ASTVผู้จัดการรายวัน -กรอ.เผยผลสำรวจ39 อุตสาหกรรมไทยในญี่ปุ่น พบ 13 กลุ่มฯ ได้รับผลกระทบด้านลบ ส่วนอีก 13 ธุรกิจไม่ได้รับผลกระทบและบางส่วนมีทั้งบวกและลบ ส่วนเจโทรยันแผ่นดินไหวญี่ปุ่น ไม่กระทบการค้า การลงทุนกับไทย เมติส่งสาสน์ขอบคุณน้ำใจไทย รับอุตสาหกรรมไทยที่ใช้วัตถุดิบจากญี่ปุ่นอาจกระทบบ้าง ด้าน“พาณิชย์”เดินหน้าช่วยเต็มสูบต่อไป สธ.สั่งจับตาอาหารนำเข้าจากญี่ปุ่นหวั่นปนเปื้อนกัมมันตรังสี
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน(กรอ.)ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานวันที่ 21 มี.ค. ว่า ส.อ.ท.ได้รายงานผลการสำรวจ 39 กลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็นสมาชิกถึงผลกระทบกรณีภัยพิบัติในประเทศญี่ปุ่นพบ 13 กลุ่มฯได้รับผลกระทบด้านลบ ด้านบวกที่จะเป็นโอกาสทางธุรกิจ 1 กลุ่มมีทั้งบวกและลบ 6 กลุ่ม ไม่ได้รับผลกระทบ 8 กลุ่มและรอการประเมิน11 กลุ่ม
สำหรับ 13 กลุ่มที่ได้รับผลกระทบด้านลบได้แก่ อุตฯ ก๊าซ , เคมี ,เครื่องจักรกลและโลหะการที่จะกระทบต่อคำสั่งซื้อลดลงแต่ไม่มากนักเฉลี่ยผลกระทบ 10% ส่วนเครื่องปรับอากาศ อนาคตมีแนวโน้มวัตถุดิบขาดแคลนและมีราคาสูงขึ้น เป็นต้น ส่วนกลุ่มที่มีโอกาสด้านบวกคือ แก้วและกระจกที่คาดว่าจะมีการสั่งซื้อเพิ่มขึ้นเพราะโรงงานที่ญี่ปุ่นหยุดการผลิต ขณะที่มีทั้งลบและบวกได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาง
**เจโทรยันการค้าการลงทุนไม่สะดุด
นายยาสุโอะ ฮายาชิ ประธานและซีอีโอองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) เปิดเผยในการจัดงาน Invest Japan Symposium วานนี้ (21 มี.ค.) ว่า ระยะสั้นอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นอาจจะชะลอตัวลง เนื่องจากได้รับผลกระทบมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว แต่ขณะนี้รัฐบาลญี่ปุ่นได้เร่งอัดฉีดเงินมหาศาลเพื่อฟื้นฟูภาคเศรษฐกิจภายในประเทศและยังคงมีนโยบายเดินหน้าส่งเสริมการค้าและการลงทุนเหมือนเดิม ส่วนผลกระทบต่อการค้าและการลงทุนของไทย เห็นว่า ไม่น่าจะมีปัญหา โดยความร่วมมือจะยิ่งแน่นแฟ้นขึ้น เนื่องจากไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของอุตสาหกรรมญี่ปุ่นเพื่อส่งออกไปยังประเทศในเอเชียและประเทศอื่นๆ
รายงานข่าวแจ้งว่า ในงานสัมมนาครั้งนี้ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของประเทศญี่ปุ่น (เมติ) ที่มีกำหนดจะมาร่วมงานด้วย แต่เนื่องจากสถานการณ์ฉุกเฉินในญี่ปุ่น ทำให้ไม่สามารถเดินทางเข้าร่วมงานได้ จึงได้ส่งสาสน์แสดงความขอบคุณต่อน้ำใจและมิตรภาพของประเทศไทย ผ่านทาง เจโทร กรุงเทพ มีใจความว่า ในนามของชาวญี่ปุ่นรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และยังซาบซึ้งในความห่วงใยของประชาชนชาวไทยจำนวนมาก ที่ร่วมกันแสดงความเสียใจ ตลอดจนการเสนอความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทย ซึ่งได้สร้างขวัญและกำลังใจเป็นอันมากแก่ชาวญี่ปุ่น
**คนไทยในญี่ปุ่นยังแข็งแรง
นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์ความคืบหน้าของการช่วยตรวจสุขภาพคนไทยในญี่ปุ่น ว่า เบื้องต้นทีมแพทย์ที่ สธ.ได้ส่งไปประจำที่ญี่ปุ่นนั้นพบว่า คนไทยยังมีสุขภาพที่ดี โดยพบว่ามีอาการเจ็บปวดเล็กน้อยเท่านั้น เช่น เป็นหวัด และถ้าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงคาดว่า ทีม นพ.ไพโรจน์ เครือกาญจนา หัวหน้าทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ รพ.ราชวิถี จะเดินทางกลับมาประเทศไทยราววันที่ 24 มี.ค.นี้ แต่หากมีอะไรเปลี่ยนแปลงก็อาจอยู่ต่อ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังยืนยันไม่ได้ว่าต้องส่งทีมแพทย์ไปเพิ่มหรือไม่ เรื่องนี้ต้องปรึกษาโยตรงกับกระทรวงต่างประเทศ
**เฝ้าระวังอาหารนำเข้าจากญี่ปุ่น
ส่วนเรื่องการตรวจสอบอาหารซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงขณะนี้ สุ่มตรวจอาหารไปแล้ว 31 ตัวอย่าง เป็นพืช 3 รายการ อาหารทะเล 28 รายการ ทั้งหมดไม่พบกัมมันตภาพรังสีตกค้างแต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตามตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป อย.จะเริ่มตรวจที่ท่าเรือคลองเตยและแหลมฉบังเพราะเรือเริ่มนำอาหารจากญี่ปุ่นเข้ามา ซึ่งมาตรการให้การดูแลสุขภาพคนไทยและการเฝ้าระวังทั้งหมดนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
** “เฉลิมชัย” ชี้ แรงงานในลิเบียปลอดภัย
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.แรงงาน กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีแรงงานไทยในประเทศลิเบียอยู่บ้าง ซึ่งเป็นความประสงค์ของแรงงานเอง ที่เห็นว่ายังไม่เผชิญเหตุจลาจล อย่างไรก็ตามทางเราก็พร้อมจะอพยพแรงงานไทยกลับมาประเทศไทย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของแรงงานไทยเป็นสำคัญ
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน(กรอ.)ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานวันที่ 21 มี.ค. ว่า ส.อ.ท.ได้รายงานผลการสำรวจ 39 กลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็นสมาชิกถึงผลกระทบกรณีภัยพิบัติในประเทศญี่ปุ่นพบ 13 กลุ่มฯได้รับผลกระทบด้านลบ ด้านบวกที่จะเป็นโอกาสทางธุรกิจ 1 กลุ่มมีทั้งบวกและลบ 6 กลุ่ม ไม่ได้รับผลกระทบ 8 กลุ่มและรอการประเมิน11 กลุ่ม
สำหรับ 13 กลุ่มที่ได้รับผลกระทบด้านลบได้แก่ อุตฯ ก๊าซ , เคมี ,เครื่องจักรกลและโลหะการที่จะกระทบต่อคำสั่งซื้อลดลงแต่ไม่มากนักเฉลี่ยผลกระทบ 10% ส่วนเครื่องปรับอากาศ อนาคตมีแนวโน้มวัตถุดิบขาดแคลนและมีราคาสูงขึ้น เป็นต้น ส่วนกลุ่มที่มีโอกาสด้านบวกคือ แก้วและกระจกที่คาดว่าจะมีการสั่งซื้อเพิ่มขึ้นเพราะโรงงานที่ญี่ปุ่นหยุดการผลิต ขณะที่มีทั้งลบและบวกได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาง
**เจโทรยันการค้าการลงทุนไม่สะดุด
นายยาสุโอะ ฮายาชิ ประธานและซีอีโอองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) เปิดเผยในการจัดงาน Invest Japan Symposium วานนี้ (21 มี.ค.) ว่า ระยะสั้นอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นอาจจะชะลอตัวลง เนื่องจากได้รับผลกระทบมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว แต่ขณะนี้รัฐบาลญี่ปุ่นได้เร่งอัดฉีดเงินมหาศาลเพื่อฟื้นฟูภาคเศรษฐกิจภายในประเทศและยังคงมีนโยบายเดินหน้าส่งเสริมการค้าและการลงทุนเหมือนเดิม ส่วนผลกระทบต่อการค้าและการลงทุนของไทย เห็นว่า ไม่น่าจะมีปัญหา โดยความร่วมมือจะยิ่งแน่นแฟ้นขึ้น เนื่องจากไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของอุตสาหกรรมญี่ปุ่นเพื่อส่งออกไปยังประเทศในเอเชียและประเทศอื่นๆ
รายงานข่าวแจ้งว่า ในงานสัมมนาครั้งนี้ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของประเทศญี่ปุ่น (เมติ) ที่มีกำหนดจะมาร่วมงานด้วย แต่เนื่องจากสถานการณ์ฉุกเฉินในญี่ปุ่น ทำให้ไม่สามารถเดินทางเข้าร่วมงานได้ จึงได้ส่งสาสน์แสดงความขอบคุณต่อน้ำใจและมิตรภาพของประเทศไทย ผ่านทาง เจโทร กรุงเทพ มีใจความว่า ในนามของชาวญี่ปุ่นรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และยังซาบซึ้งในความห่วงใยของประชาชนชาวไทยจำนวนมาก ที่ร่วมกันแสดงความเสียใจ ตลอดจนการเสนอความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทย ซึ่งได้สร้างขวัญและกำลังใจเป็นอันมากแก่ชาวญี่ปุ่น
**คนไทยในญี่ปุ่นยังแข็งแรง
นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์ความคืบหน้าของการช่วยตรวจสุขภาพคนไทยในญี่ปุ่น ว่า เบื้องต้นทีมแพทย์ที่ สธ.ได้ส่งไปประจำที่ญี่ปุ่นนั้นพบว่า คนไทยยังมีสุขภาพที่ดี โดยพบว่ามีอาการเจ็บปวดเล็กน้อยเท่านั้น เช่น เป็นหวัด และถ้าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงคาดว่า ทีม นพ.ไพโรจน์ เครือกาญจนา หัวหน้าทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ รพ.ราชวิถี จะเดินทางกลับมาประเทศไทยราววันที่ 24 มี.ค.นี้ แต่หากมีอะไรเปลี่ยนแปลงก็อาจอยู่ต่อ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังยืนยันไม่ได้ว่าต้องส่งทีมแพทย์ไปเพิ่มหรือไม่ เรื่องนี้ต้องปรึกษาโยตรงกับกระทรวงต่างประเทศ
**เฝ้าระวังอาหารนำเข้าจากญี่ปุ่น
ส่วนเรื่องการตรวจสอบอาหารซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงขณะนี้ สุ่มตรวจอาหารไปแล้ว 31 ตัวอย่าง เป็นพืช 3 รายการ อาหารทะเล 28 รายการ ทั้งหมดไม่พบกัมมันตภาพรังสีตกค้างแต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตามตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป อย.จะเริ่มตรวจที่ท่าเรือคลองเตยและแหลมฉบังเพราะเรือเริ่มนำอาหารจากญี่ปุ่นเข้ามา ซึ่งมาตรการให้การดูแลสุขภาพคนไทยและการเฝ้าระวังทั้งหมดนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
** “เฉลิมชัย” ชี้ แรงงานในลิเบียปลอดภัย
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.แรงงาน กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีแรงงานไทยในประเทศลิเบียอยู่บ้าง ซึ่งเป็นความประสงค์ของแรงงานเอง ที่เห็นว่ายังไม่เผชิญเหตุจลาจล อย่างไรก็ตามทางเราก็พร้อมจะอพยพแรงงานไทยกลับมาประเทศไทย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของแรงงานไทยเป็นสำคัญ