“อภิสิทธิ์” เผย นโยบายขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ ร้อยละ 25 ใน 2 ปี ไม่ได้แทรกแซงระบบไตรภาคี ชี้ เป็นการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ
วันนี้ (7 เม.ย.) ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในงานเสวนาเรื่อง “ขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ : แรงงานไทยดีจริงหรือ?” ครั้งที่ 2 ที่กระทรวงแรงงาน ร่วมกับมูลนิธิอารมณ์ พงศ์พงัน โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ร่วมเสวนากับผู้แทนภาครัฐ นายจ้าง ลูกจ้าง
นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า นโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 25% ใน 2 ปี ไม่ได้เป็นการแทรกแซงระบบกลไกของไตรภาคีที่ตัวแทนของฝ่ายนายจ้าง ลูกจ้าง และภาครัฐ จะกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำร่วมกัน แต่เป็นการที่รัฐบาลมีนโยบายเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ เพิ่มกำลังซื้อและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ และกรรมการไตรภาคีควรนำปัจจัยดังกล่าวไปพิจารณาด้วย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้มีแต่ปัญหาค่าครองชีพสูง ทางออกคือ ต้องทำให้คนมีรายได้เพิ่มตามราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยนโยบายในการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำอีกร้อยละ 25 ภายใน 2 ปี จะเป็นการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ให้มีการพึ่งพาเศรษฐกิจในประเทศมากขึ้น ซึ่งจะทยอยปรับขึ้นตามสัดส่วนค่าจ้างแต่ละจังหวัด ควบคู่ไปกับการลดต้นทุนทางด้านภาษีให้กับผู้ประกอบการ และควบคุมราคาสินค้าไม่ให้เกิดการผูกขาด พร้อมยืนยันว่าไม่ได้แทรกแซงระบบไตรภาคี แต่เป็นเรื่องนโยบายที่คณะกรรมการไตรภาคีต้องนำไปพิจารณาด้วย
“สิ่งที่ต้องทำควบคู่ไปด้วย คือ การลดต้นทุนผู้ประกอบการ เช่น การลดภาษีเงินได้นิติบุคคล และการหักลดหย่อนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการพัฒนาฝีมือแรงงาน ร่วมกับการทยอยปรับขึ้นค่าจ้างอย่างค่อยเป็นค่อยไป และขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเพิ่มค่าจ้างในอัตราเท่ากันทั่วประเทศหรือไม่ ต้องศึกษารายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง” นายกรัฐมนตรี กล่าว