xs
xsm
sm
md
lg

ศาลปล่อยตัวโจกแดง อ้างข้อเท็จจริงเปลี่ยน สั่งห้ามปลุกระดม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ศาลยกเหตุผล มีข้อเท็จจริงบางประการทำให้มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว 7 โจกแดงเผาเมือง และ 1 แนวร่วม นชป.พร้อมกำหนดเงื่อนไข ห้ามปลุกระดม ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ นายกฯ ชี้ เป็นดุลพินิจของศาล ระบุ ไม่สามารถประเมินว่า นปช.จะตัดสินใจยกเลิกการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 12 มี.ค.นี้  "ณัฐวุฒิ"ประกาศพวกผมกลับมาแล้ว

วานนี้(22 ก.พ.)ที่ห้องพิจารณาคดี 704 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่งขอปล่อยตัวชั่วคราว นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายนิสิต สินธุไพร นายขวัญชัย ไพรพนา นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก และนายภูมิกิตติ สุขจินดาทอง จำเลยที่ 3,4,5,6,7,8,10 และ 11 รวม 8 คน ในคดีร่วมกันก่อการร้าย ซึ่งได้ยื่นประกันตัวเมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยนัดนี้มีนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการประธาน นปช. ทีมทนายความ และกลุ่มภรรยาของจำเลยทั้ง 8 คน เดินทางร่วมฟังคำสั่ง
         
ศาลมีคำสั่งว่า พิเคราะห์ข้อเท็จจริงที่ได้จากการไต่สวนแล้วเห็นว่า กรณีมีข้อเท็จจริงบางประการที่จะให้มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงจากคำสั่งเดิมได้ จึงเห็นควรอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว จำเลยที่ 3, 4, 5, 6, 7, 8, 10 และ 11 โดยตีราคาหลักประกันคนละ 600,000 บาท ทั้งนี้ห้ามมิให้จำเลยดังกล่าวกระทำการอันเป็นการยั่วยุ ปลุกปั่น ปลุกระดม เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือ กระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน อันที่จะทำให้เกิดความไม่สงบขึ้นในราชอาญาจักรหรือให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน และห้ามจำเลยดังกล่าวเดินทางออกนอกราชอาญาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล
         
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การอ่านคำสั่งในครั้งนี้ ศาลได้ขึ้นนั่งบัลลังก์ถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกศาลได้ขึ้นนั่งบัลลังก์เพื่ออ่านคำสั่ง แต่เนื่องจากเกิดฝนตกหนักและกระแสไฟภายในศาลเกิดกระตุก ทำให้ผู้พิพากษาต้องขอเวลาพักการอ่านและลงจากบัลลังก์ โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที จากนั้นศาลจึงขึ้นนั่งบัลลังก์เพื่ออ่านคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยทั้ง 8 คน
          
ต่อมานายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ นปช. ได้นำหลักทรัพย์ยื่นประกันจำเลยทั้ง 8 คนละ 600,000 บาท ขณะเดียวกันยังยื่นประกันตัวนายณัฐวุฒิ นายวิภูแถลง และนพ.เหวง คนละ 200,000 บาท ในคดีที่ทั้ง 3 คน เป็นจำเลยกรณีบุกบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี พร้อมกับยื่นประกันนายยศวริศ หรือเจ๋ง ดอกจิก อีกจำนวน 1,000,000 บาท ในคดีปล้นอาวุธปืน และหมิ่นเบื้องสูงอีกด้วย
         
**"ธิดา"ยังไม่สรุป 12 มี.ค.ชุมนุมหรือไม่

ภายหลังนางธิดา กล่าวว่า เมื่อได้รับการประกันตัวแล้ว จำเลยทั้งหมดย่อมมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญ และเชื่อว่าจำเลยทุกคนจะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลวางข้อกำหนดไว้ ส่วนการชุมนุมวันที่ 12 มี.ค.54 จะมีการชุมนุมที่หน้าศาลอาญาอีกหรือไม่ จะหารือกันอีกครั้งในวันที่ 23 ก.พ.54 ส่วนแกนนำทั้ง 7 จะขึ้นเวทีด้วยหรือไม่นั้นเป็นสิทธิของแต่ละคน สำหรับประเด็นปัญหาในการเคลื่อนไหวของนปช.คือปัญหาปากท้องของประชาชนและปัญหาความยุติธรรม และวันนี้นับเป็นสัญญาณที่ดีในการแก้ปัญหาความเท่าเทียมกัน เป็นความโชคดีของประเทศไทย ที่มีการเริ่มต้นจากกระบวนการยุติธรรม เปรียบเสมือนแสงสว่างให้กับแนวร่วมนปช.คนอื่นๆ อีก
     
**"มาร์ค"ชี้เป็นดุลพินิจของศาล**
    
เวลา 16.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลอาญาได้มีคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราวแกนนำ นปช. ว่าเป็นดุลพินิจของศาล และศาลก็คงดูแล้ว และเข้าใจว่าคงมีเงื่อนไขอยู่ในเรื่องของการที่บุคคลเหล่านี้ต้องไม่มาทำอะไรที่ทำให้เกิดปัญหา เกิดการยั่วยุอีก ซึ่งก่อนหน้านี้นายวีระ มุสิกพงษ์ แกนนำเสื้อแดง ที่ได้รับการประกันตัวออกมา ซึ่งก็เป็นการดำเนินการซึ่งหลักจริงๆ ของคณะกรรมการของนายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป. )ซึ่งรัฐบาลได้ตั้งขึ้น และท่านก็มีความเห็น แล้วเสนอต่อศาล แต่ก็เป็นดุลพินิจของศาล ในส่วนของหน่วยงานรัฐ เราได้ใช้มาตรฐานเดิม คือการค้านหรือไม่ค้าน

เมื่อถามว่า แต่ภาพที่ออกมาว่าหลังจากที่มีการนำคนไปชุมนุมหน้าศาลอาญา จึงทำให้มีการปล่อยตัวออกมา ซึ่งอาจจะส่งผลต่อกระบวนการยุติธรรม เป็นระยะยาวหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ศาลคงต้องเป็นผู้ชี้แจงรายละเอียด เพราะเป็นดุลพินิจของศาล เมื่อถามต่อว่า การค้านหรือไม่ค้านนั้น เรายึดหลักอะไร นายกฯ กล่าวว่า มันจบไปแล้วตอนนี้ จบไปแล้ว แต่ว่าส่วนใหญ่เราก็ใช้ข้อมูลเดิมที่เรามีอยู่

**ขอให้เดินไปสู่การเลือกตั้ง

เมื่อถามว่า เรื่องนี้เป็นเงื่อนไขในข้อเรียกร้องของคนเสื้อแดงในการนัดชุมนุมมาโดยตลอด เมื่อทางแกนนำได้รับการปล่อยมาแล้ว นายกฯ หวังหรือไม่ว่าจะมีการยกเลิกการชุมนุมใหญ่ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 12 มีนาคมนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคงไม่กล้าไปพูดทางหนึ่งทางใดเกี่ยวกับการตัดสินใจของเขา แต่ว่าอยากจะย้ำอีกครั้งว่า เวลานี้เราน่าจะพยายามที่จะคลี่คลายสถานการณ์เพื่อเดินไปสู่การเลือกตั้ง ซึ่งค่อนข้างที่จะชัดเจนขึ้นว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอีกไม่ไกลแล้ว ฉะนั้น ถ้าหากเราทำให้ระบบการเมืองกลับไปสู่จุดนั้นได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี

เมื่อถามว่า ทางนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นห่วงอะไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนได้สอบถามความคืบหน้างานทางด้านต่างๆ ซึ่งก็มีความคืบหน้าไป เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องการปล่อยตัวแกนนำเสื้อแดง หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีหรอกครับ ซึ่งท่านถือว่าได้ทำหน้าที่ของท่านแล้ว
 
**ฝ่ายความมั่นคงเรียงคิวถก“มาร์ค”**

ขณะเดียวกันหลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติต่ออายุพระราชบัญญัติความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และศาลอาญาให้ประกัน 7 แกนนำนปช.และ1 แนวร่วมฯผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน กอ.รมน. เป็นประธานในการประชุมกอ.รมน.ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เสร็จสิ้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้หารือร่วมกับนายกฯโดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที โดยนายธาริต ได้เดินออกไป  หลังจากนั้น พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ได้เข้ารายงานสถานการณ์ทางการเมืองต่อนายกฯโดยมี พล.อ.ประวิตร นั่งร่วมพูดคุยด้วย จากนั้นพล.อ.ประวิตร พร้อมด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และพล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ เป็นผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เข้าพูดคุยกับนายกฯเป็นเวลา 10 นาที

**8 นปช.เดินจับมือออกจากคุก
   
ต่อมาเวลา 19.45 น.ที่บริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ศาลได้นำหมายปล่อยตัว เดินทางไปถึงเรือนจำเพื่อให้ปล่อยตัวชั่วคราว จำเลยทั้ง 8 คน ผู้สื่อข่าวรายงาน ทันทีที่ประตูเรือนจำชั้นในเปิดออก กลุ่มแกนนำทั้ง 8 คน ได้จับมือเดินกันออกมาในชุดเสื้อขาว จนถึงประตูชั้นนอกสุด โดยเดิมที กลุ่ม นปช.ที่เดินทางไปคอยให้กำลังใจจำเลยทั้ง 8 คน ได้ตกลงกันว่า จะให้ครอบครับของจำเลย เป็นผู้ยืนรอรับอยู่ที่ประตูชั้นนอกเป็นกลุ่มแรก ตามด้วยกลุ่มช่างภาพสื่อมวลชน และกลุ่มคนเสื้อแดงที่เดินทางไปให้กำลังใจ ให้ตั้งแถวหน้ากระดานเรียงกันไป แต่ปรากฏว่า ทันที่ที่จำเลยทั้ง 8 คน ก้าวพ้นประตูชั้นอกสุดออกมา ได้เกิดความวุ่นวายขึ้นทันที เมื่อกลุ่มคนเสื้อแดง และกลุ่มสื่อมวลชน ต่างคนต่างพยายามโหมเข้าไปหากลุ่มจำเลยที่เดินออกมา ทำให้เกิดการดันกันไปดันกันมากว่า 10 นาที จนในที่สุด ทางการ์ดของนปช. จึงให้นายณัฐวุฒิ ขึ้นขี่คอ พร้อมให้พูดทางโทรโข่งกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่พยายามโหมเข้าไปออกันอย่างแออัด

**"ณัฐวุฒิ"ประกาศพวกผมกลับมาแล้ว
         
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า พี่น้องคนเสื้อแดง และคนทั่วโลกที่กำลังต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอยู่ ตนพร้อมกับพวกรวม 8 คน ขอขอบคุณในความห่วงใย และความปรารถนาดีที่พี่น้องคนเสื้อแดงมอบให้ ตั้งแต่วินาทีแรกที่สิ้นอิสระภาพ จนถึงวินาทีแรกที่ได้กลับออกมา แม้จะอยู่ข้างใน จะมีความทุกข์แสนสาหัสที่ไม่ได้อยู่ร่วมต่อสู้กับครอบครัวที่อยู่ข้างนอก แต่ถือว่าเป็นเรื่องน้อยนิด หากเทียบกับชีวิตของพี่น้องผู้บริสุทธิ์ที่ต้องสูญเสียไป
         
"ขอกราบเรียนพี่น้องเสื้อแดงและประชาชนที่เอาใจช่วยทุกคนว่า พวกผมกลับมาแล้ว กลับมาพร้อมจิตวิญญาณ จุดยืน อุดมการณ์ และชีวิตที่พร้อมเคียงข้างพี่น้องเสื้อแดง เพื่อประชาธิปไตยอย่างแท้จริง"นายณัฐวุฒิ กล่าวผ่านโทรโข่ง

**เดินหน้าขอปล่อยคนเสื้อแดงออกจากคุก**
         
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า หลังจากออกจากเรือนจำในวันนี้ สิ่งที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน คือการติดตามการเยียวยา ให้กับญาติผู้เสียชีวิต และพี่น้องที่ได้รับาดเจ็บ หลังจากนั้น จะดำเนินการภายใต้กรอบกฏหมาย เพื่อให้พี่น้องเสื้อแดงทั่วประเทศที่ยังถูกคุมขังทั่วประเทศ ได้รับการประกันตัวเช่นเดียวกันกับพวกตน
         
ต่อมา เมื่อนายณัฐวุฒิ ได้ลงจากคอของการ์ดนปช.แล้ว นพ.เหวง โตจิราการ ได้ขึ้นขี่คอการ์ด พร้อมกล่าวผ่านโทรโข่งเช่นกันว่า ขอขอบคุณศาลที่กรุณา ที่มอบสิทธิเสรีภาพให้กับพวกเรา แม้จะต้องใช้เวลานานถึง 9 เดือนก็ตาม ความจริงแล้ว เรือนจำ สามารถขังพวกตนได้ แต่ไม่สามารถขังจิตวิญญาณเพื่อประชาธิปไตยของพวกตนได้ หลังจากนี้ จะดำเนินการให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง และจบสิ้นกันทีกับการัฐประหาร
         
**ส่งตัว"สุรชัย แซ่ด่าน"ขังคุก

วันเดียวกันที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ได้ควบคุมตัว นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือสุรชัย แซ่ด่าน อายุ 68 ปี แกนนำกลุ่มแดงสยาม ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาเลขที่ 27/2554 ลงวันที่ 4 ม.ค.54 ในข้อหาดูหมิ่น หรือ แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตามป.อาญามาตรา 112 มาฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ. - 5 มี.ค. 54 เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น

โดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.53 เวลา 18.30 น. ถึงเวลา 21.00 น. ผู้ต้องหาได้พูดปราศรัยท่ามกลางประชาชนที่มาเข้าฟังประมาณ 1,000 คน ในงาน “เสวนาตาสว่างครั้งที่ 2 โดย 4 ส.” ที่ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ชั้น 6 ห้างอิมพิเรียลลาดพร้าว โดยมีการใช้เครื่องกระจายเสียงปราศรัย พาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ในทางเสียหาย ซึ่งเจ้าพนักงานได้บันทึกภาพเคลื่อนไหว และภาพนิ่งไว้เป็นหลักฐานก่อนจะขอให้ศาลออกหมายจับ
          
สำหรับ นายสุรชัย เคยถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีอาญาที่ อ.3444/2553 ในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูงเช่นเดียวกันโดยคดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาสืบพยานโจทก์ ทั้งนี้ ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ศาลพิจารณาคำร้องแล้วสอบถามผู้ต้องหาไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้
กำลังโหลดความคิดเห็น