ASTVผู้จัดการรายวัน - ซีไอเอ็มบีไทยลั่นพร้อมจับมือกลุ่มซีไอเอ็มบีเดินหน้าเต็มศักยภาพหลังปรับโครงสร้างเสร็จ ตั้งเป้าสินเชื่อ-เงินฝากโต 20% และ 10% พร้อมมุ่งสู่เป้าหมายให้ซีไอเอ็มบีไทยเป็นธนาคารชั้นนำในอาเซียน
นายสุภัค ศิวรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)(CIMBT) เปิดเผยว่า ในปี 2554 นี้ ธนาคารได้กำหนดเป้าหมายทางธุรกิจประกอบด้วย อัตราการเติบโตสินเชื่อกว่า 20% จากปีก่อนที่มีอัตราการเติบโต 9.1% (หากรวมบริษัท STAMC สินเชื่อใน 2553 โต 13.5%) หรือมียอดคงค้าง 9.38 หมื่นล้านบาท ด้านเงินฝากเติบโตกว่า 10% ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีอัตราการเติบโต 11% หรือคิดเป็นยอดเงินฝากคงค้าง 1.09 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ ธนาคารยังตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยไม่น้อยกว่า 15 อัตราการเติบโตของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยไม่น้อยกว่า 30% อัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 8% และอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ไม่น้อยกว่า 0.5% และเพิ่มอัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย(NIM)เป็น 3.7-4.2%
ทั้งนี้ กลยุทธของธนาคารในปีนี้ จะนำเสนอผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมทางการรเงิน พร้อมบริการที่เป็นเลิศให้กับลูกค้าอย่างไร้พรมแดน ด้วยการผสานจุดแข็งร่วมกับกลุ่มซีไอเอ็มบี รวมถึงมุ่งเน้นที่จุดแข็งด้านวาณิชธนกิจของธนาคารเพื่อเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียม ซึ่งปัจจุบันธนาคารมีดีลขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับบริษัทที่ต้องการเข้าตลาดหลักทรัพย์อีก 3 แห่ง และยังมีส่วนของการขายหุ้นกู้ที่คาดว่าปีนี้จะมีบริษัทที่ต้องการระดมเงินอย่างต่อเนื่อง
ด้านสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)นั้น ธนาคารยังคงนโยบายบริหารความเสี่ยงที่เข้มงวด โดยจะควบคุมสัดส่วนเอ็นพีแอลให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 4% จากปัจจุบันที่อยู่ในระดับ 2.7% หลังจากที่ขายเอ็นพีแอลออกไปช่วงปลายปี 5 พันล้านบาท
"ปี 2554 จะเป็นปีที่ธนาคารจะเร่งการขยายตัวอย่างเต็มศักยภาพ หลังจากการดำเนินการปรับโครงสร้างทางการเงิน การเสริมสร้างความเข้มแข็งทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน กระบวนการบริหารจัดการความเสี่ยง โดยมีเป้าหมายการเติบโตที่สูงกว่าอุตสาหกรรม เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายให้ธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทยเป็นธนาคารชั้นนำของไทยในอาเซียน และเป็นเครือข่ายที่สำคัญของกลุ่มทางการเงินซีไอเอ็มบีต่อไป"นายสุภัคกล่าว
เตือนบาทผันผวน
นายสุภัคกล่าวอีกว่า ธนาคารคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวในอัตรา 4-5% ปีนี้ โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากการบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนภาคเอกชนโดยได้รับแรงหนุนจากวัฎจักรเศรษฐกิจขาขึ้น ความต้องการลงทุนซึ่งเกิดจากอัตรากำลังการผลิตที่สูงขึ้น และราคาสินค้าเกษตรที่สูงขึ้น ส่วนการลงทุนภาครัฐจะขับเคลื่อนโดยโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ขณะที่การส่งออกจะยังคงเติบโตต่อไป แต่ปัจจัยเสี่ยงยังคงต้องติดตามภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯและยุโรป รวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองของไทยด้วย
ขณะที่ค่าเงินบาทจะมีความผันผวนมากกว่าปีก่อน และยังมีความเป็นไปได้ที่จะแข็งค่าขึ้น โดยคาดว่าค่าเงินบาทจะแกว่งตัวอยู่ในระดับ 28-32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เช่นเดียวกับทิศทางดอกเบี้ยที่อยู่ในขาขึ้นตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ซึ่งประเมินว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจะปรับเพิ่มอีก 0.5-1.%
นายสุภัค ศิวรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)(CIMBT) เปิดเผยว่า ในปี 2554 นี้ ธนาคารได้กำหนดเป้าหมายทางธุรกิจประกอบด้วย อัตราการเติบโตสินเชื่อกว่า 20% จากปีก่อนที่มีอัตราการเติบโต 9.1% (หากรวมบริษัท STAMC สินเชื่อใน 2553 โต 13.5%) หรือมียอดคงค้าง 9.38 หมื่นล้านบาท ด้านเงินฝากเติบโตกว่า 10% ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีอัตราการเติบโต 11% หรือคิดเป็นยอดเงินฝากคงค้าง 1.09 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ ธนาคารยังตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยไม่น้อยกว่า 15 อัตราการเติบโตของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยไม่น้อยกว่า 30% อัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 8% และอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ไม่น้อยกว่า 0.5% และเพิ่มอัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย(NIM)เป็น 3.7-4.2%
ทั้งนี้ กลยุทธของธนาคารในปีนี้ จะนำเสนอผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมทางการรเงิน พร้อมบริการที่เป็นเลิศให้กับลูกค้าอย่างไร้พรมแดน ด้วยการผสานจุดแข็งร่วมกับกลุ่มซีไอเอ็มบี รวมถึงมุ่งเน้นที่จุดแข็งด้านวาณิชธนกิจของธนาคารเพื่อเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียม ซึ่งปัจจุบันธนาคารมีดีลขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับบริษัทที่ต้องการเข้าตลาดหลักทรัพย์อีก 3 แห่ง และยังมีส่วนของการขายหุ้นกู้ที่คาดว่าปีนี้จะมีบริษัทที่ต้องการระดมเงินอย่างต่อเนื่อง
ด้านสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)นั้น ธนาคารยังคงนโยบายบริหารความเสี่ยงที่เข้มงวด โดยจะควบคุมสัดส่วนเอ็นพีแอลให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 4% จากปัจจุบันที่อยู่ในระดับ 2.7% หลังจากที่ขายเอ็นพีแอลออกไปช่วงปลายปี 5 พันล้านบาท
"ปี 2554 จะเป็นปีที่ธนาคารจะเร่งการขยายตัวอย่างเต็มศักยภาพ หลังจากการดำเนินการปรับโครงสร้างทางการเงิน การเสริมสร้างความเข้มแข็งทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน กระบวนการบริหารจัดการความเสี่ยง โดยมีเป้าหมายการเติบโตที่สูงกว่าอุตสาหกรรม เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายให้ธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทยเป็นธนาคารชั้นนำของไทยในอาเซียน และเป็นเครือข่ายที่สำคัญของกลุ่มทางการเงินซีไอเอ็มบีต่อไป"นายสุภัคกล่าว
เตือนบาทผันผวน
นายสุภัคกล่าวอีกว่า ธนาคารคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวในอัตรา 4-5% ปีนี้ โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากการบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนภาคเอกชนโดยได้รับแรงหนุนจากวัฎจักรเศรษฐกิจขาขึ้น ความต้องการลงทุนซึ่งเกิดจากอัตรากำลังการผลิตที่สูงขึ้น และราคาสินค้าเกษตรที่สูงขึ้น ส่วนการลงทุนภาครัฐจะขับเคลื่อนโดยโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ขณะที่การส่งออกจะยังคงเติบโตต่อไป แต่ปัจจัยเสี่ยงยังคงต้องติดตามภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯและยุโรป รวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองของไทยด้วย
ขณะที่ค่าเงินบาทจะมีความผันผวนมากกว่าปีก่อน และยังมีความเป็นไปได้ที่จะแข็งค่าขึ้น โดยคาดว่าค่าเงินบาทจะแกว่งตัวอยู่ในระดับ 28-32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เช่นเดียวกับทิศทางดอกเบี้ยที่อยู่ในขาขึ้นตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ซึ่งประเมินว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจะปรับเพิ่มอีก 0.5-1.%