การโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีอาญา ครั้งล่าสุด เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 13 ก.พ. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พูดคุยกับกลุ่มคนเสื้อแดง สะท้อนถึงอาการของคนพยายามอดทน รอความหวัง ไม่ปลุกเร้าดุเดือดเหมือนอย่างเคย รอคอยอย่างสุขุมขึ้น หวังให้รัฐบาลช้ำเลือดช้ำหนองไปเอง และพังพาบไปในที่สุด
" วันวาเลนไทน์ ผมขอส่งมอบความรักให้กับคนเสื้อแดงทุกคนที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย และความเป็นธรรมในสังคม ได้ข่าวเศร้าว่าเมืองไทยเป็นเมืองเศรษฐกิจ แต่ต้องเข้าคิวซื้อน้ำมันพืช มันเกิดอะไรขึ้นกับประเทศ มี 2 อย่าง 1. บริหารราชการไม่เป็น 2. จงใจคอร์รัปชัน เป็นห่วงลูกหลานที่ต้องแบกภาระหนี้ จนถึงขณะนี้รัฐบาลเป็นหนี้ 1.499 ล้านล้านบาท เยอะกว่าทุกรัฐบาลรวมกัน วันนี้ก็มีเรื่องแปลกใจอีกอย่าง ที่กลุ่มคนเสื้อแดงหันไปดู เอเอสทีวี แต่คนปักษ์ใต้ ไม่ดูเอเอสทีวี ผมงง จนมารู้ว่า เพราะเอเอสทีวี หันมาด่าพรรคประชาธิปัตย์"
พุ่งเป้าไปที่การบริหารงานผิดพลาดของรัฐบาล ข้าวยากหมากแพง ทุจริต คอร์รัปชัน
"ในเร็วๆนี้ จะมี 2 สถานการณ์เกิดขึ้นคือ หนึ่ง ถ้าไม่เกิดการเลือกตั้ง ก็จะเกิดการใช้วิธีโบราณ คือการยึดอำนาจ ถ้ารัฐบาลโกง เอาเปรียบการเลือกตั้ง เป็นการแสดงการไร้เกียรติภูมิ เขาอยากแก้ยังไง ก็ให้แก้ไป แต่อย่าโกง ส่วนการปฏิวัติ ถ้าเกิดขึ้นเราต้องต่อต้าน และขอให้ชาวเสื้อแดงทุกคน รักกันให้มากๆ ภายภาคหน้าอาจไม่มีเหลือง แดง แล้วก็ได้"
หวังต่อสู้สนามเลือกตั้ง ต่อต้านการปฏิวัติรัฐประหาร !!
หากมีการปฏิวัติเกิดขึ้นอีกครั้ง ความหวังที่จะกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ คงต้องดับวูบ หรือทอดยาวออกไป โดยไม่รู้ว่าอนาคตต่อไปจะดีร้าย ต่อตัวเอง ฝ่ายที่ปฏิวัติ ก็ทราบกันดีว่า คือกลุ่มคนที่กุมอำนาจในประเทศไทย ณ ยามนี้ ซึ่งไม่เอา พ.ต.ท.ทักษิณ
แต่หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น โอกาสที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กลับบ้านย่อมมีสูงกว่า ถ้าประชาชนเลือก ส.ส.จากพรรคเพื่อไทย จนสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ความหวังกลับบ้าน ย่อมเรืองรองเจิดจรัสกว่า ...
เมื่อสถานการณ์การเมืองเดินมาถึงจุดที่รัฐบาลกำลังเพลี่ยงพล้ำ ปัญหาสารพัดรุมเร้า โดยเฉพาะเรื่องข้าวยาก หมากแพง ประกอบกับธรรมชาติการเมืองช่วงปลายรัฐบาล แทบทุกชุด กระแสจะตกลง ๆ เรื่อย ๆ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงเบรกเกมรุก รอคอยโอกาส
โฟกัสมายังพรรคเพื่อไทย ก็มีความเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อเปิดเกมรุกรบแล้วไม่ชนะ ก็เปลี่ยนโทนมาเป็นสงบนิ่ง เดินเกมเรียบๆไม่โฉ่งฉ่าง การให้ มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน ขึ้นมาเป็นผู้นำขัดตาทัพ นำทีมซักฟอกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็เป็นสิ่งสะท้อนได้ดี
วันนี้ยังไม่ถึงเวลารบแตกหัก ยังไม่ถึงเวลาเอาหัวหน้าตัวจริง หรือคนในใกล้ชิด มาชูโรงออกหน้าเสี่ยงบาทา สถานการณ์ยามนี้ ยังไม่เอื้อให้ลุยสุดตัว
ไปวางระบบ จัดระเบียบภายในให้พร้อมสำหรับการเลือกตั้งดีกว่า ที่จะมาออกแรงสู้แบบมวยรอง เหมือนที่ผ่านๆ มา ล่าสุดการจัดผู้สมัคร ส.ส.ภายในพรรคก็มีความคืบหน้าไปมากเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว พร้อมทั้งมีการเปิดแคมเปญถล่มรัฐบาล และประชาสัมพันธ์งานในอนาคต
พยายามสร้างกลไกให้แข็งแกร่ง เพื่อมัดใจ ส.ส.ไม่ให้หนีไปไหน “ท่อน้ำเลี้ยง” ก็ต้องปล่อยไม่ให้ขาด ยิ่งตอนนี้ “มิ่งขวัญ” สวมบทเจ้าสัวใหญ่ จ่ายแหลก นายใหญ่ก็ไฟเขียว ใครเอาเงินมาให้ มาแจก ก็ยินดีทั้งนั้น ส.ส.ก็ได้ประโยชน์ พรรคก็ได้ประโยชน์ และก็จำเป็นต้องมอบบทผู้นำให้ "มิ่งขวัญ" ไปพลางก่อน
แต่ท้ายที่สุดแล้ว “มิ่งขวัญ” คงได้เป็นเพียงผู้นำพรรคชั่วคราว ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคตัวจริงแน่ เพราะคนในใจนั้น ทักษิณมีอยู่แล้ว!!
การเลือกตั้งที่จะถึงนี้ ทักษิณ คาดหวังไว้สูงว่า จะเป็นเวทีต่อสู้ของภาคประชาชน คาดหวังอยู่ในใจตลอดว่าได้รับชัยชนะแบบถล่มทลาย แล้วตัวเองได้กลับบ้าน ที่ผ่านมาก็ใช้เครือข่ายเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทย แยกกันเดิน รวมกันตี เป็นคู่ขนาน ลองทั้งรุกไล่ ทั้งกดดัน บีบทั้งจากภายใน และภายนอก แต่รัฐบาลก็ยังรอดสันดอนมาได้ตลอด เพราะรู้ดีว่า เส้นใหญ่ก๋วยจั๊บ
แต่เมื่อมันใกล้จะสุดทางของรัฐบาลแล้ว จะหมดวาระในปีนี้ ก็ลองหยุดดิ้นรนสักพัก โลว์โพรไฟล์ ลองให้เกมการเมืองเดินไปตามกลไกของมันดูบ้าง ประกอบกับเวลานี้สถานการณ์หลายด้านบีบคั้นรัฐบาล อดีตคนเคยรัก เช่น กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็หันมา จัดหนัก.. ลากไส้รัฐบาลชุดใหญ่
เรื่องการสลายชุมนุมมีผู้เสียชีวิต 91 ศพ บาดเจ็บกว่า 2,000 คน ก็เป็นวีรกรรมที่ทำให้ใครหลายคนตราหน้ารัฐบาลชุดนี้ และมันก็กลายเป็นเรื่องทอล์ก ออฟเดอะเวิลด์ ต่างชาติยังตามล่าความจริงว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับสยามเมืองยิ้ม ภายใต้รัฐบาลชุดนี้
จากสารพัดปัจจัย นักโทษหนีคดีอาญา-ทักษิณ มองว่ารัฐบาลยิ่งอยู่นานไปก็ยิ่งเสื่อมเอง ตอนนี้ให้ ส.ส.ในเครือข่ายเอาเวลาไปหาเสียง โกยแต้ม จากชาวบ้านร้านตลาดดีกว่า ตอนนี้พรรคเพื่อไทย ก็กำลังจะนำสินค้าที่ตอนนี้ราคาถีบตัวสูงในท้องตลาด ไปเร่ขายประชาชน แบบถูกๆ เหมือนเช่น โครงการธงฟ้า เกทับบลัฟแหลกรัฐบาล..
เมื่อยอมสงบเสงี่ยม ทำตามเงื่อนไข ไม่ก่อความวุ่นวายแล้ว หากยังไม่ปล่อยให้มีการเลือกตั้ง คนบางกลุ่มบางพวกสร้างเหตุการณ์อะไรให้เกิดการปฏิวัติ ยื้อการเลือกตั้งออกไป วันนั้นทักษิณคงต้องปลุกระดมคนเสื้อแดงให้แตกหักครั้งใหญ่อีกครั้ง คนที่รอคอยอย่างอดทน แล้วกลับถูกทำลายความหวังที่เฝ้ารอไปต่อหน้าต่อหน้า ความแค้นมันคงรุนแรงปานภูเขาไฟระเบิด !!
" วันวาเลนไทน์ ผมขอส่งมอบความรักให้กับคนเสื้อแดงทุกคนที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย และความเป็นธรรมในสังคม ได้ข่าวเศร้าว่าเมืองไทยเป็นเมืองเศรษฐกิจ แต่ต้องเข้าคิวซื้อน้ำมันพืช มันเกิดอะไรขึ้นกับประเทศ มี 2 อย่าง 1. บริหารราชการไม่เป็น 2. จงใจคอร์รัปชัน เป็นห่วงลูกหลานที่ต้องแบกภาระหนี้ จนถึงขณะนี้รัฐบาลเป็นหนี้ 1.499 ล้านล้านบาท เยอะกว่าทุกรัฐบาลรวมกัน วันนี้ก็มีเรื่องแปลกใจอีกอย่าง ที่กลุ่มคนเสื้อแดงหันไปดู เอเอสทีวี แต่คนปักษ์ใต้ ไม่ดูเอเอสทีวี ผมงง จนมารู้ว่า เพราะเอเอสทีวี หันมาด่าพรรคประชาธิปัตย์"
พุ่งเป้าไปที่การบริหารงานผิดพลาดของรัฐบาล ข้าวยากหมากแพง ทุจริต คอร์รัปชัน
"ในเร็วๆนี้ จะมี 2 สถานการณ์เกิดขึ้นคือ หนึ่ง ถ้าไม่เกิดการเลือกตั้ง ก็จะเกิดการใช้วิธีโบราณ คือการยึดอำนาจ ถ้ารัฐบาลโกง เอาเปรียบการเลือกตั้ง เป็นการแสดงการไร้เกียรติภูมิ เขาอยากแก้ยังไง ก็ให้แก้ไป แต่อย่าโกง ส่วนการปฏิวัติ ถ้าเกิดขึ้นเราต้องต่อต้าน และขอให้ชาวเสื้อแดงทุกคน รักกันให้มากๆ ภายภาคหน้าอาจไม่มีเหลือง แดง แล้วก็ได้"
หวังต่อสู้สนามเลือกตั้ง ต่อต้านการปฏิวัติรัฐประหาร !!
หากมีการปฏิวัติเกิดขึ้นอีกครั้ง ความหวังที่จะกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ คงต้องดับวูบ หรือทอดยาวออกไป โดยไม่รู้ว่าอนาคตต่อไปจะดีร้าย ต่อตัวเอง ฝ่ายที่ปฏิวัติ ก็ทราบกันดีว่า คือกลุ่มคนที่กุมอำนาจในประเทศไทย ณ ยามนี้ ซึ่งไม่เอา พ.ต.ท.ทักษิณ
แต่หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น โอกาสที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กลับบ้านย่อมมีสูงกว่า ถ้าประชาชนเลือก ส.ส.จากพรรคเพื่อไทย จนสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ความหวังกลับบ้าน ย่อมเรืองรองเจิดจรัสกว่า ...
เมื่อสถานการณ์การเมืองเดินมาถึงจุดที่รัฐบาลกำลังเพลี่ยงพล้ำ ปัญหาสารพัดรุมเร้า โดยเฉพาะเรื่องข้าวยาก หมากแพง ประกอบกับธรรมชาติการเมืองช่วงปลายรัฐบาล แทบทุกชุด กระแสจะตกลง ๆ เรื่อย ๆ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงเบรกเกมรุก รอคอยโอกาส
โฟกัสมายังพรรคเพื่อไทย ก็มีความเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อเปิดเกมรุกรบแล้วไม่ชนะ ก็เปลี่ยนโทนมาเป็นสงบนิ่ง เดินเกมเรียบๆไม่โฉ่งฉ่าง การให้ มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน ขึ้นมาเป็นผู้นำขัดตาทัพ นำทีมซักฟอกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็เป็นสิ่งสะท้อนได้ดี
วันนี้ยังไม่ถึงเวลารบแตกหัก ยังไม่ถึงเวลาเอาหัวหน้าตัวจริง หรือคนในใกล้ชิด มาชูโรงออกหน้าเสี่ยงบาทา สถานการณ์ยามนี้ ยังไม่เอื้อให้ลุยสุดตัว
ไปวางระบบ จัดระเบียบภายในให้พร้อมสำหรับการเลือกตั้งดีกว่า ที่จะมาออกแรงสู้แบบมวยรอง เหมือนที่ผ่านๆ มา ล่าสุดการจัดผู้สมัคร ส.ส.ภายในพรรคก็มีความคืบหน้าไปมากเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว พร้อมทั้งมีการเปิดแคมเปญถล่มรัฐบาล และประชาสัมพันธ์งานในอนาคต
พยายามสร้างกลไกให้แข็งแกร่ง เพื่อมัดใจ ส.ส.ไม่ให้หนีไปไหน “ท่อน้ำเลี้ยง” ก็ต้องปล่อยไม่ให้ขาด ยิ่งตอนนี้ “มิ่งขวัญ” สวมบทเจ้าสัวใหญ่ จ่ายแหลก นายใหญ่ก็ไฟเขียว ใครเอาเงินมาให้ มาแจก ก็ยินดีทั้งนั้น ส.ส.ก็ได้ประโยชน์ พรรคก็ได้ประโยชน์ และก็จำเป็นต้องมอบบทผู้นำให้ "มิ่งขวัญ" ไปพลางก่อน
แต่ท้ายที่สุดแล้ว “มิ่งขวัญ” คงได้เป็นเพียงผู้นำพรรคชั่วคราว ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคตัวจริงแน่ เพราะคนในใจนั้น ทักษิณมีอยู่แล้ว!!
การเลือกตั้งที่จะถึงนี้ ทักษิณ คาดหวังไว้สูงว่า จะเป็นเวทีต่อสู้ของภาคประชาชน คาดหวังอยู่ในใจตลอดว่าได้รับชัยชนะแบบถล่มทลาย แล้วตัวเองได้กลับบ้าน ที่ผ่านมาก็ใช้เครือข่ายเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทย แยกกันเดิน รวมกันตี เป็นคู่ขนาน ลองทั้งรุกไล่ ทั้งกดดัน บีบทั้งจากภายใน และภายนอก แต่รัฐบาลก็ยังรอดสันดอนมาได้ตลอด เพราะรู้ดีว่า เส้นใหญ่ก๋วยจั๊บ
แต่เมื่อมันใกล้จะสุดทางของรัฐบาลแล้ว จะหมดวาระในปีนี้ ก็ลองหยุดดิ้นรนสักพัก โลว์โพรไฟล์ ลองให้เกมการเมืองเดินไปตามกลไกของมันดูบ้าง ประกอบกับเวลานี้สถานการณ์หลายด้านบีบคั้นรัฐบาล อดีตคนเคยรัก เช่น กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็หันมา จัดหนัก.. ลากไส้รัฐบาลชุดใหญ่
เรื่องการสลายชุมนุมมีผู้เสียชีวิต 91 ศพ บาดเจ็บกว่า 2,000 คน ก็เป็นวีรกรรมที่ทำให้ใครหลายคนตราหน้ารัฐบาลชุดนี้ และมันก็กลายเป็นเรื่องทอล์ก ออฟเดอะเวิลด์ ต่างชาติยังตามล่าความจริงว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับสยามเมืองยิ้ม ภายใต้รัฐบาลชุดนี้
จากสารพัดปัจจัย นักโทษหนีคดีอาญา-ทักษิณ มองว่ารัฐบาลยิ่งอยู่นานไปก็ยิ่งเสื่อมเอง ตอนนี้ให้ ส.ส.ในเครือข่ายเอาเวลาไปหาเสียง โกยแต้ม จากชาวบ้านร้านตลาดดีกว่า ตอนนี้พรรคเพื่อไทย ก็กำลังจะนำสินค้าที่ตอนนี้ราคาถีบตัวสูงในท้องตลาด ไปเร่ขายประชาชน แบบถูกๆ เหมือนเช่น โครงการธงฟ้า เกทับบลัฟแหลกรัฐบาล..
เมื่อยอมสงบเสงี่ยม ทำตามเงื่อนไข ไม่ก่อความวุ่นวายแล้ว หากยังไม่ปล่อยให้มีการเลือกตั้ง คนบางกลุ่มบางพวกสร้างเหตุการณ์อะไรให้เกิดการปฏิวัติ ยื้อการเลือกตั้งออกไป วันนั้นทักษิณคงต้องปลุกระดมคนเสื้อแดงให้แตกหักครั้งใหญ่อีกครั้ง คนที่รอคอยอย่างอดทน แล้วกลับถูกทำลายความหวังที่เฝ้ารอไปต่อหน้าต่อหน้า ความแค้นมันคงรุนแรงปานภูเขาไฟระเบิด !!