อาถรรพ์สนามบินสุวรรณภูมิ! ปมขัดแย้งลานจอดป่วนอีกรอบ “ปาร์คกิ้ง” เปิดเกมรุกรอบใหม่ นำหมายศาลแพ่งรัชดา แปะขอพื้นที่คืน หลังศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว “ซาเล้ง” สั่งขวางห้ามเข้าพื้นที่ พร้อมสั่ง ทอท.ยื่นคัดค้านต่อศาลแพ่ง วันนี้ แล้วให้รอคำตัดสิน “ธนกฤต” โวยถูก ทอท.ขัดขวาง
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วานนี้ (18 ม.ค.) ตนเองได้รับรายงานจาก นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.โดยบอกว่า นายธนกฤต เจตกิตติโชค กรรมการบริษัท ปาร์คกิ้ง แมเนจเม้นท์ จำกัด พร้อมทนายความและคนอีกจำนวนหนึ่งประมาณ 30 คน ได้ติดต่อขอเข้าพื้นที่ด่านเก็บค่าจอดรถภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยอ้างคำสั่งศาลแพ่งว่าให้ความคุ้มครองชั่วคราว
ทั้งนี้ ทอท.ได้ขอเจรจาและมีการขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลพื้นที่ และไม่ยินยอมให้กลุ่มคนดังกล่าวเข้าพื้นที่ โดยขอให้ ทอท.ได้ยื่นคัดค้านต่อศาลแพ่งในวันที่ 19 มกราคม 2554 (วันนี้) เสียก่อน และหากผลการตัดสินเป็นมาอย่างไร ก็พร้อมจะดำเนินการ
นอกจากนี้ ทอท.ได้หารือกับสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการยื่นคัดค้านต่อศาลแพ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ ศาลแพ่งได้เคยมีคำวินิจฉัยไม่รับพิจารณาในคดีดังกล่าว เพราะอยู่ในอำนาจของศาลปกครอง หลังจากนั้น ปาร์คกิ้ง ก็ได้ยื่นขอคุ้มครองต่อศาลปกครอง แต่ศาลปกครองยกคำร้อง และล่าสุด กลับมีคำสั่งศาลแพ่งออกให้ความคุ้มครอง ซึ่ง ทอท.เห็นว่า เป็นการยื่นคำร้องฝ่ายเดียว จึงจำเป็นจะต้องยื่นคัดค้าน
“ผมได้กำชับให้ ทอท.ดูแลรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่ และขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาควบคุมดูแลพื้นที่ ซึ่ง ทอท.ยังไม่ได้ให้ ปาร์คกิ้ง เข้ามาในพื้นที่จนกว่าจะมีคำสั่งศาลตามที่ ทอท.จะไปยื่นคัดค้านในวันนี้ โดยเหตุการณ์นี้ทุกอย่างเป็นไปอย่างเรียบร้อย ไม่เกิดความรุนแรงใดๆ ทั้งสิ้น”
รายงานเพิ่มเติมระบุว่า ศาลแพ่งได้พิจารณาคำพิพากษากรณีที่บริษัท ปาร์คกิ้ง ขอคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้สามารถเข้าไปทำงานในพื้นที่อาคารและลานจอดรถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยศาลเห็นว่า บริษัท ปาร์คกิ้ง ได้รับสิทธิ์ให้เข้าไปบริหารจัดการอาคารและลานจอดรถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.โดยได้ทำการติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ และระบบจัดเก็บเงินมูลค่า 30 ล้านบาท และจัดเก็บค่าบริการมาระยะหนึ่งแล้ว
ดังนั้น การที่ ทอท.และบริวาร ซึ่งไม่มีประสบการณ์ในงานดังกล่าว ได้เข้าไปขับไล่พนักงานบริษัท ปาร์คกิ้ง และทำการจัดเก็บค่าบริการเอง จึงส่งผลให้ระบบคอมพิวเตอร์ และบริษัท ปาร์คกิ้ง เกิดความเสียหาย ศาลจึงเห็นให้สมควรและพิจารณาคุ้มครองชั่วคราวบริษัท ปาร์คกิ้ง ก่อนมีคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งตามมาตรา 254(2) โดยมีคำสั่งให้บริษัท ปาร์คกิ้ง เข้าไปบริหารอาคารและลานจอดรถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
ทั้งนี้ เมื่อนำคำสั่งไปติดประกาศ พบว่า เจ้าหน้าที่ ทอท.ทุกระดับขัดขวางการเข้าพื้นที่ตามคำสั่งศาล และขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงานตามคำสั่งศาล และปฏิบัติเหมือนการซื้อเวลาในการเจรจาร่วมกันระหว่างบริษัท ปาร์คกิ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้แทน ทอท.โดยส่งเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจเข้าประชุม ทำให้ตนขอให้ยุติการเจรจาเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.ส่วนพนักงานบริษัท ปาร์คกิ้ง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ คงตรึงกำลังกับเจ้าหน้าที่ ทอท.อยู่
“เข้าใจว่า ทอท.ต้องการยื้อไม่ให้บริษัท ปาร์คกิ้ง เข้าพื้นที่ เพื่อที่จะมีเวลาไปอุทธรณ์ต่อศาล ซึ่ง ทอท.น่าจะเข้าใจว่า กว่าศาลจะพิจารณาให้ความคุ้มครองต้องผ่านการพิจารณารอบคอบแล้ว โดยตนได้นำข้อมูลการประชุมคณะกรรมการ ทอท.ที่ผ่านมา ไปยื่นต่อศาลส่ งผลให้ศาลให้ความคุ้มครองในที่สุด และหากเปรียบเทียบเหตุการณ์ที่ผ่านมา ที่ชายชุดดำเข้าพื้นที่ได้ง่ายมากนั้น แสดงว่า ทอท.น่าจะมีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่ เพราะการเข้าพื้นที่ครั้งนี้มีคำสั่งศาล ทอท.ยังขัดขวางไม่ให้เข้าพื้นที่ได้”
นายธนกฤต เจตกิตติโชค กรรมการ ปาร์คกิ้ง กล่าวยอมรับว่า เมื่อวานนี้ ตนเองพร้อมพนักงานและเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 50-60 คน ได้นำคำสั่งศาลไปติดประกาศบริเวณลานจอดรถหน้าอาคารผู้โดยสารท่าอากาศสุวรรณภูมิ สรุปใจความสำคัญว่า ตามที่ บ.ปาร์คกิ้ง ยื่นขอความคุ้มครองชั่วคราวนั้น ศาลได้ให้ความคุ้มครองและให้บริษัท ปาร์คกิ้ง เข้าไปดำเนินการบริหารจัดการจัดเก็บค่าจอดรถบริเวณลานจอดรถหน้าอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยทอท.ห้ามขัดขวางการเข้าไปบริหารจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ เมื่อนำคำสั่งไปติดประกาศ พบว่า เจ้าหน้าที่ ทอท.ทุกระดับขัดขวางการเข้าพื้นที่ตามคำสั่งศาล และขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงานตามคำสั่งศาล และปฏิบัติเหมือนการซื้อเวลาในการเจรจาร่วมกันระหว่าง ปาร์คกิ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้แทน ทอท.โดยส่งเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจเข้าประชุม ทำให้ตนขอให้ยุติการเจรจาเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.ส่วนพนักงานของปาร์คกิ้ง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ คงตรึงกำลังกับเจ้าหน้าที่ทอท.อยู่ และกว่าจะแยกย้ายกันกลับทั้งหมดก็เป็นเวลาเกือบ 20.00 น.
นายธนกฤต กล่าวเสริมว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เข้าใจว่า ทอท.ต้องการยื้อไม่ให้ปาร์คกิ้ง เข้าพื้นที่ เพื่อที่จะมีเวลาไปอุทธรณ์ต่อศาล ซึ่งที่จริงแล้ว ทอท.น่าจะเข้าใจว่า กว่าศาลจะพิจารณาให้ความคุ้มครองต้องผ่านการพิจารณารอบคอบแล้ว โดยตนได้นำข้อมูลการประชุมคณะกรรมการ ทอท.ที่ผ่านมา ไปยื่นต่อศาลส่งผลให้ศาลให้ความคุ้มครองในที่สุด และหากเปรียบเทียบเหตุการณ์ที่ผ่านมาที่ชายชุดดำเข้าพื้นที่ได้ง่ายมากนั้น แสดงว่า ทอท.น่าจะมีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่ เพราะการเข้าพื้นที่ครั้งนี้มีคำสั่งศาล ทอท.ยังขัดขวางไม่ให้เข้าพื้นที่ได้