วานนี้(7 มี.ค.) มีความคืบหน้าการบรรจุวาระญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอีก 8 คน ของพรรคฝ่ายค้าน โดยนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ยอมรับว่า ได้บรรจุระเบียบวาระญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเรียบร้อยแล้ว คือระหว่างวันที่ 15-17 มี.ค.นี้ และจะลงมติในวันที่ 18 มี.ค.นี้ ซึ่งได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบแล้ว
**พท.ข้องใจลดวันซักฟอกรอถก“ชัย”
นอ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่ประธานสภาระบุว่า จะให้เวลา 3 วัน ในการอภิปรายนั้น เรื่องนี้ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงตามผลที่ประธานวิปสองฝ่ายได้พูดคุยแล้ว คือ ให้เวลาพวกเราทั้งฝ่ายค้าน 40 ชั่วโมง รัฐบาล 20 ชั่วโมง เวลาอื่นๆ อีก 6 ชั่วโมง การประชุมวันนั้น ก็เป็นไปอย่างเปิดเผยให้สื่อรับฟัง และมีการแถลงข่าวชัดเจน ที่สำคัญ ตอนฝ่ายค้านยื่นญัตตินายชัยบอกว่า ไม่ก้าวล่วงและจะขอให้วิปคุยกัน ดังนั้น เมื่อสรุปได้เวลา 40 ชั่วโมง และฝ่ายค้านก็ได้ทำการบ้านโดยเตรียมอภิปรายภายใต้กรอบเวลานั้น ดังนั้นวันที่ 8 มี.ค.นี้คณะเจรจาของพรรคจะนัดเจรจากับนายชัยว่าทำไมถึงเป็นอย่างนี้
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในตอนแรกนั้นได้มีการพูดคุยกันแล้วว่าจะให้พรรคฝ่ายค้านอภิปรายเป็นเวลา 4 วัน ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาประชาคมไปเรียบร้อยแล้ว แต่สุดท้ายกลับคำพูดของตัวเองนั้น ตนคิดว่าในวันนี้เราได้รับรู้ธาตุแท้ของทางรัฐบาลแล้วว่าเป็นอย่างไร วันนี้ตนอยากให้นายชัยและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ทบทวนคำพูดของตัวเองที่เคยกล่าวเอาไว้
ทั้งนี้คิดว่าการดำเนินการเช่นนี้น่าจะมีความตุกติก และเป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้มีนิสัยทางการเมืองเป็นอย่างไร และสังคมคงได้ตั้งข้อสังเกตแล้วว่าที่ประชุมของรัฐสภามีการแบ่งบทกันเล่น จึงข้อตั้งข้อสังเกตว่า เหตุผลที่ลดวันอภิปรายลงมา เนื่องจากนายชัยไม่ต้องการให้รัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทยถูกอภิปรายใช่หรือไม่ ทั้งนี้ตนคิดว่านายชัยน่าจะลาออกจากตำแหน่งเพื่อไปเลี้ยงหลานที่บ้านจะดีกว่ามาอยู่เป็นประธานให้เด็กรุ่นหลานเขาถอนหงอก
**“เทือก”ฟัด“เหลิม”เมินจุดจบรัฐบาล
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.สพรรคเพื่อไทยระบุว่าสามารถอภิปรายได้ขั้นเทพ พูดให้แก้วกลมเป็นแบนได้ ว่า เวลาร.ต.อ.เฉลิม พูดถึงตนนั้นอย่าคิดว่าเขาชม เพราะว่าพูดให้แก้วกลมเป็นแบนมันเกินไป แต่เนื่องจากว่าร.ต.อ.เฉลิม ก็เป็นนักการเมืองเก่า เคยอภิปรายในสภามาด้วยกัน ทั้งในฐานะฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลเคยตอบโต้กันหลายครั้ง ก็เข้าใจกันดีว่าใครมีฝีมือขนาดไหนอย่างไร ก็เท่านั้น แต่ที่บอกว่าพูดกลมให้เป็นแบนได้ก็เกินไปหน่อย คงไม่ถึงขนาดนั้น เพียงแต่ตนอยากจะเรียนว่าทุกครั้งที่ตนพูดในสภา จะเห็นว่าตนเอาความจริงมาพูดไม่เคยพูดเรื่องที่ไม่จริงในสภา ทั้งหมดเป็นเรื่องจริงที่ตนนำมาเรียบเรียงแล้วก็นำเสนอในที่ประชุมสภาเท่านั้น
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยออกมาระบุว่าหลังเสร็จสิ้นการอภิปรายแล้วอาจจะเป็นจุดจบของรัฐบาล นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าจุดจบหมายความว่าอย่างไร เพราะรัฐบาลได้กำหนดเวลาแล้วว่าหลังการอภิปรายไม่นานนัก เมื่อนายกรัฐมนตรีได้ให้เวลากับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ทำงานในส่วนที่เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของเขาเสร็จแล้วนายกรัฐมนตรีก็จะพิจารณาประกาศวันยุบสภา ถ้าพูดในมุมนี้ก็ไม่ผิดอะไร\
**พท.ข้องใจลดวันซักฟอกรอถก“ชัย”
นอ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่ประธานสภาระบุว่า จะให้เวลา 3 วัน ในการอภิปรายนั้น เรื่องนี้ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงตามผลที่ประธานวิปสองฝ่ายได้พูดคุยแล้ว คือ ให้เวลาพวกเราทั้งฝ่ายค้าน 40 ชั่วโมง รัฐบาล 20 ชั่วโมง เวลาอื่นๆ อีก 6 ชั่วโมง การประชุมวันนั้น ก็เป็นไปอย่างเปิดเผยให้สื่อรับฟัง และมีการแถลงข่าวชัดเจน ที่สำคัญ ตอนฝ่ายค้านยื่นญัตตินายชัยบอกว่า ไม่ก้าวล่วงและจะขอให้วิปคุยกัน ดังนั้น เมื่อสรุปได้เวลา 40 ชั่วโมง และฝ่ายค้านก็ได้ทำการบ้านโดยเตรียมอภิปรายภายใต้กรอบเวลานั้น ดังนั้นวันที่ 8 มี.ค.นี้คณะเจรจาของพรรคจะนัดเจรจากับนายชัยว่าทำไมถึงเป็นอย่างนี้
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในตอนแรกนั้นได้มีการพูดคุยกันแล้วว่าจะให้พรรคฝ่ายค้านอภิปรายเป็นเวลา 4 วัน ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาประชาคมไปเรียบร้อยแล้ว แต่สุดท้ายกลับคำพูดของตัวเองนั้น ตนคิดว่าในวันนี้เราได้รับรู้ธาตุแท้ของทางรัฐบาลแล้วว่าเป็นอย่างไร วันนี้ตนอยากให้นายชัยและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ทบทวนคำพูดของตัวเองที่เคยกล่าวเอาไว้
ทั้งนี้คิดว่าการดำเนินการเช่นนี้น่าจะมีความตุกติก และเป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้มีนิสัยทางการเมืองเป็นอย่างไร และสังคมคงได้ตั้งข้อสังเกตแล้วว่าที่ประชุมของรัฐสภามีการแบ่งบทกันเล่น จึงข้อตั้งข้อสังเกตว่า เหตุผลที่ลดวันอภิปรายลงมา เนื่องจากนายชัยไม่ต้องการให้รัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทยถูกอภิปรายใช่หรือไม่ ทั้งนี้ตนคิดว่านายชัยน่าจะลาออกจากตำแหน่งเพื่อไปเลี้ยงหลานที่บ้านจะดีกว่ามาอยู่เป็นประธานให้เด็กรุ่นหลานเขาถอนหงอก
**“เทือก”ฟัด“เหลิม”เมินจุดจบรัฐบาล
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.สพรรคเพื่อไทยระบุว่าสามารถอภิปรายได้ขั้นเทพ พูดให้แก้วกลมเป็นแบนได้ ว่า เวลาร.ต.อ.เฉลิม พูดถึงตนนั้นอย่าคิดว่าเขาชม เพราะว่าพูดให้แก้วกลมเป็นแบนมันเกินไป แต่เนื่องจากว่าร.ต.อ.เฉลิม ก็เป็นนักการเมืองเก่า เคยอภิปรายในสภามาด้วยกัน ทั้งในฐานะฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลเคยตอบโต้กันหลายครั้ง ก็เข้าใจกันดีว่าใครมีฝีมือขนาดไหนอย่างไร ก็เท่านั้น แต่ที่บอกว่าพูดกลมให้เป็นแบนได้ก็เกินไปหน่อย คงไม่ถึงขนาดนั้น เพียงแต่ตนอยากจะเรียนว่าทุกครั้งที่ตนพูดในสภา จะเห็นว่าตนเอาความจริงมาพูดไม่เคยพูดเรื่องที่ไม่จริงในสภา ทั้งหมดเป็นเรื่องจริงที่ตนนำมาเรียบเรียงแล้วก็นำเสนอในที่ประชุมสภาเท่านั้น
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยออกมาระบุว่าหลังเสร็จสิ้นการอภิปรายแล้วอาจจะเป็นจุดจบของรัฐบาล นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าจุดจบหมายความว่าอย่างไร เพราะรัฐบาลได้กำหนดเวลาแล้วว่าหลังการอภิปรายไม่นานนัก เมื่อนายกรัฐมนตรีได้ให้เวลากับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ทำงานในส่วนที่เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของเขาเสร็จแล้วนายกรัฐมนตรีก็จะพิจารณาประกาศวันยุบสภา ถ้าพูดในมุมนี้ก็ไม่ผิดอะไร\
