ASTVผู้จัดการรายวัน - วินเทจ วิศวกรรม กำหนดราคาขายราคาหุ้น IPO 20 ล้านหุ้น ที่ 1.60 บาท ให้ส่วนลด 15-20% แถมแจกปันผล 10 สตางค์ ตั้ง เอเชียพลัส เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายหุ้น ที่ปรึกษาการเงินแจง ราคาหุ้นที่กำหนคิดเป็น PE ที่ 8 เท่า เทียบกับผลงานสิ้นปี 53 ถือว่าให้ส่วนลดน่าจูงใจมาก โดยเข้าเทรดในตลาด nai 9 มี.ค.นี้ มั่นใจเหนือจอง
นายโสรัจ โรจนเบญจกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วินเทจ วิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ VTE เปิดเผยว่า บริษัทจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 20 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 1.60 บาท โดยให้ส่วนลด 15-20% ซึ่งจะเปิดให้จองในวันที่ 1-2 มี.ค.นี้ โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด (มหาชน) หรือASP เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของบริษัทและจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ภายในเดือน มี.ค.นี้
ทั้งนี้ ผู้ที่เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทจะมีสิทธิได้รับเงินปันผลในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น คำนวณจากนโยบายจ่ายเงินปันผลของบริษัทที่ 50% ของกำไรสุทธิ ซึ่งในปี 53 บริษัทมีกำไรสุทธิ 15.78 ล้านบาท
" มั่นใจว่าเทรดวันแรก 9 มี.ค. จะยืนเหนือจองได้ หลังจากที่ผ่านมามีนักลงทุนสถาบันในประเทศจำนวน 3-4 ราย ให้ความสนใจจะเข้ามาจองซื้อหุ้น IPO ของบริษัท นอกจากนี้บริษัทยังมี gross profit margin และ net profit ที่ดีกว่าบริษัทรับเหมาก่อสร้างทั่วไป "
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะนำไปใช้ชำระหนี้ และเพิ่มปริมาณเงินหมุนเวียนภายใน เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจรับเหมาติดตั้งงานระบบแบบครบวงจร (MEP) และคาดว่ารายได้ปี 54 จะเติบโต 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 356 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการรับรู้รายได้จากมูลค่างานในมือ (Backlog) ที่มีอยู่ ณ สิ้นปี 53 ที่ 496 ล้านบาท ประมาณ 80% และปีนี้บริษัทมีแผนเข้าประมูลงานใหม่มูลค่ารวมประมาณ 600-700 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับงานประมาณ 70% พร้อมกับพยายามที่จะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ระดับ 16-20% และกำไรสุทธิไว้ที่ 4-6% ซึ่งถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม
"เมื่อช่วงต้นปีเราประมูลงานไปแล้วกว่า 200-300 ล้านบาท ปีนี้ก็ตั้งเป้าเข้าประมูลงานรวม 600-700 ซึ่งปกติงานที่เราเข้าประมูลก็จะได้รับงานประมาณ 70% และเราก็จะพยายามรักษา gross profit margin ไว้ที่ 16-20% ที่ผ่านมาบริษัทได้เปลี่ยนมาใช้ software เพื่อควบคุมต้นทุนในการดำเนินงาน และ net profit margin ไว้ที่ 4-7%"
สำหรับปัจจัยเสี่ยงปีนี้มองว่าเป็นเรื่องทางการเมือง ที่จะทำให้การลงทุนต่าง ๆ ชะลอตัว ซึ่งช่วงที่ผ่านมาบริษัทก็ได้รับผลกระทบจากปัจจัยการเมืองด้วย จากการที่ลูกค้าได้ชะลอลงทุน ซึ่งก็ทำให้รายได้ปี 53 ถือว่าพลาดเป้าไปบ้าง แต่โดยรวมก็ยังถือว่าดูดีกว่าภาพรวมของอุตสาหกรรม
นายประทีป ยงวาณิชย์ กรรมการผู้อำนวยการ ASP ในฐานะที่ปรึกษาการเงิแนละแกนนำรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ VTE กล่าวว่า หุ้น IPO ของ VTE จะได้รับความสนใจอย่างสูงจากนักลงทุน เพราะบริษัทเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวางระบบ MEP ที่มีประสิทธิภาพสูง ทั้งในด้านคุณภาพงาน ระยะเวลาก่อสร้าง และการควบคุมต้นทุน ซึ่งบริษัทจะเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ที่ราคา 1.60 บาท คิดเป็นค่า PE ที่ 8 เท่า โดยเทียบกับผลประกอบการ 12 เดือน สิ้นสุด ธ.ค.53 ถือว่ามีส่วนลดที่จูงใจอย่างมาก เมื่อเทียบกับ PE เฉลี่ยของตลาด mai ที่ระดับ 17-18 เท่า
นายโสรัจ โรจนเบญจกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วินเทจ วิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ VTE เปิดเผยว่า บริษัทจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 20 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 1.60 บาท โดยให้ส่วนลด 15-20% ซึ่งจะเปิดให้จองในวันที่ 1-2 มี.ค.นี้ โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด (มหาชน) หรือASP เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของบริษัทและจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ภายในเดือน มี.ค.นี้
ทั้งนี้ ผู้ที่เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทจะมีสิทธิได้รับเงินปันผลในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น คำนวณจากนโยบายจ่ายเงินปันผลของบริษัทที่ 50% ของกำไรสุทธิ ซึ่งในปี 53 บริษัทมีกำไรสุทธิ 15.78 ล้านบาท
" มั่นใจว่าเทรดวันแรก 9 มี.ค. จะยืนเหนือจองได้ หลังจากที่ผ่านมามีนักลงทุนสถาบันในประเทศจำนวน 3-4 ราย ให้ความสนใจจะเข้ามาจองซื้อหุ้น IPO ของบริษัท นอกจากนี้บริษัทยังมี gross profit margin และ net profit ที่ดีกว่าบริษัทรับเหมาก่อสร้างทั่วไป "
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะนำไปใช้ชำระหนี้ และเพิ่มปริมาณเงินหมุนเวียนภายใน เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจรับเหมาติดตั้งงานระบบแบบครบวงจร (MEP) และคาดว่ารายได้ปี 54 จะเติบโต 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 356 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการรับรู้รายได้จากมูลค่างานในมือ (Backlog) ที่มีอยู่ ณ สิ้นปี 53 ที่ 496 ล้านบาท ประมาณ 80% และปีนี้บริษัทมีแผนเข้าประมูลงานใหม่มูลค่ารวมประมาณ 600-700 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับงานประมาณ 70% พร้อมกับพยายามที่จะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ระดับ 16-20% และกำไรสุทธิไว้ที่ 4-6% ซึ่งถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม
"เมื่อช่วงต้นปีเราประมูลงานไปแล้วกว่า 200-300 ล้านบาท ปีนี้ก็ตั้งเป้าเข้าประมูลงานรวม 600-700 ซึ่งปกติงานที่เราเข้าประมูลก็จะได้รับงานประมาณ 70% และเราก็จะพยายามรักษา gross profit margin ไว้ที่ 16-20% ที่ผ่านมาบริษัทได้เปลี่ยนมาใช้ software เพื่อควบคุมต้นทุนในการดำเนินงาน และ net profit margin ไว้ที่ 4-7%"
สำหรับปัจจัยเสี่ยงปีนี้มองว่าเป็นเรื่องทางการเมือง ที่จะทำให้การลงทุนต่าง ๆ ชะลอตัว ซึ่งช่วงที่ผ่านมาบริษัทก็ได้รับผลกระทบจากปัจจัยการเมืองด้วย จากการที่ลูกค้าได้ชะลอลงทุน ซึ่งก็ทำให้รายได้ปี 53 ถือว่าพลาดเป้าไปบ้าง แต่โดยรวมก็ยังถือว่าดูดีกว่าภาพรวมของอุตสาหกรรม
นายประทีป ยงวาณิชย์ กรรมการผู้อำนวยการ ASP ในฐานะที่ปรึกษาการเงิแนละแกนนำรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ VTE กล่าวว่า หุ้น IPO ของ VTE จะได้รับความสนใจอย่างสูงจากนักลงทุน เพราะบริษัทเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวางระบบ MEP ที่มีประสิทธิภาพสูง ทั้งในด้านคุณภาพงาน ระยะเวลาก่อสร้าง และการควบคุมต้นทุน ซึ่งบริษัทจะเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ที่ราคา 1.60 บาท คิดเป็นค่า PE ที่ 8 เท่า โดยเทียบกับผลประกอบการ 12 เดือน สิ้นสุด ธ.ค.53 ถือว่ามีส่วนลดที่จูงใจอย่างมาก เมื่อเทียบกับ PE เฉลี่ยของตลาด mai ที่ระดับ 17-18 เท่า