xs
xsm
sm
md
lg

รถติดLPGคึกหนีเบนซินพุ่ง จี้รัฐขึ้นภาษีป้ายฯ-ลอยตัวราคา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- ราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินแพงดันคนใช้รถหนีติดตั้งใช้แอลพีจีคึกคัก หนุนปั๊มผุดเป็นดอกเห็ดเหตุกำไรงาม สมาคมผู้ค้าแอลพีจีผวาใช้ก้าวกระโดดหวั่นซ้ำรอยนำเข้าแอลพีจีไม่พอซ้ำรอยขาดแคลนปี’51 จี้ขึ้นภาษีป้ายวงกลมสกัด หรือปรับโครงสร้างราคาลอยตัวทั้งกระดาน

นายชิษณุพงศ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลพีจี) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินปรับตัวอยู่ในระดับสูงเฉลี่ยเกือบลิตรละ 40 บาทนั้นได้ส่งผลให้ปริมาณรถยนต์หันมาติดตั้งการใช้แอลพีจีเพิ่มขึ้นมากและมีผลต่อเนื่องไปยังการเกิดขึ้นของปั๊มแอลพีจีในต่างจังหวัดที่ยังคงเพิ่มขึ้นซึ่งสิ่งเหล่านี้รัฐบาลจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดหากปริมาณการใช้ก้าวกระโดดอาจเกิดปัญหาซ้ำรอยแอลพีจีนำเข้าไม่พอเพียงและนำไปสู่การขาดแคลนในบางพื้นที่เช่นที่เคยเกิดขึ้นในปี 2551 มาแล้ว

“ ราคาแอลพีจีขณะนี้เพียงลิตรละ 11.30 บาทต่อลิตรราคาห่างกันเกือบสองเท่าตัวกับน้ำมันเบนซิน การติดตั้งก็ต่ำกว่าหากเทียบกับก๊าซธรรมชาติในรถยนต์หรือเอ็นจีวี จำนวนปั๊มก็เยอะ ที่สำคัญปั๊มแอลพีจีคืนทุนเร็วเพราะลงทุนไม่รวมที่ดินเพียง 5-6 ล้านบาทแต่ปั๊มน้ำมันต้องลงทุน 20-30 ล้านบาท ปั๊มเอ็นจีวี 30-40 ล้านบาท”นายชิษณุพงศ์กล่าว

ทั้งนี้หากราคาน้ำมันโลกยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องรัฐบาลควรจะต้องทบทวนมาตรการแล้วเช่นการขึ้นภาษีป้ายวงกลมสำหรับรถที่ใช้แอลพีจีหากไม่สามารถปรับราคาขายได้ และหลังจากนั้นควรกำหนดการปรับโครงสร้างราคาแอลพีจีให้สะท้อนกลไกตลาดโลกอย่างชัดเจนโดยปรับขึ้นทุกส่วนไม่ควรแยกเป็น 2ราคาเช่นปัจจุบันที่รัฐบาลประกาศจะขึ้นราคาเฉพาะก๊าซภาคอุตสาหกรรมแต่ขณะนี้ก็ยังไม่มีข้อสรุป เนื่องจากการแยกราคาจะส่งผลต่อการลักลอบซึ่งควบคุมได้ยาก

นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมันและอดีตผู้บริหารบมจ.บางจากปิโตรเลียม กล่าวว่า ราคาน้ำมันเบนซินที่สูงมากเป็นแรงจูงใจให้ผู้ใช้รถยนต์หันไปติดตั้งแอลพีจีเพิ่มขึ้นซึ่งหากมีปริมาณที่มากขึ้นต่อเนื่องโอกาสที่รัฐบาลจะขึ้นราคาแอลพีจีภาคขนส่งก็คงจะไม่ง่ายนักเช่นกรณีที่เกิดขึ้นกับนโยบายการขึ้นแอลพีจีภาคอุตสาหกรรมของรัฐบาลปัจจุบันที่ล่าสุดภาคอุตสาหกรรมก็ออกมาต่อต้านจนยังไม่ชัดเจนว่าท้ายสุดจะเป็นอย่างไร

สำหรับราคาน้ำมันตลาดโลกปิดตลาดวันที่ 9 มี.ค.54 ภาพรวมราคาปรับลดลงยกเว้นน้ำมันดิบเบรนท์ที่ขึ้น 2.88 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลปิดที่ 115.94 เหรียญฯต่อบาร์เรลหลังท่อน้ำมันและโรงกลั่นที่ลิเบียเสียหายจากการปะทะกัน ดังนั้นราคาน้ำมันตลาดโลกยังผันผวนตามเหตุการณ์ในตะวันออกกลางจึงคาดเดาได้ยากว่าทิศทางราคาน้ำมันจะเป็นขาขึ้นหรือขาลงโดยคงต้องติดตามอีก 1-2 วัน

นายศิริศักดิ์ วิทยอุดม รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.) กล่าวว่า ธพ.ได้มอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอนุญาตการลงทุนปั๊มแอลพีจีในต่างจังหวัดได้ทันทีแต่ขอให้รายงานผลเข้ามายังส่วนกลางซึ่งเดือนม.ค.54 มีจำนวนปั๊มแอลพีจี 988 แห่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีเพียง 665 แห่งและยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกแต่เริ่มมีอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวลงเล็กน้อยซึ่งคาดว่าปริมาณปั๊มสูงขึ้นมากแล้วอาจเสี่ยงต่อการลงทุนเพราะการแข่งขันเริ่มสูง

“ การนำเข้าแอลพีจีปี 2554 เฉลี่ยคาดว่าจะอยู่ที่เดือนละ 1 แสนตันหรือรวมทั้งปีจะอยู่ที่ 1.2 ล้านตันซึ่งคงจะไม่เกิดปัญหาการขาดแคลนแต่อย่างใด”นายศิริศักดิ์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น