ASTVผู้จัดการรายวัน- พนักงานบริษัท outsource เก็บค่าจอดรถสุวรรณภูมิร้องศาลแรงงานถูกไล่ออกไม่เป็นธรรม แฉกลายเป็นแพะสังเวยรายได้ค่าจอดรถสุวรรณภูมิหาย ด้าน”สุพจน์”เตรียมลงพื้นที่สัปดาห์หน้า ควานหาข้อเท็จจริงปัญหาซ้ำซาก ทั้งกรณีรายได้ค่าจอดรถ,รถเข็นกระเป๋าหาย
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้า ตนและคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคมนาคม เตรียมที่จะเดินทางไปท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อตรวจสอบการให้บริการและการอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสาร โดยเฉพาะการให้บริการรถเข็นกระเป๋าที่ต้องมีการตรวจสอบว่า มีการสูญหายหรือมีจำนวนที่ครบถ้วนตามสัญญาที่ 9,034 คัน หรือไม่ รวมทั้งจะตรวจสอบการให้บริการอาคารและลานจอดรถด้วย หลังจากที่ พบว่ารายได้จากการจัดเก็บค่าบริการลดลงเป็นอย่างมาก รวมถึงการให้บริการของด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ที่ก่อนหน้านี้มีปัญหาร้องเรียนว่าขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองมีความล่าช้ามาก
“ในส่วนของรถเข็นกระเป๋านั้น จากที่มีการจัดหาใหม่ได้มีการติดระบบ RFID ไว้ที่รถเข็นทุกคัน เพื่อระบุตำแหน่ง ดังนั้นหากมีการสูญหายก็สามารถตรวจสอบได้ว่ารถอยู่ตรงจุดไหน ส่วนรายได้ค่าจอดรถนั้น ผมจะได้รับรายงานทุกวัน ซึ่งระยะหลังช่วงเดือนก.พ. 2554 พบว่ารายได้ลดลงจากที่เคยเก็บได้วันละ 7-8 แสนบาท เหลือวันละ 5-6 และเท่านั้น”นายสุพจน์กล่าว
พนักงานเก็บค่าจอดรถร้องศาลแรงงานถูกไล่ออกไม่เป็นธรรม
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2554 ได้มีพนักงานของบริษัท MDCC จำนวน 7 คน ได้ยื่นร้องต่อศาลแรงงานจังหวัด สมุทรปราการ ว่าถูกเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม โดยระบุว่า เป็นพนักงานของบริษัท MDCC ซึ่งเป็นบริษัทที่รับจ้างรูปแบบ Outsource จากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท.ดำเนินการจัดเก็บค่าจอดรถบริเวณอาคารและลานจอดรถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ภายหลังเลิกสัญญาสัมปทานกับบริษัท ปาร์คกิ้ง แมเนจเม้นท์ จำกัด โดยเข้าทำงานตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 2553 เป็นต้นมา ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 4-6 มี.ค. 2554 ถูกนายจ้างคือ บริษัท MDCC แจ้งพักงานหลังครบกำหนด ได้สอบถามเพื่อกลับเข้ามาทำงาน แต่กลับถูกให้ออก โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าและไม่มีการสอบสวนความผิดก่อน
นางจันจิรา ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา หนึ่งในพนักงานที่ถูกให้ออก กล่าวว่า ตนมีตำแหน่งเป็นซุปเปอร์ไวเซอร์ดูแลพนักงานเก็บค่าจอดรถซึ่งนั่งประจำตู้ ทำงานตั้งแต่บริษัทปาร์คกิ้งเป็นผู้รับสัมปทานต่อมาเมื่อสัญญาปาร์คกิ้งมีปัญหา ทอท.เข้าดำเนินการเอง จึงจ้างบริษัท MDCC เข้ามาเก็บเงิน ตนและกลุ่มพนักงานเก่าก็ได้รับการว่าจ้างให้ทำงานต่อโดยช่วงเดือนก.พ.มีกระแสข่าวว่า รายได้จากค่าจอดรถลดลงโดยหาสาเหตุไม่ได้ และเห็นว่าการที่บริษัทไล่พนักงานออกครั้งนี้เนื่องจากต้องการหาแพะเพื่อโยนความผิดให้พนักงาน
“เงินรายได้ค่าจอดรถที่ขาดหายไปเป็นเรื่องหลัก และบริษัท MDCC ก็ต้องสร้างผลงานให้ทอท.เห็นว่า จัดการหาแพะได้แล้ว ซึ่งมีพนักงานถูกให้ออกโดยไม่แจ้งล่วงหน้าประมาณ 16 คน และส่วนใหญ่ไม่ได้รับเงินเดือนช่วงที่ทำงานตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.-3 มี.ค. 54 หลายคนเดือดร้อนมากต้องรีบหางานใหม่บางคนต้องกลับบ้านต่างจังหวัด เพราะทำงานฟรีมาเป็นเดือน”นางจันจิรากล่าว
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้า ตนและคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคมนาคม เตรียมที่จะเดินทางไปท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อตรวจสอบการให้บริการและการอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสาร โดยเฉพาะการให้บริการรถเข็นกระเป๋าที่ต้องมีการตรวจสอบว่า มีการสูญหายหรือมีจำนวนที่ครบถ้วนตามสัญญาที่ 9,034 คัน หรือไม่ รวมทั้งจะตรวจสอบการให้บริการอาคารและลานจอดรถด้วย หลังจากที่ พบว่ารายได้จากการจัดเก็บค่าบริการลดลงเป็นอย่างมาก รวมถึงการให้บริการของด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ที่ก่อนหน้านี้มีปัญหาร้องเรียนว่าขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองมีความล่าช้ามาก
“ในส่วนของรถเข็นกระเป๋านั้น จากที่มีการจัดหาใหม่ได้มีการติดระบบ RFID ไว้ที่รถเข็นทุกคัน เพื่อระบุตำแหน่ง ดังนั้นหากมีการสูญหายก็สามารถตรวจสอบได้ว่ารถอยู่ตรงจุดไหน ส่วนรายได้ค่าจอดรถนั้น ผมจะได้รับรายงานทุกวัน ซึ่งระยะหลังช่วงเดือนก.พ. 2554 พบว่ารายได้ลดลงจากที่เคยเก็บได้วันละ 7-8 แสนบาท เหลือวันละ 5-6 และเท่านั้น”นายสุพจน์กล่าว
พนักงานเก็บค่าจอดรถร้องศาลแรงงานถูกไล่ออกไม่เป็นธรรม
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2554 ได้มีพนักงานของบริษัท MDCC จำนวน 7 คน ได้ยื่นร้องต่อศาลแรงงานจังหวัด สมุทรปราการ ว่าถูกเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม โดยระบุว่า เป็นพนักงานของบริษัท MDCC ซึ่งเป็นบริษัทที่รับจ้างรูปแบบ Outsource จากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท.ดำเนินการจัดเก็บค่าจอดรถบริเวณอาคารและลานจอดรถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ภายหลังเลิกสัญญาสัมปทานกับบริษัท ปาร์คกิ้ง แมเนจเม้นท์ จำกัด โดยเข้าทำงานตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 2553 เป็นต้นมา ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 4-6 มี.ค. 2554 ถูกนายจ้างคือ บริษัท MDCC แจ้งพักงานหลังครบกำหนด ได้สอบถามเพื่อกลับเข้ามาทำงาน แต่กลับถูกให้ออก โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าและไม่มีการสอบสวนความผิดก่อน
นางจันจิรา ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา หนึ่งในพนักงานที่ถูกให้ออก กล่าวว่า ตนมีตำแหน่งเป็นซุปเปอร์ไวเซอร์ดูแลพนักงานเก็บค่าจอดรถซึ่งนั่งประจำตู้ ทำงานตั้งแต่บริษัทปาร์คกิ้งเป็นผู้รับสัมปทานต่อมาเมื่อสัญญาปาร์คกิ้งมีปัญหา ทอท.เข้าดำเนินการเอง จึงจ้างบริษัท MDCC เข้ามาเก็บเงิน ตนและกลุ่มพนักงานเก่าก็ได้รับการว่าจ้างให้ทำงานต่อโดยช่วงเดือนก.พ.มีกระแสข่าวว่า รายได้จากค่าจอดรถลดลงโดยหาสาเหตุไม่ได้ และเห็นว่าการที่บริษัทไล่พนักงานออกครั้งนี้เนื่องจากต้องการหาแพะเพื่อโยนความผิดให้พนักงาน
“เงินรายได้ค่าจอดรถที่ขาดหายไปเป็นเรื่องหลัก และบริษัท MDCC ก็ต้องสร้างผลงานให้ทอท.เห็นว่า จัดการหาแพะได้แล้ว ซึ่งมีพนักงานถูกให้ออกโดยไม่แจ้งล่วงหน้าประมาณ 16 คน และส่วนใหญ่ไม่ได้รับเงินเดือนช่วงที่ทำงานตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.-3 มี.ค. 54 หลายคนเดือดร้อนมากต้องรีบหางานใหม่บางคนต้องกลับบ้านต่างจังหวัด เพราะทำงานฟรีมาเป็นเดือน”นางจันจิรากล่าว
