8 มี.ค.นี้ พรรคประชาธิปัตย์ จัดงานระดมทุนเข้าพรรค ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยนายกฯ โพเดียม อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะขึ้นปาฐกถาเรื่อง “การเดินหน้าประเทศไทย” ด้วย ซึ่งคงไม่มีสาระเนื้อหาน่าสนใจเท่าไร ประชาธิปัตย์หวังจะใช้เวทีนี้ให้อภิสิทธิ์หาเสียงตีกินล้วงกระเป๋าแฟนคลับของเขาเท่านั้น
ประเด็นที่ควรให้ความสนใจอยู่ที่งานนี้เป็นการจัดฉากเพื่อหาเงินเข้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะใช้เป็นกระสุนในการลุยเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ เพื่อหวังได้อำนาจรัฐกลับมาอยู่ในมือ และให้อภิสิทธิ์นั่งเป็นนายกฯ โพเดียมอีกรอบ จะได้พายเรือให้โจรโกงชาติบ้านเมืองต่อไป
ทั้งๆนี้ ว่ากันว่าตอนนี้ ปชป.ก็มี “เงินใต้โต๊ะ” ตุนซุกใน “เซฟลับ” อยู่แล้วนับหมื่นล้านบาท งานนี้จึงเป็นเพียงแค่กิจกรรมบังหน้าของคนโกงแกล้งจน!
พรรคประชาธิปัตย์ตั้งเป้าไว้งานนี้ต้องระดมทุนเข้าพรรคได้ 600 ล้านบาท แต่ยอดล่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินวิ่งมายังไม่ถึง 400 ล้านบาท ท่ามกลางกระแสข่าวพูดกันไปทั่ววงการธุรกิจและข้าราชการว่าจำต้องบริจาคเงินผ่านรูปแบบต่างๆ เช่นซื้อโต๊ะจีนเพราะถูกรายการ “คุณขอมา” อย่างหนักจากคนการเมืองในพรรคการเมืองใหญ่ เพื่อไม่ให้เจ้าภาพของงานที่เป็นผู้ใหญ่ระดับผู้จัดการรัฐบาลเสียหน้า ทำเอาคนโดนล็อบบี้ขอให้ช่วยบริจาคเงินเข้าปชป.หลายคนโอดครวญกันไปตามๆ กัน
แต่ 600 ล้านรอบนี้ ยังแค่นำร่อง แต่ก๊อกใหญ่ อยู่ที่แผนการของสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่วางแผนไว้ว่าจะให้ ส.ส.ของพรรคทั่วประเทศไปหา “ผู้สนับสนุนพรรค” ทั้งที่เป็นสมาชิกพรรคที่มีอยู่ 2.8 ล้านคน และผู้ที่ชื่นชมพรรคแต่ไม่ได้เป็นสมาชิก
ให้ได้ทั้งหมด 3 พันคนจากทั่วทุกภาค แล้วให้คน 3 พันคนบริจาคคนละ 1 ล้านบาท จะทำให้ ปชป.ได้เงินทุน 3 พันล้านบาท เพื่อใช้ในการเลือกตั้ง โดยคน 3 พันคนดังกล่าวพรรคจะให้บทบาทในหลายด้านโดยเฉพาะการเสนอความเห็นให้แกนนำพรรคไปพิจารณา
นั่นเท่ากับว่า ปชป.วางไว้ว่าจะใช้เงินอย่างน้อย 3,600 ล้านบาทในการเลือกตั้งรอบนี้และทำกิจกรรมการเมืองของพรรค แล้วทักษิณ ชินวัตร กับพรรคเพื่อไทย จะใช้เท่าไหร่?
มีกระแสข่าวพูดกันในแวดวง “คนเสื้อแดง” และ ส.ส.อีสานของพรรคเพื่อไทยว่า ขนาดชุมนุมเสื้อแดง 3 เดือน คือมีนาคม-เมษายน และพฤษภาคม มีเงินสะพัดที่สะพานผ่านฟ้าฯ และสี่แยกราชประสงค์ คาดกันว่าอยู่ที่เกือบ 4 พันล้านบาท
ในการเลือกตั้ง ส.ส.ทั้งที ซึ่งการเลือกตั้งครั้งใหม่นี้เดิมพันสูงของทักษิณ ที่ต้องชนะให้ได้ จึงคาดการณ์กันว่า จะต่ำกว่า 4 พันล้านบาทได้อย่างไร!?
ขณะนี้ บรรยากาศที่เพื่อไทยคนในพรรคกำลังคึกคักกันถ้วนหน้าทีเดียว เพราะได้รับคำยืนยันว่า ท่อน้ำเลี้ยงอัดฉีดออกมาคล่องปรื๊ดพุ่งกระฉูด “นายใหญ่” ขอเพียงแค่ชนะให้ได้เป็นพอ มีทั้งจ่ายหนักก่อนเลือกตั้ง และโบนัสพิเศษหลังเลือกตั้ง เพราะเงินกองกลางรอบแรกที่หลายคนระดมกันเข้ามา โดยไม่นับรวมเงินทักษิณ ก็มีข่าวว่าอยู่ที่ระดับเป็นพันล้านบาทแล้ว
ขนาด “นายใหญ่” ประกาศว่า เงิน(ที่โกงมา) ยังเหลืออีกเป็นกระตั้ก ใช้เลือกตั้งอีก10หนก็ไม่หมด คราวนี้ขอทุ่มไม่อั้นเพื่อสกัด “ปชป.-อภิสิทธิ์-เนวิน” เบื้องต้นประมาณการว่าเพื่อไทยจะควักเงินออกมาซื้อเสียงแข่งกับปชป.และพรรคร่วมอย่างภูมิใจไทยไม่น้อยกว่า 5พันล้านบาท
พบว่าเงินที่เทเข้ามายังเพื่อไทยตอนนี้ เงินจะถูกระบายออกเป็นช่วงๆ มีทั้งเงินอัดฉีดรายเดือน เงินพิเศษทำพื้นที่หากขอตรงกับแกนนำพรรคสายตระกูลชินวัตร ว่าแรงเสียดทานในพื้นที่สูง เช่นว่าในพื้นที่ที่ต้องบี้กันอย่างหนักกับคนของพรรคภูมิใจไทย ไม่ทำพื้นที่เอาเงินไปลงตรึงหัวคะแนนไว้ก่อน มีสิทธิ์แพ้หลายเขต กรณีเช่นนี้ ส.ส.เอาไปเลย เบิกง่ายจ่ายคล่อง เอาไปก่อนได้ ยิ่งกว่าสินเชื่อ Car for Cash
รายจ่ายอีกส่วนหนึ่งเป็นค่าบริหารจัดการเพื่อชัยชนะ เช่น ค่าเลี้ยงดูหัวคะแนน รวมถึงเงินเบี้ยเลี้ยงรายวันให้กับคนของพรรคที่จะส่งไปทั่วประเทศเพื่อดูแลการเลือกตั้งไม่ให้มีตุกติก เพราะทักษิณรู้ดีว่ารอบนี้ไม่เหมือนกับเลือกตั้งปี 50
ตอนปี 50 ว่าหนักแล้วเพราะสู้กับ คมช.-ทหารที่พยายามบล็อกคนของพลังประชาชนเต็มที่ แต่คมช.-ทหาร ไม่ทันเกมเลือกตั้ง เจอลูกพลิกแพลงของ ส.ส.เข้าหน่อย แถมยังมีพวกคนในอำนาจรัฐสมัยนั้นที่เป็นทั้งทหาร-ตำรวจ-ฝ่ายปกครอง คอยช่วยคนของพรรคพลังประชาชน เจอลูกนี้เข้าไปคมช.ก็เดี้ยงแล้ว เลยบล็อกไม่อยู่
แต่รอบนี้มันต่างกัน เพื่อไทย ต้องสู้กับอำนาจรัฐที่ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย คุมอยู่ผ่าน 3 กลไกลหลัก คือ ตำรวจ-ทหาร-ฝ่ายปกครอง ซึ่งทั้งหมดจะรวมกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อบล็อกเพื่อไทย
ทหาร ก็ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.รายนี้รู้ดีหากเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง ได้เป็นแกนนำรัฐบาล ตัวเองก็เก้าอี้คลอน ด้านตำรวจ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ก็เช่นกัน รู้ดีว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. พี่ชาย พจมาน ณ ป้อมเพชร์ รอบนี้ก็ลุ้นให้เพื่อไทยชนะเลือกตั้งเพราะโอกาสจะได้เป็นผบ.ตร.ก่อนเกษียณอายุราชการก็ยังเป็นได้อยู่ วิเชียรก็ต้องทำทุกอย่างไม่ให้การเมืองพลิกขั้ว
ส่วนกระทรวงมหาดไทยยิ่งไม่ต้องพูดถึง ตั้งแต่ปลัดกระทรวงยันนายอำเภอหลายจังหวัดทั่วประเทศ ที่ได้ดิบได้ดีในช่วงสองปีที่ผ่านมา ทุกคนต่างต้องช่วยฝ่าย ปชป.-ภูมิใจไทยอยู่แล้ว
เจอรุมหนักแบบนี้ เชื่อได้ว่า เพื่อไทยขยับลำบาก โดยเฉพาะก่อนวันเลือกตั้งโค้งสุดท้าย ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยหลายคนมีสิทธิ์ที่หน้าบ้านตัวเอง จะมีคนไปทำหน้าที่ยามเฝ้าหน้าบ้านให้แบบไม่คิดเงิน
โดยยามที่ว่านี้ ไม่ได้ไปเพื่อรักษาความปลอดภัย แต่ไปเฝ้าเพื่อไปบล็อกไม่ให้กระดิก จะได้เดิมเกมใต้ดินไม่ได้
แบบนี้ มีหวังหลายหมู่บ้านอาจมีกระสุนตก ตั้งแต่ช่วงสงกรานต์-เมษายนนี้ด้วยซ้ำ ไม่ต้องรอให้ถึงกลางปีช่วงเลือกตั้ง เพราะถึงตอนนั้น เพื่อไทยจะขยับท่าไหนก็ลำบาก
ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งใหม่นักการเมืองจะมีเงินทุ่มลงมาซื้อเสียงกว่าหมื่นบาทแน่นอน ประชาธิปไตยเมืองไทยอยู่ไหนหนอ?