xs
xsm
sm
md
lg

ซักฟอกรัฐบาล : “มวยปล้ำการเมือง!”

เผยแพร่:   โดย: แสงแดด

ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลหรือ “ซักฟอกรัฐบาล” ได้เริ่มเปิดฉากมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ 15 มีนาคม 2554 เรียบร้อยแล้ว ท่านผู้อ่านคงได้ติดตามกันบ้าง ถึงเนื้อหาสาระว่า “การซักฟอก” ดุเด็ดเผ็ดมันมากน้อยเพียงใด ข้อมูลจะถึงกึ๋นหรือไม่นั้น ท่านผู้อ่านได้โปรดใช้วิจารณญาณกันเอง

การซักฟอกรัฐบาลนั้น เหมือนทุกครั้งไป ที่น่าจะมีข้อมูลพื้นฐานความจริงบ้างไม่มากก็น้อย เพียงแต่ว่าจะเอาจริงกันขนาดไหนในการดำเนินการทาง “กระบวนการยุติธรรม” ถ้ามี “ข้อมูลเด็ด” เกี่ยวกับ “การทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวง”

เพราะสังเกตทีไร การอภิปรายไม่ไว้วางใจก็เข้ารูปรอยเดิม ที่มีแต่ “วิวาทะ-ทะเลาะ” กันในสภาหินอ่อนเท่านั้น ประกอบกับข้อมูล เอกสาร หลักฐาน พร้อมรูปภาพประกอบดูเสมือนจริงอย่างมาก หรือว่าไปแล้ว น่าจะเป็นข้อมูลที่นำมายื่นฟ้องต่อศาลกันได้ แต่ก็ไม่เคยปรากฏเหตุการณ์เช่นนั้น

พูดง่ายๆ คือ “อภิปราย” กันไป จบแล้วจบเลย ไม่มีอะไรเกิดขึ้น และแน่นอน จบที่ฝ่ายรัฐบาลก็ได้คะแนนสอบผ่านกันไปเท่านั้น ไม่มีอะไรใดๆ คืบหน้าทั้งสิ้น จนกลายเป็นเสมือน “ปาหี่การเมือง” กันที่คล้ายๆ กับว่า “ฮั้ว!” กันเรียบร้อยแล้ว

เพียงแต่ว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้นั้น น่าจะมี “ข้อมูลเด็ด” อย่างมาก เนื่องด้วยอีกเพียงไม่น่าจะเกิน 3-4 เดือน นับถอยหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็จะมี “การยุบสภา” และแน่นอน ที่ฝ่ายค้านจะต้องมี “หมัดเด็ด” ในการ “ดิสเครดิต” รัฐบาลให้จงได้ เพื่อหวังผลการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่จะถึงนี้

ถามว่า “การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล” งวดนี้นั้น จะส่งสัญญาณชัดเจนว่าใครจะได้คะแนนนิยมสูงสุดกับการเลือกตั้งทั่วไป โดยเฉพาะ “พรรคประชาธิปัตย์-พรรคเพื่อไทย” และน่าจะตามติดด้วย “พรรคภูมิใจไทย”

เท่าที่ติดตามสถานการณ์บ้านเมืองอย่างละเอียดนั้น แอบได้ยินมาว่า พรรคที่โดนหนักสุด คือ พรรคประชาธิปัตย์ ตามติดด้วย พรรคภูมิใจไทย ส่วนพรรคขนาดกลาง ขนาดเล็กอื่นๆ นั้น ไม่น่าเชื่อว่า “จะโดน!” หรือ “อาจไม่โดน!” เลยก็เป็นได้

อย่างไรก็ตาม “การเมืองก็คือการเมือง” เปรียบเสมือน “ลูกบอลลูกกลมๆ!” ที่พลิกผวนได้ตลอด แต่โดยเนื้อหาสาระแล้ว เราคงต้องไม่พลาดกับการรับฟังข้อมูลเด็ดๆ ของฝ่ายค้าน โดยเฉพาะของ “ลุงเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่น่าจะเผ็ดมันที่สุด ส่วนของคุณมิ่ง “เจ๊มิ่ง” นั้น น่าจะไม่ส่งถึงสวรรค์อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ “การอภิปรายฯ” ในกรณีลีลานั้น “ลุงเหลิม” น่าจะเด็ดสุด เพียงแต่น้ำหนักของข้อมูลจะกดดันรัฐบาลได้มากน้อยเพียงใด ก็ขอฟันธงได้เลยว่า “รัฐบาลชนะ!” อย่างแน่นอน ส่วนของผู้อภิปรายคนอื่นๆ นั้น ฝ่ายค้าน (พรรคเพื่อไทย) ไม่น่าจะมีมากมายนัก เพราะฉะนั้น จึงขอถามว่า “จะอภิปรายอะไรถึง 4 วัน 4 คืน!”

จริงๆ แล้ว ถ้าการอภิปรายเพื่อหวังน็อกเอาต์รัฐบาลนั้น พรรคฝ่ายค้านคงไม่สามารถดำเนินการได้ แต่การดิสเครดิตและสร้าง “คะแนนนิยม” ให้กับพรรคเองนั้น เพื่อหวังผลการเลือกตั้งครั้งที่ใกล้จะถึงนี้ น่าจะเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้ “กระแสสังคม” เกิดข้อฉงนสงสัย การบริหารงานของรัฐบาล ที่มักโดนตลอดว่า “ดีแต่พูด!”

“กระแสการเมือง” ภายในบริบทการเมืองไทยนั้น เราต้องยอมรับความจริงว่า “นักการเมือง” แทบทุกคน ขอย้ำว่า “แทบทุกคน” ล้วนต่างมีประวัติด่างพร้อยทั้งสิ้น ไม่มากก็น้อย และก็ต้องถามต่อว่า จริงๆ แล้ว “นักการเมืองล้วนรู้ไส้กันหมด!” ไม่มีใครไม่รู้ว่า ใครไปทำอะไรที่ไหนกันมา และที่สำคัญคือ “การแย่งชิง” ด้วย “สารพัดลีลา” เท่านั้น “มิได้เอาเป็นเอาตาย” กันหรอก!

คำถามสำคัญต้องถามว่า การซักฟอกรัฐบาลครั้งนี้ น่าจะมีข้อมูลเด็ดๆ เกี่ยวกับ “น้ำมันปาล์ม” และก็ “กรณีภาษีบุหรี่” ที่น่าจะมีข้อมูลที่ลึกลับซับซ้อนกันอย่างมาก ที่น่าเชื่อว่า “เก็บเงินไว้เลือกตั้ง”

ก็ต้องถามต่อว่า “ทำไมเงินจึงเป็นปัจจัยสำคัญกับการเลือกตั้งในเมืองไทย” ก็ต้องตอบว่า “มันเป็นเช่นนี้ล่ะลุงเอ๋ย!” ที่สังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ความยากจน” เป็นปัจจัยหลัก “การศึกษา” เป็นปัจจัยรอง และเกิดขึ้นกับ “สังคมไทยทุกภูมิภาค” ไม่เว้นแม้แต่ กรุงเทพมหานคร

แต่ที่สำคัญมากกว่านั้น คือ “นักการเมืองก็คือนักการเมือง” ที่แน่นอน ขอย้ำว่า “แทบทุกคนล้วนทุจริต” กันทั้งนั้น เพียงแต่ว่า จะสามารถ “ลับ-ลวง-พราง” ได้มากน้อยเพียงใด จนซับซ้อนซ่อนเงื่อนกันเป็นแถว โดยเฉพาะบรรดา “นอมินี” ทั้งหลายที่แอบทำงานอยู่ด้านหลัง และต้องถามว่า แล้ว “พรรคไหนล่ะชำนาญสุด!”

กลับมาที่ “กระแสสังคม” ที่เกิดขึ้นทั้งภายในระบบการเมืองไทย ทั้ง “ภายใน-ภายนอก” ที่ดูเสมือนว่าจะฆ่ากันแบบชนิดตายกันไปข้าง แต่ความเป็นจริงแล้ว “ไม่น่าขนาดนั้น” เพราะนักการเมืองต่างใช้ “ระบบอุปถัมภ์” กันแทบทั้งสิ้น ซึ่งต่าง “อะลุ้มอล่วย” กันแทบทั้งสิ้น เพียงแต่เมื่อก้าวขึ้นสู่ “เวทีการเมือง” ก็ต่าง “ลับเขี้ยวลับงา!” กัน ซึ่งจริงๆ แล้ว น่าจะเป็นเพียง “แลบลิ้นปลิ้นตา” กันทั้งนั้น

เหตุผลสำคัญของ “ระบบการเมืองไทย” คือ “อำนาจการเมืองการบริหาร” ที่มีงบประมาณนับหลายล้านล้านบาท ที่ต่างฝ่ายต่างจ้องถลุงงบประมาณกัน โดย “ฝ่ายรัฐบาล” จะได้มีอำนาจสูงสุดในการบริหารจัดการ ดังนั้น “การแย่งชิงอำนาจการเมือง” จึงเป็นประเด็นสำคัญ

และที่สำคัญคือ “ธุรกิจการเมือง” ที่ “เงินคือพระเจ้า” สามารถเนรมิตบันดาลให้เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงิน โดยที่จริงๆ แล้ว แทบไม่มีใครคิดดีกับการใช้อำนาจการเมืองเพื่อส่วนรวมมากมายนัก หรือกล่าวง่ายๆ ก็หมายความว่า “คิดโปรเจกต์เพื่อส่วนรวม แต่ขอมีส่วนเอี่ยวประโยชน์ส่วนตัวบ้าง!”

ดังนั้น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็เปรียบเสมือนเราดู “นักการเมืองเล่นละคร” ทำทีต่อว่าต่อขาน แต่ลับหลังแล้ว ล้วน “ลับ-ลวง-พราง” แทบทั้งสิ้น และผลก็ปรากฏทุกครั้งว่า “รัฐบาลชนะทุกครั้ง!”

คำถามสุดท้ายที่ว่า “การเลือกตั้ง 2554” นี้ ใครจะได้คะแนนนำ ก็ขอฟันธงได้เลยว่า “อำนาจเงิน-อำนาจบริหาร” อยู่กับ “ฝ่ายรัฐบาล” เกือบทั้งหมด และเมื่อการเลือกตั้งผ่านไป ใครจะได้เป็นรัฐบาลอีก ขอตอบเลยว่า “ประชาธิปัตย์” น่าจะได้คะแนนนำ แต่คงไม่มากนัก

เพราะฉะนั้น “การซักฟอกรัฐบาล” ครั้งนี้ ก็แค่ “การดูมวยปล้ำการเมืองเท่านั้น!”
กำลังโหลดความคิดเห็น