ผบ.กองพันทหารราบที่ 1 ผงะ หลังรับมอบตำแหน่งตรวจคลังแสงค่ายปราณบุรี พบอาวุธหายอื้อ ทั้งเอ็ม 16 ค.60 โฆษกกองทัพบก อ้างคลังแสงไม่ได้ถูกงัด แต่น่าจะสูญหายระหว่างเบิกไปฝึก หรือยังกระจายอยู่ตามหน่วยต่างๆ แล้วไม่ส่งคืน ผบ.ทบ.สั่งตั้งกรรมการสอบ พบผิดเจอหนัก ทั้งข้อหาทุจริตและบกพร่อง พร้อมส่งคุมเข้มคลังอาวุธทั้งหมด เผย หายตั้งแต่ พ.ย.53 เจ้าหน้าที่คุมคลังหนีไปแล้ว คาด ออเดอร์กลุ่มค้าอาวุธขโมยส่งขายชายแดน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คืนวันที่ (3 มี.ค.) ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 1 ศูนย์การทหารราบปราณบุรี จ.ประจวบคิรีขันธ์ ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.ปราณบุรี ว่า อาวุธปืนกลเล็กยาว เอ็ม 16 รวมถึง ปืนกล Mimini ปืนพก 86 ขนาด 11 มม.และปืน ค.60 พร้อมกระสุนจำนวนมากได้สูญหายไปจากคลังอาวุธของกองพันทหารราบที่ 1 ศูนย์การทหารราบ ภายหลังจากทำการตรวจคลังอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งรวมแล้วกว่า 100 กว่ารายการ โดยล่าสุดทางหน่วยได้มีการรายงานเรื่องนี้ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวว่า เรื่องอาวุธหายไปจากคลังอาวุธของกองทัพนั้น ต้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.เป็นผู้ชี้แจงเอง
ด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ยอมรับว่า มีเหตุการณ์เกิดขึ้นตามที่เป็นข่าวจริง และได้ไปแจ้งความกับตำรวจ ว่า มีอาวุธส่วนหนึ่งที่ยังตรวจสอบไม่พบ ระหว่างที่มีการรับส่งหน้าที่ผู้บังคับกองพันใหม่ ซึ่งมีความเป็นไปได้ใน 3 กรณี คือ 1.สูญหาย 2.กระจายอยู่ในแผนกต่างๆ ทำให้รวบรวมไม่ครบตามบัญชี เนื่องจากศูนย์การทหารราบเป็นหน่วยฝึกศึกษาที่ต้องมีการกระจายอาวุธไปฝึก เพราะนักเรียนทหารทุกหลักสูตรต้องมาฝึกที่นี่ ซึ่งต้องตรวจสอบกันต่อไป และ 3.อาจเป็นกรณีที่ 1 และกรณีที่ 2 รวมกัน โดยมีทั้งที่กระจายอยู่ ตรวจสอบไม่ครบ และสูญหาย ทั้งนี้ เชื่อว่า อาวุธดังกล่าวไม่น่าจะถูกงัดแงะออกไป เพราะไม่พบรองร่อย จึงสันนิษฐานเบื้องต้นว่า อาจเป็นการทุจริตของเจ้าหน้าที่ หรือความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ไม่ได้ตรวจสอบ เช่น ยุทโธปกรณ์ในการส่งซ่อมที่จะต้องมีผู้ควบคุม และมีบัญชีรับส่งซ่อมโดยสมบูรณ์ ซึ่งจะมีวิธีการค่อยๆ นำทยอยออกไป
“ยืนยันว่า ระบบทุกอย่างดีอยู่แล้ว เพราะมีการตรวจสอบตามสายบังคับบัญชา แต่เจ้าหน้าที่บกพร่อง ไม่ดี อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ซึ่งทหารไม่มีอะไรที่ต้องปิดบัง เพราะเราไปแจ้งความกับตำรวจเอง หากเราต้องการปิดบังคงก็ไม่ต้องแจ้งความ แต่เราต้องการพิสูจน์ว่า ใครทุจริตก็ต้องรับผิดชอบตามส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับทราบรายงานจาก ผบ.ศูนย์การทหารราบ และเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก โดย ผบ.ทบ.สั่งให้ตรวจสอบทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ มีการตั้งคณะกรรมสอบสวน ทั้งในระดับหน่วยที่เกิดเหตุการณ์ และส่วนกลาง รวมถึงเน้นย้ำให้ทุกหน่วยหมั่นตรวจสอบหน่วยของตัวเอง หากใครผิด กองทัพจะไม่มีการช่วยนเหลือให้ว่าไปตามนั้น” โฆษกกองทัพบก กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ทางหน่วยทราบเรื่องปืนหายตอนที่มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 1 กับผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 และได้มีการตรวจสอบอาวุธในคลัง ปรากฏว่า อาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 130 กระบอก ได้สูญหายไปจากคลัง พร้อมกับอาวุธอื่นๆ อีกจำนวนมาก คาดว่า ช่วงเวลาที่อาวุธปืนสูญหายอยู่ในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2553 เบื้องต้นพบว่า เป็นการออกใบส่งซ่อมอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่รักษาคลัง แต่ปรากฏว่า ปืนที่ดำเนินการส่งซ่อมยังไม่ได้รับคืนกลับมาแต่อย่างใด ส่วนเจ้าหน้าที่ควบคุมคลังอาวุธดังกล่าวได้หลบหนีราชการไปแล้ว
ทั้งนี้ อาวุธปืนที่หายไปนั้น น่าจะมีออเดอร์จากกลุ่มผู้ค้าอาวุธสั่งซื้อจากบริเวณแนวชายแดน เพื่อนำไปขายต่อยังประเทศใกล้เคียง ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทาง พล.ต.สมวุฒิ แตงสาขา ผู้บัญชาการศูนย์การทหารราบ ได้สั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 ศูนย์การทหารราบ พร้อมกับผู้บังคับกองร้อยที่ดูแลรับผิดชอบอาวุธปืนดังกล่าว แม้เบื้องต้นอาจจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำอาวุธปืนไปขายให้พ่อค้า แต่ด้วยความรับผิดชอบของบุคคลทั้งสอง ถือว่าผิดโทษฐานบกพร่อง และละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากเหตุการณ์ผ่านมาหลายเดือนแล้ว
ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเห็นข่าวอาวุธจากค่ายทหารปราณบุรีหายแล้ว จะตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งขณะนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังไม่มีการรายงานมา