ASTVผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์”นัด 200 สินค้าหารือเร็วๆ นี้ หลังเตรียมปล่อยผียกเลิกมาตรการตรึงราคาที่จะสิ้นสุด 31 มี.ค.นี้ แย้มเบื้องต้นมีสินค้าประมาณ 10% ที่ต้นทุนสูงขึ้นและต้องขึ้นราคา จับตาเหล็ก ขยับแน่ ส่วนน้ำมันถั่วเหลือง นม ปุ๋ย หลังอภิปราย เคาะขึ้นราคา
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ล่าสุดมีสินค้าได้ยื่นขอปรับราคาเข้ามายังกระทรวงฯ เพิ่มเติมอีก 1 รายการ คือ กลุ่มเหล็ก ซึ่งได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการพิจารณาราคาแนะนำเหล็กไปดำเนินการ ส่วนสินค้าปลากระป๋องนั้น ยอมรับว่ามีต้นทุนขึ้นจากเหล็กที่ใช้ทำกระป๋อง (ทินเพลต) ราคาแพงขึ้น แต่ราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นนั้น ยังไม่เกินเพดานที่กรมการค้าภายในกำหนด ซึ่งหากมีการยื่นขอปรับราคาเข้ามา ก็ต้องพิจารณาให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
“ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในทำการศึกษาโครงสร้างรายการสินค้าเป็นรายตัว เพื่อเตรียมพร้อมในการยื่นอนุมัติขอปรับราคา จะได้รู้ว่าต้นทุนรายการไหนเพิ่มไม่เพิ่ม แต่ขณะนี้ยังยืนยันว่ามีสินค้าเพียง 10% เท่านั้น ที่มีแนวโน้มราคาสูงขึ้น”นางพรทิวากล่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า เร็วๆ นี้ จะมีการเรียกประชุมผู้ประกอบการสินค้าทุกกลุ่มกว่า 200 ราย มาหารือถึงสถานการณ์ต้นทุนราคาสินค้า ก่อนที่มาตรการตรึงราคาสินค้าจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 มี.ค.2554 ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะไม่มีการต่อหรือขยายระยะเวลาการใช้มาตรการตรึงราคาออกไปอีก จึงต้องเรียกมาทำความเข้าใจถึงแนวทางการดูแลราคาสินค้าหลังหมดมาตรการ โดยยอมรับว่ามีสินค้าสัดส่วนประมาณ 10% ของรายการสินค้าทั้งหมดที่มีต้นทุนสูงขึ้น แต่การอนุมัติให้ปรับราคาจะไม่ให้ปรับขึ้นทั้งหมดตามที่ผู้ผลิตสินค้ายื่นขอมา เพราะจะกระทบกับประชาชนมากจนเกินไป
ทั้งนี้ ล่าสุดได้มีสินค้ารายการต่างๆ แจ้งขอปรับราคาเข้ามาแล้ว เช่น กลุ่มเหล็ก ได้ขอปรับขึ้นราคา โดยให้เหตุผลว่าต้นทุนวัตถุดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นตามทิศทางฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก โดยกลุ่มเหล็กอาจมีการพิจารณาให้ปรับขึ้นราคาแนะนำ เพราะไม่ได้มีการปรับขึ้นราคาแนะนำมาตั้งแต่เดือนมี.ค.2553 ส่วนน้ำมันถั่วเหลืองบรรจุขวด นมสดพาสเจอร์ไรซ์ และปุ๋ยเคมี ที่ยื่นปรับราคามาก่อนหน้านี้นั้น จะพิจารณาการอนุมัติปรับขึ้นราคาหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จสิ้นลงช่วงกลางเดือนนี้
พร้อมกันนี้ กรมการค้าภายใน ได้มีการจัดทำข้อมูลเปรียบเทียบราคาสินค้าปี 2554 กับปี 2551 ที่เป็นปีที่ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นทะลุ 100 เหรียญสหรัฐ ว่า มีการเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน เพื่อชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบ และไม่ตื่นตระหนก เพราะข้อมูลเบื้องต้นพบว่าราคาสินค้าในปัจจุบันยังมีการเคลื่อนไหวต่ำกว่าช่วงปี 22551 อยู่มาก
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯ กำลังวิเคราะห์ต้นทุนสินค้าในปัจจุบันเปรียบเทียบย้อนหลังไปถึงปี 2551 ซึ่งเป็นปีที่มีปัญหาเรื่องน้ำมันแพงจนกระทบต่อต้นทุนในการผลิตสินค้า โดยพบว่าสินค้าส่วนใหญ่มีฐานราคาที่ต่ำกว่า แต่ยอมรับว่ามีบางรายการที่มีต้นทุนสูงขึ้นจริง โดยการพิจารณาอนุมัติให้ปรับขึ้นราคา จะต้องผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการที่ดูแลสินค้าแต่ละชนิดก่อน
ส่วนการเรียกประชุมผู้ประกอบการอุปโภคบริโภคที่อยู่ในความดูแลจำนวน 204 รายการ คงต้องพิจารณาเป็นกลุ่มสินค้าที่กระทบต่อประชาชนจริง และหากมีแนวโน้มการปรับราคาสูงขึ้น ก็คงต้องเรียกมาหารือและออกแนวทางดูแลค่าครองชีพประชาชนด้วยกัน
สำหรับอาหารปรุงสำเร็จรูปตามร้านอาหารทั่วไป ที่มีการร้องเรียนว่ามีการปรับราคาสูงขึ้น กรมฯ คงไม่ไปบังคับให้ขายในราคา 25 บาท เหมือนกับที่ได้ขอความร่วมมือให้มีเมนูทางเลือก 25 บาท ในศูนย์อาหารในหน่วยงานราชการ ห้างค้าปลีก และตลาดสด เพราะขณะนี้ยอมรับว่าต้นทุนต่างๆ ได้เพิ่มสูงขึ้น ทั้งน้ำมันพืช เนื้อสัตว์ ราคาอาจจะมีการปรับเพิ่มขึ้นบ้าง ราคาส่วนใหญ่ 30 บาท พิเศษก็ 35 บาท แต่หากขายแพงกว่านี้ ผู้ค้าก็รู้ตัวเองว่าขึ้นราคามากไปก็ขายได้น้อยลง
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ล่าสุดมีสินค้าได้ยื่นขอปรับราคาเข้ามายังกระทรวงฯ เพิ่มเติมอีก 1 รายการ คือ กลุ่มเหล็ก ซึ่งได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการพิจารณาราคาแนะนำเหล็กไปดำเนินการ ส่วนสินค้าปลากระป๋องนั้น ยอมรับว่ามีต้นทุนขึ้นจากเหล็กที่ใช้ทำกระป๋อง (ทินเพลต) ราคาแพงขึ้น แต่ราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นนั้น ยังไม่เกินเพดานที่กรมการค้าภายในกำหนด ซึ่งหากมีการยื่นขอปรับราคาเข้ามา ก็ต้องพิจารณาให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
“ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในทำการศึกษาโครงสร้างรายการสินค้าเป็นรายตัว เพื่อเตรียมพร้อมในการยื่นอนุมัติขอปรับราคา จะได้รู้ว่าต้นทุนรายการไหนเพิ่มไม่เพิ่ม แต่ขณะนี้ยังยืนยันว่ามีสินค้าเพียง 10% เท่านั้น ที่มีแนวโน้มราคาสูงขึ้น”นางพรทิวากล่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า เร็วๆ นี้ จะมีการเรียกประชุมผู้ประกอบการสินค้าทุกกลุ่มกว่า 200 ราย มาหารือถึงสถานการณ์ต้นทุนราคาสินค้า ก่อนที่มาตรการตรึงราคาสินค้าจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 มี.ค.2554 ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะไม่มีการต่อหรือขยายระยะเวลาการใช้มาตรการตรึงราคาออกไปอีก จึงต้องเรียกมาทำความเข้าใจถึงแนวทางการดูแลราคาสินค้าหลังหมดมาตรการ โดยยอมรับว่ามีสินค้าสัดส่วนประมาณ 10% ของรายการสินค้าทั้งหมดที่มีต้นทุนสูงขึ้น แต่การอนุมัติให้ปรับราคาจะไม่ให้ปรับขึ้นทั้งหมดตามที่ผู้ผลิตสินค้ายื่นขอมา เพราะจะกระทบกับประชาชนมากจนเกินไป
ทั้งนี้ ล่าสุดได้มีสินค้ารายการต่างๆ แจ้งขอปรับราคาเข้ามาแล้ว เช่น กลุ่มเหล็ก ได้ขอปรับขึ้นราคา โดยให้เหตุผลว่าต้นทุนวัตถุดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นตามทิศทางฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก โดยกลุ่มเหล็กอาจมีการพิจารณาให้ปรับขึ้นราคาแนะนำ เพราะไม่ได้มีการปรับขึ้นราคาแนะนำมาตั้งแต่เดือนมี.ค.2553 ส่วนน้ำมันถั่วเหลืองบรรจุขวด นมสดพาสเจอร์ไรซ์ และปุ๋ยเคมี ที่ยื่นปรับราคามาก่อนหน้านี้นั้น จะพิจารณาการอนุมัติปรับขึ้นราคาหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จสิ้นลงช่วงกลางเดือนนี้
พร้อมกันนี้ กรมการค้าภายใน ได้มีการจัดทำข้อมูลเปรียบเทียบราคาสินค้าปี 2554 กับปี 2551 ที่เป็นปีที่ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นทะลุ 100 เหรียญสหรัฐ ว่า มีการเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน เพื่อชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบ และไม่ตื่นตระหนก เพราะข้อมูลเบื้องต้นพบว่าราคาสินค้าในปัจจุบันยังมีการเคลื่อนไหวต่ำกว่าช่วงปี 22551 อยู่มาก
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯ กำลังวิเคราะห์ต้นทุนสินค้าในปัจจุบันเปรียบเทียบย้อนหลังไปถึงปี 2551 ซึ่งเป็นปีที่มีปัญหาเรื่องน้ำมันแพงจนกระทบต่อต้นทุนในการผลิตสินค้า โดยพบว่าสินค้าส่วนใหญ่มีฐานราคาที่ต่ำกว่า แต่ยอมรับว่ามีบางรายการที่มีต้นทุนสูงขึ้นจริง โดยการพิจารณาอนุมัติให้ปรับขึ้นราคา จะต้องผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการที่ดูแลสินค้าแต่ละชนิดก่อน
ส่วนการเรียกประชุมผู้ประกอบการอุปโภคบริโภคที่อยู่ในความดูแลจำนวน 204 รายการ คงต้องพิจารณาเป็นกลุ่มสินค้าที่กระทบต่อประชาชนจริง และหากมีแนวโน้มการปรับราคาสูงขึ้น ก็คงต้องเรียกมาหารือและออกแนวทางดูแลค่าครองชีพประชาชนด้วยกัน
สำหรับอาหารปรุงสำเร็จรูปตามร้านอาหารทั่วไป ที่มีการร้องเรียนว่ามีการปรับราคาสูงขึ้น กรมฯ คงไม่ไปบังคับให้ขายในราคา 25 บาท เหมือนกับที่ได้ขอความร่วมมือให้มีเมนูทางเลือก 25 บาท ในศูนย์อาหารในหน่วยงานราชการ ห้างค้าปลีก และตลาดสด เพราะขณะนี้ยอมรับว่าต้นทุนต่างๆ ได้เพิ่มสูงขึ้น ทั้งน้ำมันพืช เนื้อสัตว์ ราคาอาจจะมีการปรับเพิ่มขึ้นบ้าง ราคาส่วนใหญ่ 30 บาท พิเศษก็ 35 บาท แต่หากขายแพงกว่านี้ ผู้ค้าก็รู้ตัวเองว่าขึ้นราคามากไปก็ขายได้น้อยลง