xs
xsm
sm
md
lg

CIMBTมั่นใจสินเชื่อโต20% ลุ้นธปท.ตรึงดอกเบี้ยถึงสิ้นปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ซีไอเอ็มบีไทยเข็นสินเชื่อ 8 เดือน โต 15% ขยับใกล้ระดับที่ตั้งเป้าไว้ 20% และสูงกว่าทั้งระบบที่ 10% ระบุมาจากการเติบโตของสินเชื่อทุกกลุ่มตามการเติบโตของเศรษฐกิจ พร้อมรักษา NIM ให้อยู่ในระดับ 3.4-3.5% แม้จะแข่งระดมเงินฝากรุนแรง คาดกนง.คงดอกเบี้ยที่ 3.5%จนสิ้นปี

นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (CIMBT) กล่าวว่า ในช่วง 8 เดือนแรกของปี สินเชื่อของธนาคารขยายตัวแล้วกว่า 15% สูงว่าการเติบโตของทั้งระบบที่ 10% จึงเชื่อสินเชื่อทั้งปีของธนาคารจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 20% ซึ่งการเติบโตดังกล่าว จะมาจากสินเชื่อทุกกลุ่ม ทั้งธุรกิจขนาดกลางและย่อม สินเชื่อรายใหญ่ และสินเชื่อรายย่อย ขณะที่สินเชื่อที่อยู่อาศัยน่าจะมีแนวโน้มดีขึ้น จากนโยบายของรัฐบาล

ด้านหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 3% และธนาคารจะรักษาไว้ที่ระดับดังกล่าว ซึ่งเป็นระดับที่บริหารจัดการได้ และหากเทียบเป็น Net NPL ก็จะอยู่ในอัตราประมาณ 1%กว่า ขณะที่สถานการณ์สภาพคล่องของระบบการเงินในปัจจุบัน พบว่าเริ่มลดลงเนื่องจากมีการขยายตัวของสินเชื่อในอัตราที่สูง ขณะที่การขยายตัวของเงินฝากมีอัตราการขยายตัวที่ต่ำกว่า โดยปัจจุบันอัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากของธนาคารอยู่ในระดับ 85-90% ซึ่งถือว่ายังใกล้เคียงกับระบบ

นายสุภัคกล่าวอีกว่า สภาพคล่องที่ลดลง การแข่งขันระดมเงินฝากที่รุนแรงขึ้น จะกระทบส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ(NIM)หรือไม่นั้น จะขึ้นอยู่กับการบริหารงาน การดูแลต้นทุนของแต่ละธนาคาร ซึ่งในส่วนของซีไอเอ็มบีคาดว่าจะสามารถรักษาระดับ NIM ในสิ้นปีนี้ให้อยู่ใกล้เคียงกับปัจจุบันที่ 3.4-3.5%

สำหรับทิศทางอัตราดอกเบี้ยนั้น ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ที่เหลืออีก 2 ครั้งในปีนี้ คาดว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิมคือ 3.50%เนื่องจากแรงกดดันทางด้านเงินเฟ้อในปัจจุบันเริ่มลดลงตามทิศทางราคาน้ำมันที่ลดลง ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจในสหรัฐฯและยุโรปที่ยังคงมีปัญหา จะไม่ส่งผลด้านแรงกดดันต่อเงินเฟ้อให้เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันธปท.ก็อาจจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อประเมินผลกระทบจากที่ปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งโดยปกติจะใช้เวลาตอบรับประมมณ 5-6 เดือน

ทั้งนี้ อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะประเมินไว้ที่ 3.5-4% โดยเชื่อว่าในไตรมาส 4 เศรษฐกิจจะยังสามารถขยายตัวได้ดี ทั้งจากการขยายธุรกิจของภาคเอกชน และนโยบายของรัฐที่ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อปัญหาทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯและยุโรป อาจยังไม่กระทบต่อจีดีพีของไทยโดยตรงในทันที แต่ยอมรับว่าอาจมีผลกระทบต่อภาคการส่งออก เนื่องจากสหรัฐฯและยุโรปเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ของไทย แต่จากที่ผ่านมาผู้ส่งออกได้มีการปรับตัวกระจายการค้าไปยังตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคก็เชื่อว่าจะทำให้ผลกระทบดังกล่าวชะลอลง

นอกจากนี้ นายสุภัค ยังกล่าวในงานสัมมนา "Exporting Thailand : ประตูสู่อาเซียน กับ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย" ว่า ตลาดอาเซียนมีขนาดการค้าที่ใหญ่ และในปี 2558 จะมีการรวมกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ส่งออกของไทยในการขยายการค้าการลงทุนในอาเซียน และยิ่งเป็นช่วงโอกาสดีที่มีการประเมินว่า โอกาสทางการค้าและเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียนจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจโลกมีปัญหาทางการเงิน โดยเฉพาะในแถบสหรัฐอเมริกา ผู้ลงทุนจึงควรใช้โอกาสดังกล่าวให้เป็นประโยชน์ในการขยายการลงทุน

ด้านสถาบันการเงินไทยภายใต้ AEC นั้น เชื่อว่าจะมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ดังจะเห็นได้จากช่วงที่ผ่านมาสถาบันการเงินก็ได้เริ่มปรับตัวมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งธนาคารเองก็มีความพร้อม โดยมีสาขากว่า 1,200 สาขาในอาเซียน ที่สามารถให้บริการแก่ลูกค้าในการทำธุรกิจ และรองรับการทำธุรกรรมทางการเงินภายใต้ภูมิภาคอาเซียนได้เช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น