วานนี้(7 มี.ค.) ที่หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ (นปอ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่อาวุธปืนหาย ที่ศูนย์การทหาราบ ค่ายธนะรัชต์ว่า มีความคืบหน้าตลอด แต่ขอให้เป็นเรื่องภายใน เพราะมันเกิดความเสียหาย และตนก็ยอมรับว่าเราต้องเพิ่มมาตรการอีก ซึ่งเป็นเรื่องของบุคคลและเราก็มีกำลังพลเป็นจำนวนมาก ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีเรื่องเสียหายมากมายถึงขนาดนี้ จึงถือว่าเป็นเรื่องใหญ่และทางกองทัพบกก็ให้ความสำคัญ
ในส่วนของผู้บังคับบัญชาและผู้บังคับกองพันก็มีคำสั่งให้พ้นหน้าที่ไปก่อน เพื่อดำเนินการสอบสวนโดยจะมี 2 ระดับ คือ ระดับพื้นที่หน่วยที่ขึ้นตรง โดยมีผู้บัญชาการศูนย์การทหารราบและเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก และมาถึงกองทัพบก ส่วนระดับบนจะมีผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกที่ 1 เป็นประธานทำการสอบสวน โดยได้ตัวผู้เกี่ยวข้องมาหลายคน รวมทั้งอาวุธจำนวนหนึ่งก็ได้กลับคืนมา ส่วนที่เหลือคงจะต้องติดตาม คิดว่าน่าจะหาข้อยุติได้
ขณะที่ได้เพิ่มมาตรการเพื่อดูแลคลังอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพบกเพื่อให้เกิดความรัดกุม แต่ขึ้นอยู่กับว่าจะปฏิบัติหรือไม่ หรือตนในฐานะผบ.ทบ.ไม่สามารถไปตรวจสอบทุกคลังได้ เพราะมีทั้งหมด 1 พันกว่าคลัง ซึ่งถือเป็นจุดหนึ่งที่บางครั้งไม่น่าจะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามความเสียหาย ความผิดพลาดขึ้นอยู่กับตัวบุคคลก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ตั้งแต่ผู้รับผิดชอบคลัง ผู้บังคับกองร้อย รวมทั้งอยู่ในความรับผิดชอบของผู้พันด้วยที่ไม่ได้เข้าไปตรวจคลัง
“เราไม่ได้นิ่งนอนใจตั้งแต่วันแรกที่ของหายจนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องดีต่อกองทัพหรือบ้านเมืองในเวลานี้ จึงอยากขอร้องสื่อให้ทำความเข้าเข้าใจและให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงาน ของเมื่อหายไปแล้วก็มีหน้าที่ติดตามกลับคืนมาเพราะไม่เช่นนั้นก็จะทำให้เกิด ข้อขัดแย้ง มีคนโจมตี” ผบ.ทบ.กล่าวและว่าตนขอเรียนว่าคงจะไม่มีใครกล้าเอาอาวุธเหล่านั้นมาทำร้ายประชาชนด้วยกัน อย่างไรก็ตามเราได้มีการประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจในทุกพื้นที่ในการตรวจ ตราจับกุม ซึ่งตอนนี้เข้าใจว่าอาวุธเหล่านั้นจะอยู่ตามแนวชายแดน
เมื่อ ถามว่าเพราะกำลังพลมีเงินเดือนน้อยจึงทำให้เป็นสาเหตุของการเกิดเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯได้มีการพูดถึงเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งตนได้กำชับกำลังอยู่เสมอว่า ต้องรู้ว่าตนเองมีเงินเดือนเท่าไร ต้องการอะไร แต่ต้องเข้าใจว่าทุกคนคือมนุษย์และต้องการให้ครอบครัวมีความสุขความสบาย แต่ถ้าหากมีกำลังทรัพย์ก็สามารถซื้อได้ หากไม่มีก็ต้องอดทน ทั้งนี้ตนได้มีแนวทางในเรื่องของการกู้ธนาคารในการผ่อนชำระบ้านตั้งแต่กำลังพลยังมีอายยุน้อย จะได้มีเวลาผ่อนในระยะยาว ซึ่งคงต้องดูในรายละเอียดว่าธนาคารจะยอมหรือไม่ เพราะเมื่อกำลังพลเกษียณไปแล้วจะได้มีบ้านอยู่
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่ได้มีการรายงานเรื่องความคืบหน้า ทั้งนี้ได้ถามผู้บัญชาการทหารบกไปแล้ว และท่านกำลังดำเนินการแล้ว และท่านไม่ยอมใครทำความผิด ท่านต้องเอามาจัดการให้เรียบร้อย
ที่ผบ.ทบ.ระบุว่าเป็นความผิดของตัวบุคคล แต่กองทัพไม่รับผิดชอบนั้น เห็นว่า ไม่ใช่ กองทัพประกอบด้วยหน่วยกำลังทั้งหลาย หลายร้อยหน่วย แต่ละหน่วยก็แบ่งหน้าที่รับผิดชอบ มีภาระหน้าที่กันอยู่ ตรงไหนบกพร่องก็แก้กันตรงนั้น
ส่วนจะมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้องเหมือนที่ลพบุรีหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ก็ต้องดูก่อน ว่าสอบสวนแล้วไปถึงใคร ส่วนเหตุใดระเบียบวินัยของทหารหย่อนยานลง นายสุเทพ กล่าวว่า องค์กรที่เป็นองค์กรใหญ่ก็ต้องมี แต่ว่าก็ต้องหาทางแก้ไขและอุดช่องโหว่ เหล่านี้ให้ได้ ถามว่าแสดงว่าผู้บังคับบัญชาก็ไม่ได้ตรวจสอบดูแล นายสุเทพกล่าวว่า เพราะตรวจสอบ ถึงได้พบ เมื่อถามต่อว่า มารู้ภายหลังแต่ขนไปเรียบร้อยแล้ว นายสุเทพ กล่าวว่า มันเป็นปกติเราไม่เคย ที่จะได้รู้ก่อนว่ามีคนทำความผิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ ทำความผิดแล้วหาคนทำผิดให้ได้ก็พอแล้ว.
ในส่วนของผู้บังคับบัญชาและผู้บังคับกองพันก็มีคำสั่งให้พ้นหน้าที่ไปก่อน เพื่อดำเนินการสอบสวนโดยจะมี 2 ระดับ คือ ระดับพื้นที่หน่วยที่ขึ้นตรง โดยมีผู้บัญชาการศูนย์การทหารราบและเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก และมาถึงกองทัพบก ส่วนระดับบนจะมีผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกที่ 1 เป็นประธานทำการสอบสวน โดยได้ตัวผู้เกี่ยวข้องมาหลายคน รวมทั้งอาวุธจำนวนหนึ่งก็ได้กลับคืนมา ส่วนที่เหลือคงจะต้องติดตาม คิดว่าน่าจะหาข้อยุติได้
ขณะที่ได้เพิ่มมาตรการเพื่อดูแลคลังอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพบกเพื่อให้เกิดความรัดกุม แต่ขึ้นอยู่กับว่าจะปฏิบัติหรือไม่ หรือตนในฐานะผบ.ทบ.ไม่สามารถไปตรวจสอบทุกคลังได้ เพราะมีทั้งหมด 1 พันกว่าคลัง ซึ่งถือเป็นจุดหนึ่งที่บางครั้งไม่น่าจะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามความเสียหาย ความผิดพลาดขึ้นอยู่กับตัวบุคคลก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ตั้งแต่ผู้รับผิดชอบคลัง ผู้บังคับกองร้อย รวมทั้งอยู่ในความรับผิดชอบของผู้พันด้วยที่ไม่ได้เข้าไปตรวจคลัง
“เราไม่ได้นิ่งนอนใจตั้งแต่วันแรกที่ของหายจนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องดีต่อกองทัพหรือบ้านเมืองในเวลานี้ จึงอยากขอร้องสื่อให้ทำความเข้าเข้าใจและให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงาน ของเมื่อหายไปแล้วก็มีหน้าที่ติดตามกลับคืนมาเพราะไม่เช่นนั้นก็จะทำให้เกิด ข้อขัดแย้ง มีคนโจมตี” ผบ.ทบ.กล่าวและว่าตนขอเรียนว่าคงจะไม่มีใครกล้าเอาอาวุธเหล่านั้นมาทำร้ายประชาชนด้วยกัน อย่างไรก็ตามเราได้มีการประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจในทุกพื้นที่ในการตรวจ ตราจับกุม ซึ่งตอนนี้เข้าใจว่าอาวุธเหล่านั้นจะอยู่ตามแนวชายแดน
เมื่อ ถามว่าเพราะกำลังพลมีเงินเดือนน้อยจึงทำให้เป็นสาเหตุของการเกิดเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯได้มีการพูดถึงเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งตนได้กำชับกำลังอยู่เสมอว่า ต้องรู้ว่าตนเองมีเงินเดือนเท่าไร ต้องการอะไร แต่ต้องเข้าใจว่าทุกคนคือมนุษย์และต้องการให้ครอบครัวมีความสุขความสบาย แต่ถ้าหากมีกำลังทรัพย์ก็สามารถซื้อได้ หากไม่มีก็ต้องอดทน ทั้งนี้ตนได้มีแนวทางในเรื่องของการกู้ธนาคารในการผ่อนชำระบ้านตั้งแต่กำลังพลยังมีอายยุน้อย จะได้มีเวลาผ่อนในระยะยาว ซึ่งคงต้องดูในรายละเอียดว่าธนาคารจะยอมหรือไม่ เพราะเมื่อกำลังพลเกษียณไปแล้วจะได้มีบ้านอยู่
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่ได้มีการรายงานเรื่องความคืบหน้า ทั้งนี้ได้ถามผู้บัญชาการทหารบกไปแล้ว และท่านกำลังดำเนินการแล้ว และท่านไม่ยอมใครทำความผิด ท่านต้องเอามาจัดการให้เรียบร้อย
ที่ผบ.ทบ.ระบุว่าเป็นความผิดของตัวบุคคล แต่กองทัพไม่รับผิดชอบนั้น เห็นว่า ไม่ใช่ กองทัพประกอบด้วยหน่วยกำลังทั้งหลาย หลายร้อยหน่วย แต่ละหน่วยก็แบ่งหน้าที่รับผิดชอบ มีภาระหน้าที่กันอยู่ ตรงไหนบกพร่องก็แก้กันตรงนั้น
ส่วนจะมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้องเหมือนที่ลพบุรีหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ก็ต้องดูก่อน ว่าสอบสวนแล้วไปถึงใคร ส่วนเหตุใดระเบียบวินัยของทหารหย่อนยานลง นายสุเทพ กล่าวว่า องค์กรที่เป็นองค์กรใหญ่ก็ต้องมี แต่ว่าก็ต้องหาทางแก้ไขและอุดช่องโหว่ เหล่านี้ให้ได้ ถามว่าแสดงว่าผู้บังคับบัญชาก็ไม่ได้ตรวจสอบดูแล นายสุเทพกล่าวว่า เพราะตรวจสอบ ถึงได้พบ เมื่อถามต่อว่า มารู้ภายหลังแต่ขนไปเรียบร้อยแล้ว นายสุเทพ กล่าวว่า มันเป็นปกติเราไม่เคย ที่จะได้รู้ก่อนว่ามีคนทำความผิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ ทำความผิดแล้วหาคนทำผิดให้ได้ก็พอแล้ว.