นายณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกข์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (CIMBT) กล่าวว่า ธนาคารยังคงเป้าการเติบโตของสินเชื่อปีนี้ไว้ที่ระดับ 20% จากในช่วงครึ่งปีแรกที่ขยายตัว 8.9% จากทิศทางเศรษฐกิจที่ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้สินเชื่อทั้งระบบขยายตัวตามไปด้วย โดยส่วนใหญ่ธนาคารจะเน้นกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม(เอสเอ็มอี)เป็นหลัก รองลงมาคือกลุ่มลูกค้ารายย่อย และกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ ตามลำดับ จากโครงสร้างสินเชื่อของธนาคารที่แบ่งเป็น เอสเอ็มอี 35% ลูกค้ารายย่อย 35% และลูกค้ารายใหญ่ 30%
"การเจาะกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี เนื่องจากต้องพยายามรักษาส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยไว้ ซึ่งกลุ่มลูกค้าดังกล่าวจะให้ผลตอบแทนจากดอกเบี้ยที่ดีกว่า โดยปัจจุบัน NIM ของธนาคารอยู่
ที่ 3.6-3.7% ซึ่งลดลงจากสิ้นปีก่อนที่อยู่ 4% แล้วก็ต้องพยายามหาลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นเพื่อสร้างผลตอบแทนอีกด้วย"
นายณรงค์ชัยกล่าวอีกว่า การเติบโตของกรุ๊ปในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งก็มาจากการซื้อธุรกิจหรือกิจการเข้ามา และสำหรับในอนาคตนั้น ทางกรุ๊ปยังไม่ทิ้งแผนการซื้อธนาคาร แต่ก็ยังคงต้องมองโอกาสในการเข้าไปซื้อ รวมถึงเรื่งอราคาด้วย พร้อมกันนั้นก็จะเน้นการเติบโตด้วยตนเองไปด้วย
สำหรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายจนถึงสิ้นปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 4% โดยคาดว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)น่าจะยังคงปรับดอกเบี้ยขึ้น แม้ว่า
ขณะนี้เริ่มมีนโยบายจากทางรัฐบาลให้มีการชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อที่จะทำให้การบริโภคภายในประเทศขยายตัวเพิ่มขึ้น
"โดยส่วนตัวมองว่าการขึ้นดอกเบี้ยของกนง. เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะเดียวกันรัฐบาลยังมีเครื่องมือด้านการคลังที่สามารถนำมาใช้ในการกระตุ้นการบริโภคได้ จึงไม่อยากให้น้ำหนักแต่การชะลอดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียว"
อย่างไรก็ตาม ธนาคารได้ปรับลดประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้มาที่ 3.5% จากเดิม 4% เนื่องจากมองว่ามีปัจจัยต่างประเทศที่ยังคงมีความเสี่ยง ขณะที่ประเทศไทยก็มีภาวะเศรษฐกิจยังอิงอยู่กับการส่งออกอยู่มาก
**รอคลังชี้ขาดCIMB Groupเข้าตลท.**
ส่วนความคืบหน้าในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยของซีไอเอ็มบีกรุ๊ปนั้น ขณะนี้ทางกรุ๊ปอยู่ระหว่างรอความชัดเจนเรื่องกฎเกณฑ์ในการเข้าตลาดฯก่อน โดยที่ผ่านมา
เรื่องดังกล่าวได้ผ่านไปยังกรมสรรพากรแล้ว และได้ส่งต่อไปยังกระทรวงการคลังเพื่อเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเพิ่งมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ จึงยังไม่มี
ความคืบหน้ามากนัก
นอกจากนี้ ธนาคารได้ปรับกลยุทธการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับแนวคิดของกรุ๊ปที่ว่า "ASEAN FOR YOU" โดยเน้นการสร้างนวัตกรรมและเชื่อมโยงระบบต่างๆภายในกรุ๊ปเพื่อรองรับการทำธุรกรรมของลูกค้าทุกกลุ่มในอาเซียนซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต
ทั้งนี้ ทางกรุ๊ปตั้งเป้าสัดส่วนการสร้างกำไรของซีไอเอ็มบีไทยในอยู่ระดับ 10%ของกำไรรวมทั้งกรุ๊ปในปี 2018 จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนอยู่ประมาณ 2%
"การเจาะกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี เนื่องจากต้องพยายามรักษาส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยไว้ ซึ่งกลุ่มลูกค้าดังกล่าวจะให้ผลตอบแทนจากดอกเบี้ยที่ดีกว่า โดยปัจจุบัน NIM ของธนาคารอยู่
ที่ 3.6-3.7% ซึ่งลดลงจากสิ้นปีก่อนที่อยู่ 4% แล้วก็ต้องพยายามหาลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นเพื่อสร้างผลตอบแทนอีกด้วย"
นายณรงค์ชัยกล่าวอีกว่า การเติบโตของกรุ๊ปในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งก็มาจากการซื้อธุรกิจหรือกิจการเข้ามา และสำหรับในอนาคตนั้น ทางกรุ๊ปยังไม่ทิ้งแผนการซื้อธนาคาร แต่ก็ยังคงต้องมองโอกาสในการเข้าไปซื้อ รวมถึงเรื่งอราคาด้วย พร้อมกันนั้นก็จะเน้นการเติบโตด้วยตนเองไปด้วย
สำหรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายจนถึงสิ้นปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 4% โดยคาดว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)น่าจะยังคงปรับดอกเบี้ยขึ้น แม้ว่า
ขณะนี้เริ่มมีนโยบายจากทางรัฐบาลให้มีการชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อที่จะทำให้การบริโภคภายในประเทศขยายตัวเพิ่มขึ้น
"โดยส่วนตัวมองว่าการขึ้นดอกเบี้ยของกนง. เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะเดียวกันรัฐบาลยังมีเครื่องมือด้านการคลังที่สามารถนำมาใช้ในการกระตุ้นการบริโภคได้ จึงไม่อยากให้น้ำหนักแต่การชะลอดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียว"
อย่างไรก็ตาม ธนาคารได้ปรับลดประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้มาที่ 3.5% จากเดิม 4% เนื่องจากมองว่ามีปัจจัยต่างประเทศที่ยังคงมีความเสี่ยง ขณะที่ประเทศไทยก็มีภาวะเศรษฐกิจยังอิงอยู่กับการส่งออกอยู่มาก
**รอคลังชี้ขาดCIMB Groupเข้าตลท.**
ส่วนความคืบหน้าในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยของซีไอเอ็มบีกรุ๊ปนั้น ขณะนี้ทางกรุ๊ปอยู่ระหว่างรอความชัดเจนเรื่องกฎเกณฑ์ในการเข้าตลาดฯก่อน โดยที่ผ่านมา
เรื่องดังกล่าวได้ผ่านไปยังกรมสรรพากรแล้ว และได้ส่งต่อไปยังกระทรวงการคลังเพื่อเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเพิ่งมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ จึงยังไม่มี
ความคืบหน้ามากนัก
นอกจากนี้ ธนาคารได้ปรับกลยุทธการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับแนวคิดของกรุ๊ปที่ว่า "ASEAN FOR YOU" โดยเน้นการสร้างนวัตกรรมและเชื่อมโยงระบบต่างๆภายในกรุ๊ปเพื่อรองรับการทำธุรกรรมของลูกค้าทุกกลุ่มในอาเซียนซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต
ทั้งนี้ ทางกรุ๊ปตั้งเป้าสัดส่วนการสร้างกำไรของซีไอเอ็มบีไทยในอยู่ระดับ 10%ของกำไรรวมทั้งกรุ๊ปในปี 2018 จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนอยู่ประมาณ 2%
