"ศูนย์วิจัยกสิกรฯ" คาด ธปท.ช่วยชะลอการแข็งค่าเงินบาทบางส่วน เชื่อแนวโน้มสัปดาห์หน้าเงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 30.55-30.90 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อมแนะจับตาการประกาศตัวเลขจีดีพี ไตรมาส 4/2554 และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
วันนี้ (19 ก.พ.) ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานการซื้อขายค่าเงินตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นยังค่อนข้างนิ่ง โดยมีการตัดจ่ายเงินภาษีมูลค่าเพิ่มรายเดือนผ่านระบบธนาคารในระหว่างสัปดาห์ ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงก์ประเภทกู้ยืมข้ามคืน (Overnight) หนาแน่นทั้งสัปดาห์ที่ 2.12%ไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อน ส่วนอัตราผลตอบแทนถัวเฉลี่ยที่ประมูลได้ของธุรกรรมซื้อคืนพันธบัตรแบบทวิภาคี(Bilateral Repo) ระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือน ปรับตัวในกรอบ 2.24426-2.25% เทียบกับ 2.24237-2.25% ในสัปดาห์ก่อน
ส่วนระหว่างวันที่ 21-25 ก.พ.นี้ ธนาคารพาณิชย์จะปิดสำรองสภาพคล่องรายปักษ์ในวันอังคารและเข้าสู่ปักษ์ใหม่ในวันพุธ นอกจากนี้จะมีการเตรียมสภาพคล่องเพื่อรองรับการเบิกถอนเงินสดของลูกค้าในช่วงสิ้นเดือน ทั้งนี้ท่ามกลางปริมาณสภาพคล่องที่ยังมีอยู่มากทำให้คาดว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในตลาดเงินน่าจะยังทรงตัวต่อเนื่องใกล้ระดับ 2.25%
ทั้งนี้ เงินบาทแข็งค่าขึ้นตามแรงซื้อสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ อย่างไรก็ดีแรงซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าเป็นการเข้าดูแลเสถียรภาพค่าเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะช่วยชะลอการแข็งค่าของเงินบาทไว้บางส่วน โดยแนวโน้มสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 21-25 กุมภาพันธ์ เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 30.55-30.90 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยยังคงต้องจับตาการประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2554 และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯประกอบด้วย