xs
xsm
sm
md
lg

กษัตริย์ญี่ปุ่นเสด็จพท.ภัยพิบัติเยี่ยมเหยื่อสึนามิ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเจนซีส์ - จักรพรรดิและจักรพรรดินีญี่ปุ่น เสด็จเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยพิบัติโดยตรงเป็นครั้งแรก นับแต่ที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิในวันที่ 11 มีนาคม ขณะเดียวกันตำรวจหลายร้อยคนในชุดป้องกันกัมมันตภาพรังสีอย่างรัดกุม ออกค้นหาศพเหยื่อเคราะห์ร้ายที่ยังติดค้างอยู่ในเขต 10 กิโลเมตรห่างจากโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ไดอิจิ ที่อยู่ในสภาพเป็นอัมพาตและสร้างปัญหาวิกฤตนิวเคลียร์ครั้งร้ายแรง ด้านชาวประมงเลิกทำประมงหอยเม่น-เป่าฮื้อ หลังพบทะเลเปื้อนรังสี ส่วนพ่อเฒ่าชาวญี่ปุ่นวัย 102 ปีตัดสินใจฆ่าตัวตาย ไม่ยอมอพยพจากเขตโรงไฟฟ้าฟูชิมะตามคำสั่งรัฐบาล

ตามคำแถลงของสำนักพระราชวังญี่ปุ่นและรายงานข่าวของสื่อมวลชนระบุว่า สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมประชาชนที่ศูนย์พักพิงสำหรับผู้อพยพ 2 แห่งในเมืองอาซาฮี จังหวัดชิบะ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางตะวันออกราว 80 กิโลเมตร เพื่อทรงร่วมแสดงความเสียพระราชหฤทัยและทรงปลอบขวัญพระราชทานกำลังใจแก่ผู้ประสบภัย

รายงานข่าวระบุว่าทั้งสองพระองค์ได้ทรงประทับนั่งคุกพระชานุแบบญี่ปุ่นบนเสื่อ และทรงมีพระราชดำรัสเบาๆ กับประชาชนผู้อพยพ ซึ่งต่างพากันโค้งคำนับก้มต่ำ โดยที่ประชาชนบางคนก็น้ำตาไหล

ที่เมืองอาซาฮีแห่งนี้ มีผู้เสียชีวิตไป 13 คน และบาดเจ็บอีก 12 คน จากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในวันที่ 11 มีนาคม นอกจากนั้นยังมีบ้านเรือนถูกทำลายหรือได้รับความเสียหายอีกราว 3,000 หลัง

ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่สมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินีเสด็จเยือนพื้นที่ประสบภัยโดยตรง และยังมีหมายกำหนดการที่จะเสด็จเยือนพื้นที่ประสบภัยอื่นๆ ในเดือนนี้และเดือนหน้าด้วย

ก่อนหน้านี้ทั้งสองพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมประชาชนผู้ประสบภัย ซึ่งอพยพออกมาอยู่ตามศูนย์พักพิงชั่วคราวต่างๆ หลายครั้ง โดยที่เมื่อวันศุกร์(8)ที่แล้ว ทั้งสองพระองค์ได้เสด็จเยี่ยมประชาชนที่อพยพออกจากพื้นที่ใกล้ๆ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิจิ มาอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราวในเมืองเมืองคาโซะ ทางตอนเหนือของกรุงโตเกียว

เมื่อวานนี้ กำลังตำรวจหลายร้อยคนได้ถูกส่งออกไปค้นหาศพผู้เคราะห์ร้ายที่คาดกันว่าอาจจะสูงถึง 1,000 ศพ ซึ่งยังติดอยู่ตามซากปรักหักพังในพื้นที่ใกล้ๆ โรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ไดอิจิ ทั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่มีการค้นหากันในวงรัศมีใกล้ๆ โรงไฟฟ้าที่เป็นอัมพาตและยังคงมีกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลออกมาแห่งนี้

ตำรวจระบุว่า จากการที่ระดับกัมมันตภาพรังสีกำลังลดต่ำลงมา จึงทำให้พวกเขาสามารถเข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ซึ่งอยู่ภายในรัศมี 10 กิโลเมตรห่างจากโรงไฟฟ้าแห่งนี้ได้เป็นครั้งแรก

***คาดอาจเกิดอาฟเตอร์ช็อก8 ริกเตอร์

ด้านนายเคอิจิ โดอิ หัวหน้าสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น ระบุว่า นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 9 ริกเตอร์เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา มีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นแทบทุกวัน โดยครั้งที่รุนแรงที่สุดที่วัดได้ 7.7 ริกเตอร์ นอกชายฝั่ง จ.อิราบากิ ซึ่งถือเป็นอาฟเตอร์ช็อกครั้งรุนแรงที่สุด แต่มีความเป็นไปได้ว่า น่าจะมีอาฟเตอร์ช็อกขนาด 8 ริกเตอร์ เกิดขึ้นอีก ซึ่งญี่ปุ่นจะต้องเตรียมรับมือกับเรื่องนี้ ซึ่งอาฟเตอร์ช็อกขนาด 8 ริกเตอร์ อาจจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และอาจจะทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิซัดถล่มจุดเดิม ที่ยังไม่ฟื้นตัว ซึ่งระยะเวลาที่เกิดอาจจะเป็น 4-6 เดือนนับจากนี้

ทั้งนี้รัฐบาลญี่ปุ่นประเมินว่า ความเสียหายจากแผ่นดินไหว และคลื่นสึนามิ มีมูลค่าสูงถึง 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 9 ล้านล้านบาท นับเป็นหายนะทางธรรมชาติ ที่สร้างความเสียหายเป็นจำนวนเงินที่สูงที่สุดในโลก

**ญี่ปุ่นเลิกทำประมงหอย***

กลุ่มสหกรณ์การประมงใน จ.ฟูกุชิมะ ของญี่ปุ่น ประกาศยกเลิกการทำประมงหอยเม่น และหอยเป่าฮื้อ เป็นการชั่วคราว ก่อนเริ่มต้นฤดูการประมงในเดือนพฤษภาคม นี้ จากการตระหนักถึงอันตรายในการค้าขายและความปลอดภัยในการดำน้ำเพื่อจับหอยทั้งสองชนิด หลังมีการตรวจพบการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสี ในน้ำทะเล จากการปล่อยน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิ ที่ได้รับการเสียหายจากอิทธิพลของแผ่นดินไหว และสึนามิที่ผ่านมา

นายคาซูโอะ อะกิยามะ หัวหน้ากลุ่มสหกรณ์การประมงฯ กล่าวว่า ทางกลุ่มจะเรียกร้องให้ทาง เทปโก ที่เป็นผู้ประกอบการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ชดเชยค่าเสียหายที่เกิดขึ้น

ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิต ที่ได้รับการยืนยันล่าสุดจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ วานนี้ (14 เม.ย.) พบร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 13,439 ราย และยังคงสูญหายอีก 14,867 คน โดยพื้นที่ที่พบผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือ จ.มิยางิ ตรวจพบทั้งสิ้น 8,227 ราย, อิวาเตะ 3,867 ราย และฟุกุชิมะ 1,282 ราย ซึ่งร่างผู้เสียชีวิต 84 เปอร์เซ็นต์จากทั้งหมด หรือ 11,255 ราย ได้รับการยืนยันตัวบุคคล และทำการส่งคืนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตแล้ว

อย่างไรก็ดี สำนักงานตำรวจ ยังกล่าวด้วยว่า ตัวเลขของผู้เสียชีวิตจะเพิ่มสูงขึ้นอีกในช่วงบ่ายวันนี้ จากการเริ่มค้นหาเป็นครั้งแรก ในพื้นที่รัศมี 10 กิโลเมตร รอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ไดอิจิ

***พ่อเฒ่าญี่ปุ่นวัย 102 ปีชิงฆ่าตัวตาย***

ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า ชายชราชาวญี่ปุ่นวัย 102 ปีตัดสินใจฆ่าตัวตายอยู่ในเขตอพยพโรงไฟฟ้าฟูชิมะ ไดอิจิ ที่รัฐบาลประกาศออกมาใหม่ เนื่องจากรู้สึกหดหู่อย่างยิ่งที่ต้องทิ้งบ้านอันเป็นที่รัก

โดยชายชรารายนี้เป็นประชากรที่มีอายุมากที่สุดในหมู่บ้านอีตาเตะ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ไดอิจิ 40 กิโลเมตร เขาฆ่าตัวตายหลังจากสนทนากับคนในครอบครัวเกี่ยวกับเรื่องการอพยพ สำนักข่าวจิจิเพรสรายงาน อ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น

“ก่อนฆ่าตัวตาย บุรุษผู้อาวุโสสุดในชุมชนอีตาเตะได้ปรึกษากับครอบครัวเรื่องแผนการอพยพ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าท้องถิ่น ขณะนี้มีการตั้งข้อสันนิษฐานไว้ว่า พ่อเฒ่าคงเสียใจมากที่ทราบว่าต้องไปจากที่นี่” สำนักข่าวจิจิเพรสรายงาน

หมู่บ้านอีตาเตะเป็นหนึ่งในพื้นที่ซึ่งทางรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศให้เป็นเขตอพยพเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากกังวลว่า กัมมันตภาพรังสีอาจส่งผลต่อสุขภาพของชาวบ้านในระยะยาว

ชาวญี่ปุ่นหลายพันคนได้อพยพออกจากเขตอพยพรัศมี 20 กิโลเมตรรอบโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ไดอิจิ ซึ่งได้ปลดปล่อยรังสีพิษออกมาจากแท่งเชื้อเพลิง หลังระบบหล่อเย็นเตาปฏิกรณ์ได้รับความเสียหายจากคลื่นสึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคม

คำสั่งขยายพื้นที่อพยพ ซึ่งรัฐบาลระบุว่าจะเริ่มการอพยพภายในเดือนหน้า จะทำให้ประชาชนอีกหลายพันคนกลายเป็นคนไร้บ้าน

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ในหมู่บ้านอีตาเตะได้ยืนยันว่า พ่อเฒ่าวัย 102 ปีผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านได้เสียชีวิตลงแล้ว แต่สำทับว่า “ตอนนี้เรายังไม่ยืนยันว่าพบศพเขาได้อย่างไร หรือเขาฆ่าตัวตายจริงๆ หรือไม่”
กำลังโหลดความคิดเห็น