xs
xsm
sm
md
lg

ถล่ม“มาร์ค”หนี้สาธารณะตรึม! “แม้ว”ทวิต“น้องยังเด็กเหลือเกิน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(15 มี.ค.)นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าทีมอภิปรายฝ่ายค้าน อภิปรายตอนหนึ่ง ประเด็น “ล้มเหลวเรื่องการบริหารการเงินการคลัง” ว่า รัฐบาลอภิสิทธิ์ ล้มเหลวเรื่องการบริหารการเงินการคลัง เพราะทำให้เกิดหนี้สาธารณะสูงที่สุดในประวัติการ โดยเฉพาะการตั้งงบ 2.07 ล้านบาทในปีงบประมาณล่าสุดที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ เพราะรัฐบาลฟุ่มเฟือย โดยมีงบลงทุนเพียง 16% เพียง 3.4 แสนบาท สร้างเศรษฐกิจให้เติบโตไม่ได้
ทั้งนี้เพราะทุกรัฐบาลที่ผ่านมา 27 คนของในประเทศไทยก่อหนี้ไว้ 8.6 แสนล้านบาท แต่นายกฯอภิสิทธิ์ กู้และก่อหนี้ 1.4 ล้านล้านบาท สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย นายกฯจะใช้หนี้อย่างไร เพราะมีแต่การกู้และการทุจริตเท่านั้น นอกจากนี้รัฐบาลยังสร้างหนี้นอกระบบ โดยผ่านโครงการไทยเข้มแข็ง และตอนนี้ดอกเบี้ยทะลุ 2 แสนล้านบาทแล้ว ดังนั้นนายกฯไม่เหมาะกับตำแหน่งนี้อีกต่อไปแล้ว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยืนยันว่า การกู้เงินที่ผ่านมา ได้นำเงินมาฟื้นฟูเศรษฐกิจจนสภาพเศรษฐกิจดีขึ้น มีความมั่นคงทางการเงินการคลัง เป็นแนวทางที่ถูกต้อง โดยดูได้จากหนี่้สาธารณะ ต่อจีดีพี ขณะนี้ อยู่ที่ร้อยละ 41.50 ซึ่งดีกว่าเมื่อปี 2549 หลังการบริหารของ อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมีสัดส่วนหนี้สาธารณะอยู่ที่ร้อยละ42.75 และพร้อมรับผิดชอบตัวเลขเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในขณะนี้ และขอยืนยัน จะเดินหน้าบริหารเศรษฐกิจต่อไป
ขณะที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ทวิตผ่านทวิตเตอร์ “ThaksinLive” ว่าได้ฟังคุณอภิสิทธิ์ฯตอบคุณมิ่งขวัญฯในสภาฯแล้วรู้สึกว่า น้องยังเด็กเหลือเกิน นักการเมืองที่ดีต้องพูดความจริงต่อประชาชนครับประชาชนเป็นผู้ตัดสิน คุณอภิสิทธิ์ฯบอกว่าหนี้สาธารณะสมัยผม 42.75% สมัยอภิสิทธิ์ฯ 41.94%ของจีดีพี
ข้อเท็จจริงจากสำนักหนี้ฯ 31ธ.ค.49หนี้สาธารณะ 40.48%ครับและสมัยก่อน จีดีพีเล็กกว่าปัจจุบันเยอะคิดเป็นตัวเลขแล้วหนี้ปัจจุบันจำนวนตรงๆมากกว่าเยอะ ยิ่งไปกว่านั้นสมัยผมรับหนี้มาจากรัฐบาลประชาธิปัตย์๒ก้อนใหญ่ๆคือ 1.หนี้กองทุนฟื้นฟูที่เกิดจากการขายทรัพย์ที่เอามาจากสถาบันการเงินล้มแบบโง่ๆให้กับโกลแมนแซค,เลย์แมนบราเตอร์และจีอีแคปปิตอลได้ราคาไม่ถึง 20%ของ ต้นทุนทรัพย์สินแถมยังช่วยไม่ให้ฝรั่งเสียภาษีมูลค่าเพิ่มอีกต่างหาก ก้อนนี้เข้าใจว่าประมาณร่วม 700,000ล้านบาท 2.คือหนี้ที่กู้มาจากมิยาซาว่า เอดีบี เวิร์ลแบ้งค์ และไอเอ็มเอฟ อีกประมาณ 600,00กว่าล้านบาท ซึ่งหนี้ไอเอ็มเอฟ ประมาณ 400,000ล้านบาทสมัยผมก็ใช้หนี้ไปหมดแล้ว
สรุปคือว่า ตอนผมมาเป็นรัฐบาลรับหนี้สาธารณะมาในขีดอันตรายคือเกือบ 60%ของจีดีพีแต่อยู่ไปก็ทำให้หนี้ลดลงจนอยู่ในเขตที่ปลอดภัย ต่อมาเมื่อจีดีพีสูงขึ้น สัดส่วนของหนี้ต่อจีดีพีก็ลดลง รัฐบาลอภิสิทธิ์เข้ามาจึงถือโอกาสกู้เงินเพื่อหวังผลทางการเมืองและคอรัปชั่นจึงทำให้หนี้สูงขึ้นเป็นลำดับโดยหวัง เศรษฐกิจจะดีขึ้นจัดเก็บภาษีได้มากขึ้นหนี้ก็จะลดเอง แต่การกู้เงินมาแล้วไม่ช่วยให้เศรษฐกิจในประเทศดีขึ้นประชาชนเดือดร้อนในที่สุดหนี้ต่อจีดีพี ก็จะสูงขึ้นแต่ยังโชคดีที่ส่งออกโดยเฉพาะหมวดรถยนตร์ดีโดยความสามารถของเอกชนเลยทำให้สัดส่วนหนี้ต่อจีดีพีสูงขึ้นช้าหน่อย สรุปขอแนะนำว่าให้ยอมรับ และบอกว่าจะให้ความสนใจเศรษฐกิจในประเทศมากขึ้นจะใช้เงินที่กู้มาให้เกิดประโยชน์กว่านี้ จะปล่อยให็โกงน้อยลง จะไม่ให้เกิดการกักตุนสินค้าและตามมาด้วยการขึ้นราคาแบบนี้อีก ผมว่าดูจะเป็นผู้ใหญ่กว่า ได้รับความเห็นใจกว่า บอกประชาชนไปเลยครับว่าผมกำลังเรียนรู้งานอยู่ อีกหน่อยผมก็เก่งเองครับ.
กำลังโหลดความคิดเห็น