xs
xsm
sm
md
lg

ความจริงกำลังไล่ล่านายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์

เผยแพร่:   โดย: ราวี เวียงพยัคฆ์

เมื่อเช้าตรู่วันที่ 6 มีนาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจทำท่าว่าจะเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ปักหลักพักค้างชุมนุมกันที่สะพานมัฆวานรังสรรค์มาเป็นเวลากว่าเดือนแล้ว แต่เมื่อเห็นประชาชนที่ชุมนุมอยู่ค่อนข้างหนาตาจึงเปลี่ยนใจ

และมาสำเร็จเอาเมื่อเช้าตรู่วันที่ 7 มีนาคม และเป็นฝั่งสะพานชมัยมรุเชฐ ซึ่งเป็นการชุมนุมของกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติที่ชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ช่วยให้นายวีระ สมความคิด และนางสาวราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ พ้นจากคุกกัมพูชา

แต่จะเป็นชัยชนะถาวรของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ซึ่งเคยพูดในสภาสอนรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวชว่าในวิถีของประชาธิปไตยอย่าว่าแต่มีเสียงเป็นหมื่นเป็นแสน มีเสียงเดียวก็ต้องรับฟัง หรือไม่ก็ต้องคอยดู แต่ที่แน่ๆ ก็คือ เสร็จจากการปฏิบัติการที่สะพานชมัยมรุเชฐ เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกส่วนหนึ่งจะมาสลายกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่สะพานมัฆวานฯ แต่มื่อเจอผู้คนจำนวนมากก็เปลี่ยนใจอีก

การนิ่งเฉยไม่ให้ความสนใจต่อผู้ชุมนุมของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์เปลี่ยนเป็นความต้องการที่จะให้การชุมนุมสลายหายวับไปจากโลกนี้ก็เพราะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทนไม่ได้อีกต่อไปแล้วกับการชุมนุมที่เปลือยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อย่างล่อนจ้อน ภาพของนักการเมืองหนุ่มรูปหล่อ การศึกษาดี ชาติตระกูลดี สังกัดพรรคการเมืองที่เก่าแก่ กลายเป็นนักการเมืองหนุ่ม ที่คำพูดคำจาเชื่อถือไม่ได้ วันก่อนพูดอย่าง วันนี้พูดอย่าง และวันต่อไปก็คงจะพูดอีกอย่าง เอาสาระไม่ได้

ภาพที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีที่ยืนปาฐกถาอยู่บนโพเดียมด้วยความมั่นอกมั่นใจในวันก่อนๆ โดยมีผู้ฟังอย่างตั้งอกตั้งใจฟังด้วยความเชื่อมั่น ด้วยความเคารพ ด้วยความศรัทธา มาถึงวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว มีผู้ฟังบางกลุ่มบางคนยกป้ายชูให้ผู้ร่วมฟังได้คิดแล้วว่า “ดีแต่พูด” แน่นอน นี่มิใช่กลุ่มคนเสื้อแดงที่ใช้ไข่เน่า น้ำปลาร้าไล่ หากแต่เป็นกลุ่มคนที่เคยชื่นชมศรัทธา หรืออย่างน้อยก็ให้โอกาสรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ คาดและหวังว่า จะเป็นรัฐบาลที่ดีกว่ารัฐบาลทักษิณ สมัคร สมชาย

แต่แล้วคนที่ทำลายความหวัง ความฝันของเขาก็คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

2 ปีของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทำลายความหวัง ความฝันของพวกเขาลงอย่างสิ้นเชิง

สำหรับคนเสื้อแดงนั้น เขาไม่เอารัฐบานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตั้งแต่เริ่มกำเนิดรัฐบาลแล้ว เพราะพวกเขาเห็นว่าเป็นรัฐบาลโจร ปล้นเสียงของพรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย คือ กลุ่มของนายเนวิน ชิดชอบ ที่แตกออกมาตั้งพรรคภูมิใจไทย เปลี่ยนขั้วมาสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ด้วยการบอกกล่าวทักษิณว่า “หมดเวลาแล้วนาย”

พวกเขาเห็นว่า นี่เป็นการทรยศ นี่เป็นการหักหลังอย่างเจ็บปวดที่พวกเขารับไม่ได้ จึงกิดเหตุการณ์เมษายน 2552 และ 2553 ขึ้น เพื่อล้มรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ และหาทางที่จะช่วยให้ทักษิณ กลับมาอย่างพ้นคุก เผลอๆกลับมามีอำนาจได้อีก (นี่เป็นการปลอบใจทักษิณให้มีความหวัง มีความฝัน เพื่อให้ท่อน้ำเลี้ยงไหลคล่องขึ้นของพวกเขา- เสื้อแดง)

2 ปีที่เสื้อแดงเพียรพยายามทำลายรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เป็น 2 ปีที่กลุ่มคนที่เอาใจช่วยนายอภิสิทธิ์ ฝากความหวังไว้กับรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เริ่มสิ้นหวัง และมองเห็นสัจธรรม

นายอภิสิทธิ์บอกว่าจะแก้ไขการเมืองที่ล้มเหลว ก็เชื่อนายอภิสิทธิ์ว่าคงจะแก้ได้ หรืออย่างน้อยก็พยายามแก้ ที่ไหนได้ นอกจากนายอภิสิทธิ์ไม่ได้คิดที่จะแก้ไขแล้วยังเดินไปตามถนนการเมืองที่นายอภิสิทธิ์บอกว่า เป็นการเมืองที่ล้มเหลวนั่นเอง ไม่เช่นนั้นจะไปเสพสมพรหมพรกับนักการเมืองชั่วที่นายอภิสิทธิ์บอกว่าเป็นการเมืองที่ล้มเหลว นั่นได้อย่างไร

ไปยกกระทรวงสำคัญๆ ให้พรรคการเมืองอื่นได้อย่างไร เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้ชื่อว่าเป็นแกนในการจัดตั้งรัฐบาล และจะไปยอมให้ตำแหน่งรัฐมนตรีให้กับคนบางคนได้อย่างไร ทั้งที่คนเหล่านั้นไม่ได้มีความรู้ ความสามารถ และภูมิหลังของบางคนมีบุพการีประกอบธุรกิจสถานอาบอบนวด

เรื่องของเรื่องก็เพื่อสนองตัณหาของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรี และให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนการจัดตั้งรัฐบาล สมความตั้งใจนั่นเอง

เพื่ออะไร?

สำหรับนายอภิสิทธิ์อาจจะเพื่อความใฝ่ฝัน ความตั้งอกตั้งใจ และสำหรับพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาล มาวันนี้เราก็ได้เห็นแล้ว เพื่อทำน้ำตาลให้ขึ้นราคา เพื่อทำให้น้ำมันปาล์มขาดตลาดเพื่อที่จะได้ดูแลโควตาส่งสินค้าการเกษตร เช่น ข้าว ถั่ว มันสำปะหลัง ออกนอกประเทศ เพื่อที่จะได้ดูแลสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อที่จะได้กำกับดูแลการก่อสร้างถนนไร้ฝุ่น รถใต้ดิน รถไฟฟ้าสายต่างๆ การเช่ารถเมล์หลายพันคันให้การขนส่งในกรุงเทพมหานคร และเพื่อที่จะได้แต่งตั้งข้าราชการ ปลัดกระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้กำกับ และนายทหารใหญ่ๆ ฯลฯ

ความเป็นจริงเหล่านี้ปรากฏให้เห็นขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกเดือนตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา

เป็นความจริงที่ไล่ล่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

เป็นความจริงที่หลุดมาจากปากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่วันก่อนนี้พูดอย่าง วันนี้พูดอย่าง และพรุ่งนี้ไม่แน่ว่าจะพูดอย่างไร

เป็นความจริงที่เล่นงานพรรคประชาธิปัตย์ที่ตั้งความหวังว่าจะต้องได้ 300 เสียงสำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่ และหวังว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอบ

ต้องคอยดูว่าจะเป็นไปได้หรือ เมื่อความจริงไล่ล่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพรรคประชาธิปัตย์ขนาดนี้แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น