xs
xsm
sm
md
lg

ทองคำยังส่อแวว!ดีดตัวขึ้น โบรกฯเตือนระวังแรงเทขาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน – โบรกฯมองราคาทองคำยังลงยาก หากสถานการณ์ในกลุ่มประเทศผู้ค้าน้ำมันยังไม่คลี่คลาย แม้ตัวเลขเศรษฐกิจของยุโรป และสหรัฐจะดูดีขึ้น มองเป็นจังหวะเหมาะต่อการขายทำกำไรเพื่อรอซื้อกลับเมื่อราคาอ่อนตัว

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท โกลเบล็กโฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงราคาทองคำว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา(4มี.ค.) ราคาทองคำโลกปิดปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จากกระแสข่าวลือ 2 เรื่อง คือ 1 ) ผู้นำลิเบียยอมรับข้อเสนอแผนการสร้างสันติภาพที่เวเนซุเอลาเสนอไป และ 2) หนังสือพิมพ์ไชน่า ซีเคียวริตีส์ เจอร์นัล ออกมาให้ความเห็นว่าธนาคารกลางจีนอาจปรับเพิ่มเพดานกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่เป็นครั้งที่ 3

ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าราคาทองคำจะฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้บ้าง ตามทิศทางเงินสกุลยูโรทีทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังที่ประชุม ECB ประกาศว่าจะติดตามการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอนาคตอันใกล้นี้ แต่ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯที่ออกมาสดใสต่อเนื่อง ก็ได้ทำให้ทองคำถูกลดความน่าสนใจในการถือครองด้วยคุณสมบัติแหล่งพักเงินชั้นดีลงไป โดยยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงเหลือเพียง 368,000 คน ดีกว่างวดก่อนและคาดการณ์ของโพลล์ที่ 388,000 คน และ 400,000 คนตามลำดับ

ทำให้แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (7 มี.ค. ) นักลงทุนควรให้พิจารณาที่ระดับ $1,417/Oz เป็นหลัก หากเปิดเช้านี้วันนี้มาแล้วสามารถยืนเหนือได้ ราคาจะไต่ระดับขึ้นต่อไปเรื่อยๆหาแนวต้านสำคัญที่ระดับ $1,450/Oz แต่ถ้ายืนเหนือไม่ได้ ราคาจะรูดลงหา $1,405/Oz และ $1,395/Oz ตามลำดับ

โดยจุดเปลี่ยนสำคัญยังอยู่ที่สถานการณ์ความรุนแรงในลิเบีย และการแพร่กระจายของวัฒนธรรมการประท้วงขับไล่รัฐบาลของประเทศผู้ผลิตน้ำมันบริเวณระแวกนั้น หากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายลงอย่างเป็นรูปธรรม ราคาก็น่าจะแกว่งตัวในเชิงบวกหรืออยู่ในภาวะลงยากต่อไป แต่ถ้าสถานการณ์คลี่คลายลงเมื่อไหร่ อาทิเช่น พันเอกกัดดาฟีเห็นพ้องกับการดำเนินการตามแผนสร้างสันติภาพ ก็เป็นไปได้ว่าราคาทองคำจะถูกทุบลงอย่างหนักทันที เพราะปัจจัยแวดล้อมที่เหลืออยู่ถือว่าเป็นผลลบกับราคาทองคำทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯในระยะหลังที่ออกมาสดใสต่อเนื่อง (โดยเฉพาะข้อมูลภาคแรงงานที่ธนาคารกลางสหรัฐฯเคยใช้เป็นข้ออ้างในการดำเนินมาตรการ QE2) และแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินเชิงเข้มงวดของธนาคารกลางยุโรป และ จีน ซึ่งอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินทั่วโลกที่ทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้น ถือเป็นปัจจัยที่บั่นทอนแรงเก็งกำไรในสินค้าโภคภัณฑ์โดยรวม

"ในมุมมองของเรายังเชื่อว่าราคาทองคำจะพักตัวลงหลุดแนว Uptrend Line ที่ $1,417/Oz ในไม่ช้า เพราะมีสัญญาณขัดแย้งเกิดขึ้นกับหลายปัจจัย อาทิเช่น สถานะถือครองทองคำของกองทุน SPDR Gold Trust และดัชนี HUI (ตัวแทนการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นบริษัทเหมืองแร่ในสหรัฐฯ) ที่ไม่ยอมทำสถิติสูงสดใหม่ตามทิศทางราคาทองคำ รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญราว 0.10-0.15% ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีโอกาสทำให้ทองคำถูกลดความน่าสนใจในฐานะสินทรัพย์ลงทุนทดแทนกันลงไป นอกจากนี้ การปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาทองคำอย่างบ้าคลั่งกว่า 10% ภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือน ย่อมจูงใจให้นักลงทุนระยะสั้นเทขายทำกำไรออกมาด้วย ซึ่งในเชิงกลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้ขายเพื่อรอซื้อกลับเมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลง โดยคาดการณ์กรอบการเคลื่อนไหวของราคาไว้ที่ $1,395-1,430/Oz หรือประมาณ 20,100-20,600 บาท/บาททอง "
กำลังโหลดความคิดเห็น