ตร.ได้ฤกษ์เคาะบัญชีตั้งรอง ผบก.-สว.

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมีการพิจารณาแต่งตั้งนายตำรวจระดับรอง ผบก.-สว.โดยจะให้เสร็จสิ้นทุกกองบัญชาการพร้อมกันภายในวันที่ 31 ม.ค.เพื่อให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 ก.พ.ศกนี้

วันนี้ (20 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ได้มีบันทึกข้อความ ที่ 0009.251/0263 ด่วน ที่สุด เรื่องการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจถึง จตช.และรอง ผบ.ตร.หรือผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่า ผู้ช่วย ผบ.ตร.หรือผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่า ผบช.หรือผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่า ผบก.ในสังกัด สง.ผบ.ตร.หรือผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่า

ตามหนังสือ ตร.ด่วนที่สุดที่ 0009.231/5079 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2553 แจ้งแนวทางการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งระดับ สว.ถึงรอง ผบก.วาระประจำปี 2553 โดยให้ทุกหน่วยจัดเตรียมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการแต่งตั้งไว้ให้พร้อม และเมื่อ ตร.มีกำหนดห้วงระยะเวลาการดำเนินการแล้วจะแจ้งให้ดำเนินการแต่งตั้งอีกครั้งหนึ่ง

หนังสือดังกล่าวระบุต่อว่า เพื่อให้การพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ สว.-รอง ผบก.เป็นไปด้วยความเรียบร้อย 1.ให้ บช.หรือ บก.ในสังกัด สง.ผบ.ตร.ดำเนินการจัดส่งบัญชีข้าราชการตำรวจระดับรอง สว.-รอง ผบก.ไปยัง ตร.(ผ่าน ทพ.) ภายใน 23 ม.ค.2554 ประกอบด้วย บัญชีข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น (บัญชีสรรหา) และผู้ไม่เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น (ถ้ามี) บัญชีเสนอแต่งตั้งข้าราชการตำรวจที่อยู่ในอำนาจของ ผบ.ตร.(กรณีเลื่อนตำแหน่ง สูงขึ้น และสับเปลี่ยนหมุนเวียนข้ามหน่วย)และข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบ การพิจารณา บัญชีแต่งตั้งข้าราชการตำรวจภายในอำนาจของ ผบช.หรือ ผบก.(กรณีสับเปลี่ยนหมุนเวียนระดับ ผกก.ลงมาภายใน บช.หรือ บก.)

2.บช.ที่มิได้สังกัด สง.ผบ.ตร.ให้ดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ สว.ถึงรอง ผบก.ให้เสร็จสิ้น และมีคำสั่งแต่งตั้งพร้อมกันทุกหน่วยใน 31 ม.ค.2554 โดยให้คำสั่งมีผลบังคับใช้พร้อมกันในวันที่ 10 ก.พ.2554

3.การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจที่ดำรงตำแหน่งครั้งสุดท้ายไม่ครบ 2 ปี สับเปลี่ยนหมุนเวียนในตำแหน่งเท่าเดิม ให้ผู้มีอำนาจดำเนินการเฉพาะกรณีที่มีเหตุผลความจำเป็นอย่างยิ่ง และมีข้อมูล หลักฐานที่ชัดเจนสามารถตรวจสอบได้เท่านั้น โดยให้จัดำบัญชีสรุปรายชื่อข้าราชการตำรวจที่เสนอรับความเห็นชอบ เสนอไปยัง ตร.(ผ่าน ทพ.) ภายใน 22 ม.ค.2554 และให้แต่ละหน่วยรวบรวมบัญชีรายชื่อข้าราชการตำรวจในสังกัดเสนอไปยัง ตร.ในคราวเดียวกัน

4.ผู้ที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าสถานีตำรวจระดับ ผกก.ตำแหน่งเดียวกันติดต่อกันเป็นระยะเวลา 4 ปี หากมีเหตุผลความความจำเป็นที่จะต้องให้ดำรงตำแหน่งปัจจุบันต่อไป ให้เสนอเหตุผลความจำเป็นไปยัง ตร.(ผ่าน ทพ.) ภายใน 22 ม.ค.2554 และให้แต่ละหน่วยเป็นผู้รวบรวมรายชื่อข้าราชการตำรวจเสนอไปยัง ตร.ในคราวเดียวกัน

5.เมื่อมีคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการตำรวจแล้ว ให้แต่ละหน่วยรับผิดชอบตรวจสอบความถูกต้องและรวบรวมสำเนาคำสั่งแต่งตั้งภาย ในอำนาจ ผบช.และ ผบก.แล้วจัดส่งไปยัง ตร.(ผ่าน ทพ.) พร้อมทั้งสรุปจำนวนคำสั่งที่แต่งตั้ง รายชื่อข้าราชการตำรวจที่แต่งตั้งดำรงตำแหน่งระหว่างหน่วย และการดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้องส่งทางโทรสารหมายเลข 02-205-2453 02-2528760 หรือ อีเมล POL_TP@hotmail.com โดยด่วนภายใน 1 ก.พ.2554

6.กำหนดระยะเวลาต่างๆ ให้ทุกหน่วยปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ข้าราชการตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งไปดำรงตำแหน่งอื่น เมื่อได้รับทราบคำสั่งแต่งตั้งแล้ว ก่อนเดินทางไปรับตำแหน่งใหม่ ให้ดำเนินการส่งมอบหน้าที่ตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ขณะที่ พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ผู้ได้รับเลือกเป็น ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าวว่า ตอนนี้ก.ตร.ชุดใหม่ที่จะมาทำงานมีเสียงข้างมากไม่ต้องกลัวการเมืองฝาก ผู้ที่มีอำนาจในการแต่งตั้งครั้งนี้ โดยเฉพาะผู้บัญชาการ และรอง ผบช.ซึ่งเป็นคณะกรรมการกลั่นกรองให้ดำเนินการแต่งตั้งโดยใช้ความถูกต้องยุติธรรมมากกว่าระบบอุปถัมภ์ หรือพวกพ้อง ยึดคุณธรรมสัก 80 เปอร์เซ็นต์ อุปถ้มภ์สัก 20 เปอร์เซ็นต์ พอรับได้ อย่าให้มากไป ให้น้ำหนักอุปถัมภ์มากกว่า ขอร้องอย่าทำตามใบสั่งการเมือง มิเช่นนั้น ตนเองจะเสนอ ก.ตร.ให้ตรวจสอบอย่างเข้มข้นและมองว่า ผบช.และรอง ผบช.เหล่านี้ไม่เหมาะที่จะเป็นที่พึ่งของประชาชนและข้าราชการตำรวจแล้วก็จะใช้อำนาจ ก.ตร.ในการลงโทษปรับเปลี่ยนเอาคนที่เหมาะสมกว่าไปแทน