xs
xsm
sm
md
lg

"มาร์ค"ตกเขียวแรงงาน ขึ้นค่าจ้าง25%ภายใน2ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯอภิสิทธิ์ ถึงกรณีที่รัฐบาลและนายจ้างได้มีการเจรจากันเรื่องค่าแรงที่จะปรับขึ้น ทั้งนี้เพื่อปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ให้เกิดความเป็นธรรมในสังคม ทั้งนี้ค่าแรงขั้นต่ำของแรงงานไทยนั้น บางส่วนยังต่ำกว่าประเทศฟิลิปปินส์ ทำให้มีความเหลื่อมล้ำในสังคม
ในส่วนของค่าแรงต่ำ ทำให้เศรษฐกิจของไทยไม่แข็งแรงเท่าที่ควร อาจทำให้แรงงานไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรในการเผชิญปัญหาของประเทศ ขณะนี้ได้เร่งให้กระทรวงแรงงานทำการปรับปรุงคุณภาพแรงงาน และดูค่าจ้างให้สอดคล้องกับประสิทธิภาพแรงงาน เพราะถ้าเราทำให้ประชาชนมีเงินในกระเป๋าเพิ่ม จะช่วยให้แรงงานสามารถรอดพ้นวิกฤติสินค้าแพงไปได้ ทั้งนี้จะทยอยปรับเพิ่ม ให้ได้ร้อยละ 25 ภายใน 2 ปี ที่ไม่ปรับเร็วเพราะห่วงผู้ประกอบการ
ด้านนายสรรเสริญ สมะลาภา ส.ส.กรุงเทพฯ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ด้านเศรษฐกิจ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย เสนอนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาททันที ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ เสนอนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 25 เปอร์เซ็นต์ ใน 2 ปี ว่า แค่เป็นนโยบายที่เกทับบลัฟกันด้วยตัวเลขที่สูงกว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทย ไม่สามารถทำได้ในทางปฏิบัติ เพราะไม่ได้คิดวิเคราะห์จากภาพรวมทั้งระบบ
ทั้งนี้ การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ต้องคำนึงหลายเรื่อง เช่น ผลกระทบต่อภาคธุรกิจ จำนวนแรงงานในอุตสาหกรรม เพราะถ้าแค่เสนอตัวเลขที่สูงเกินจริง เจ้าของกิจการก็จะเลิกจ้าง คนตกงาน เกิดปัญหาสังคม รัฐต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนสวัสดิการสังคมเพิ่ม รายได้เข้ารัฐน้อยลง สินค้าที่ผลิตค้างอยู่ก็จะแพง ผู้บริโภค ก็เดือดร้อน ซึ่งแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์ที่เสนอขึ้น 25 % ใน 2 ปี คิดถึงปัจจัยด้านอื่นด้วย เช่น การกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อการศึกษาระดับปริญญาตรี การลดต้นทุนค่าขนส่ง เศรษฐกิจสร้างสรรค์ เขตเศรษฐกิจพิเศษ
" ต้องจัดลำดับความสำคัญซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ เลือกให้คนมีงานทำก่อนค่าแรงสูงๆ แต่พรรคเพื่อไทยกลับเลือกค่าแรงสูงๆ ก่อน ซึ่งไม่มีประโยชน์ เพราะจะทำให้คนตกงาน ทั้งนี้พรรคจะทยอยเสนอนโยบายอื่นๆ ตามมา พร้อมกับตรวจสอบนโยบายของพรรคคู่แข่งที่เป็นไปไม่ได้ เพื่อให้ประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกได้ถูกต้อง และขอถามพรรคเพื่อไทยว่า แค่เสนอนโยบายแรกก็เชื่อไม่ได้ แล้วนโยบายที่ตามมาจะน่าเชื่อถือได้อย่างไร" นายสรรเสริญ กล่าว

**พท.ซัดนโยบายปชป.ลอกจาก"แม้ว"

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า วันที่ 20 เม.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะใช้เวลาทางโทรทัศน์ตามที่ กกต.จัดสรรเวลาให้พรรคประชาธิปัตย์ ชี้แจง 4 นโยบายหลัก เพื่อใช้หาเสียง ตนมองว่าสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ นำมาเป็นจุดขายเป็นนโยบายคือ อนาคตนั้น แต่ปัจจุบันนี้นายอภิสิทธิ์ ต้องดำเนินการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาสก่อน และคำๆนี้ คุ้นว่าลอกมาจากนโยบายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ตนลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก พบว่าด่านชายแดนไทย - พม่าที่ปิดด่านตั้งแต่ปีที่แล้ว และวันนี้ครบเก้าเดือนแล้ว ด่านนี้มีรายได้มีรายได้ปีละสี่หมื่นล้านบาท เมื่อปิดด่านนั้น รายได้หายไปร้อยละแปดสิบ และมีการลงใต้ดิน กินหัวคิวกัน นายอภิสิทธิ์ ต้องพิจารณาด้านภาวะผู้นำแก้ปัญหานี้ โดยควรเจรจาเปิดด่านกับพม่าก่อนการยุบสภา ไม่อย่างนั้น จะเป็นการประจานนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลนี้ว่า ล้มเหลว ไม่มีน้ำยา ไร้ประสิทธิภาพ
ส่วนอีกประเด็นหนึ่ง คือ พรรคได้รับเรื่องร้องเรียนจากเกษตรกรภาคใต้ ว่าราคาปาล์มดิบราคากิโลกรัมละไม่เกิน 4 บาท แต่ต้นทุนนั้นมันเกิน 4 บาท โรงงานจะเปิดรับซื้อปาล์มหลังสงกรานต์ แต่น้ำมันปาล์มวันนี้ทำไมยังขายขวดละ 47 บาท กระทรวงพาณิชย์ บอกจะลดราคาน้ำมันปาล์ม หากผลผลิตปาล์มออกมามาก แต่วันนี้มีเสือหิวที่นอนกินราคาต่างขวดละ 7 - 9 บาท ไม่แปลกใจเลยหากรัฐบาลไม่ลดราคาน้ำมันปาล์ม นโยบายใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ คือโฆษณาชวนเชื่อ และขายฝัน ทั้งๆที่วันนี้มีอำนาจ มันจึงสมกับฉายา ครม.สวาปาล์ม เพราะคนที่มีชื่อย่อ ส.พ.อ. ยังดำเนินการกินส่วนต่างน้ำมันปาล์มอยู่ในช่วงนี้ ฉะนั้นรัฐบาลควรทำมากกว่าพูด หากไม่ทำเรื่องนี้ มันจะเอื้อประโยชน์กับนายทุน
กำลังโหลดความคิดเห็น