โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์
เห็นหรือยัง ส.ส. สันหลังยาว ขี้เกียจประชุมสภาฯ ทำให้องค์ประชุมล่มซ้ำซาก ตากหน้าสู้กระแส ไม่ยอมอายอย่างไรก็ตาม เมื่อถึงวาระต้องปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง ก็รีบมาประชุมเปิดทางสู่การทำมาหากินรอบใหม่
ล่าช้าไปกว่ากำหนดเริ่มประชุมวันพฤหัส ส.ส. หนุ่ม เฒ่า สาวใหญ่น้อยร่วมมือกันเข็นกฎหมายเกี่ยวกับเลือกตั้ง 3 ฉบับผ่านสภาฯ จนได้ จากนี้ไปรอให้ผ่านวุฒิสภา นำไปสู่การยุบสภาฯ เลือกตั้งทั่วไปตามพิธีกรรมประชาธิปไตย
ขึ้นอยู่กับ “ว่าที่อดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ว่าจะใช้สิทธิ์ยุบสภาฯ เมื่อไหร่ เพราะนั่นคือกำหนดวันสิ้นสุดของการเป็นผู้นำรัฐบาล
ดูสภาพร่อแร่ เหมือนเทียนไขสิ้นแสงแล้ว “ว่าที่อดีตนายกฯ อภิสิทธิ์” อาจรอหาข้อมูลใหม่ ความชัดเจนของสภาพการณ์แวดล้อม ก่อนตัดสินใจ
ช่วงประกาศว่าจะยุบสภาฯ ราวต้นเดือนพฤษภาคม ดูยังมีความหวังว่าตัวเองมีโอกาสได้เป็นนายกฯ ต่อไป ถ้าค่ายสะตอชนะการเลือกตั้ง หรือยังเป็นแกนนำของพรรคร่วมรับประทาน ประสานงานแบ่งปันผลประโยชน์กินคำโต
เพียง 2-3 สัปดาห์ สถานการณ์เริ่มไม่น่าไว้ใจ กระแสเสียงร่ำลือว่าจะไม่มีเลือกตั้งดังกว่าเดิม ซ้ำด้วยกระแส “ไม่เลือกใคร” จากการรณรงค์โดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเสนอ “ไม่เลือกใคร” ให้เป็นทางเลือก
กองทัพเริ่มส่งสัญญาณแปร่งๆ ทะแม่งหู ไม่เดินตามรอยรัฐบาลกรณีปัญหาเกี่ยวโยงดินแดนรอบปราสาทพระวิหาร ซึ่งไทยกับกัมพูชาทะเลาะกัน
“รองฯ เทือก” สวมบทนกรู้บินสูง ถูกมองว่าพยายามชิ่งตัวหนีจาก “มาร์ค โพเดียมเลี่ยมทอง” ซึ่งอยู่ในสภาพใบหน้าหมองคล้ำ สิ้นสง่าราศี พูดจาไม่ลื่นไหล ความมั่นใจลดลง ความน่าเชื่อถือเหลือเฉพาะในกลุ่มแม่ยก
ไม่แปลกใจ เมื่อ “รองฯ เทือก” เสนอตัวเลือกใหม่ คือ “เสี่ยกรณ์” และ “เสี่ยอภิรักษ์” ตีกันพรรคอื่นๆ รวมทั้งพรรคร่วมรับประทาน ว่าอย่าคิดส่งตัวประกบ! แม้ก๊วนบุรีรัมย์จะดันชายชราหัวหน้าพรรคอายุ 74 ปี มาให้เลือก
เร่งโชว์ตัวบุคคลทางเลือกใหม่ให้กองทัพดูว่ายังไม่ถึงทางตัน! ดังนั้น “มาร์ค” คงอยากยืดเวลาการเป็น “ว่าที่อดีตนายกฯ” ขออยู่ครบเทอมดีกว่า
เมื่อยังไม่มีอะไรหยุดการเลือกตั้ง ก๊วนการเมืองต่างๆ จึงเร่งสร้างอำนาจต่อรอง พรรคเล็กน้อย กระจอกงอกง่อยจับมือกันรักษาผลประโยชน์เต็มที่
เป็นสัญชาติญาณของการดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดบนความมั่งคั่งจากการรีดนาทาเร้นเงินงบประมาณจากภาษีประชาชนในโครงการต่างๆ
เราจึงเห็นสัตยาบันระหว่าง “พรรคห้อย” กับ “พรรคเตี้ย” ว่าจะไปไหนด้วยกัน ไม่ยอมอดอยากปากแห้งเด็ดขาด แถมยังแบะท่าพร้อมชิงเก้าอี้นายกฯ
รวมกันหมาดๆ วันพุธ คือพรรครวมชาติพัฒนากับพรรคเพื่อแผ่นดิน ยกระดับเป็นก๊วนขนาดกลาง ยังเป็นรอง “พรรคห้อย-เตี้ย” ถ้าไม่หาพวกมาเพิ่ม
เห็นหรือยังว่าการรักษาผลประโยชน์ของตัวเองนั้น นักการเมืองไม่รอช้า!
เหตุซึ่งทำให้พรรคร่วมรับประทานเร่งปกป้องปากท้องคือปรากฎการณ์ “เฒ่าเหนาะ” คืนสู่คอกเพื่อไทย โดยเงินทักษิณ เป็นตัวดูดแรงจนลืมอายสุนัข! ไม่รู้ว่าเป็นสุนัขตัวเดิมที่บอกว่าจะอาย ถ้าพลิกลิ้น ย้ายค่ายกลับไปซบทักษิณ
ทายาทเฒ่าเหนาะอธิบายแทนตัวพ่อว่าภารกิจสุดท้ายคือขอเป็นนักปรองดองให้ค่ายเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ร่วมมือจัดตั้ง “รัฐบาลแห่งชาติ” แก้ปัญหาความขัดแย้งในสังคม พรรคที่ได้เสียงมากกว่าต้องได้เก้าอี้นายกฯ
การเป็นนักปั้นนายกฯ แล้วได้เดนนรกกังฉินมากินเมือง 3-4 รุ่นนั้นเป็นบาปกรรม เลวทราม ชั่วร้ายเหมือนการแปรสภาพธรณีสงฆ์เป็นสนามกอล์ฟ
ถ้าภารกิจสำเร็จ พรรคห้อย-เตี้ย และพรรครวมชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน จะถูกทิ้งให้เป็นฝ่ายค้านนั่งบี้สิวแก่ อดอยากปากแห้ง ปิดทางคนตัวสั้นล้วงลึก
แต่พวกนี้จะอ้างว่าไหนๆ ก็จะ “แห่งชาติ” แล้ว ก็ขอร่วมด้วย ไม่ต่อรองเอากระทรวงใหญ่ ขอให้อยู่ในรัฐบาล เพราะค้านไม่เป็น ดีกว่าแร้นแค้นหิวโหย
จะเป็น “รัฐบาลแห่งชาติ” มี ช. สระอั้ว ตามหลังหรือไม่ อย่าสงสัย! นักฟันธงคงไม่รีรอ ฟันฉับเลยว่าต้องเป็นพลังเขมือบ งาบคำโต ยกกำลังสอง!
ฟันอีกฉับได้ว่า “มาร์ค” ต้องเป็น “อดีตนายกฯ” โดยสมบูรณ์!
ก๊วนเฒ่าเหนาะอ้างว่ารูปแบบรัฐบาลแห่งชาติผ่านการเคลียร์กับผู้นำกองทัพแล้ว! แต่ไม่บอกว่ายังเห็นหัวประชาชนอยู่ในสายตาอีกหรือไม่
ถ้าประกาศภารกิจเป็นทางการ เท่ากับเป็นการเติมเชื้อไฟ เร่งกระแสรณรงค์ให้ประชาชน “ไม่เลือกใคร” สภาวะเช่นนั้นไม่ใช่ “อัปรีย์ไป จัญไรมา” แต่มาพร้อมกันทั้ง “อัปรีย์บวกจัญไร” แท็คทีมกันเขมือบด้วยปากพลังเทอร์โบ
การเมืองน้ำเน่า มีแต่ทุจริต คอรัปชั่นไร้ทางเลือก! บ้านเมืองติดอยู่ในวังวนอุบาทว์ หนีเสือปะจระเข้! จะเอา “รัฐประหาร” หรือ “นักการเมืองโกงกิน”
เป็นเส้นทางที่นำพาบ้านเมืองสู่ความเสื่อมโทรมถึงขั้นล่มจม!
ตัวแปรสำคัญอยู่ที่ “ไทยจะเสียดินแดนให้กัมพูชา” หรือไม่! ถ้าเสียจริง กองทัพจะมีสิทธิ์จัดการกับนักการเมืองเต็มที่ ในรูปแบบไหนก็แล้วแต่ เสื้อแดงซึ่งเจ้านายเงินเป็นมิตรกับฮุนเซน จะไม่กล้าหือ เพราะเป็นขบวนการเดียวกัน
ประชาชนคนห่วงชาติบ้านเมือง ต้องหาทางให้พ้นวิกฤติด้วยนิ! อิอิอิ!!!