่าจ้าง วงเงินรวม 4,250 ล้านบาท และมีมติอนุมัติกรอบการขึ้นเงินเดือนประจำปี 2554 แก่พนักงานในอัตรา 7% เป็นเงินรวม 60 ล้านบาทต่อเดือน หลังพิจารณาผลประกอบการของปี 2553 พบว่า มีกำไรเพิ่ม หลังจากที่บริษัทมีมาตรการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำมันอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ตลอดจนการดำเนินธุรกิจในส่วนต่างๆ เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ที่วางไว้ รวมถึงยังสามารถสร้างรายได้รวมของปี 2553 ได้เกินกว่าเป้าหมาย
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มีมติแต่งตั้งโยกย้ายฝ่ายบริหาร โดยให้ นายปานฑิต ชนะภัย รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายทรัพยากรบุคคล และบริหารทั่วไป เข้าดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ และ นายอภิชาต ดนัยวรรณ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายบริหารทั่วไป เข้าดำรงตำแหน่งรักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายทรัพยากรบุคคลและบริหารทั่วไป ตามลำดับ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2554 เป็นต้นไป รวมทั้งยังแต่งตั้งเรืออากาศเอก กนก ทองเผือก ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานประชุม เข้าดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2554 เป็นต้นไป
“เราดูความเหมาะสมแล้วเห็นว่า นายปานฑิต มีความเหมาะสม โดยในการเสนอชื่อผู้เข้าดำรงตำแหน่งนี้ ฝ่ายบริหารได้เสนอไป 2 ชื่อ คือ นายปานฑิต และนายธีรพล โชติชนาภิบาล แต่ก็ได้พิจารณแล้วจึงเลือกนายปานฑิต ให้กลับมาดำรงตำแหน่งเดิมอีกครั้ง”
ส่วนแผนการซื้อหุ้นสายการบินนกแอร์เพิ่มอีก 10% เพื่อเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเป็น 49% นั้น นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า ที่ประชุมฯ ได้มอบหมายผู้แทนของบริษัทไปเจรจากับ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อขอซื้อหุ้น บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด 10% ในราคา 30 บาทต่อหุ้น รวม 5 ล้านหุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 150 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาหุ้นที่ที่เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนหน้านี้ที่เสนอไป 13 บาทต่อหุ้น วงเงินราว 65 ล้านบาท
ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นว่า ราคา 30 บาท เป็นราคาที่พอรับได้ หลังจากเดิมที่เคยเสนอไปน้อยกว่านี้ ที่ราคา 13 บาท เพราะดูจากผลประกอบการดีขึ้น รวมทั้งแผนการบริหารงานของนกแอร์ก็ดีขึ้น ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะเริ่มการเจรจาเลย แต่ยังไม่รู้ว่าจะได้ราคานี้หรือไม่ ต้องรอดูผลการเจรจาก่อน จากนั้นหากได้ความคืบหน้าจะเสนอมายังบอร์ดอีกครั้งเพื่อพิจารณา ซึ่งจะส่งผลให้การบินไทยมีหุ้นในนกแอร์เพิ่มเป็น 49%