แกนนำคนเสื้อแดง 7 คน กับแนวร่วมอีก 1 คน ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำแล้ว ท่ามกลางการแสดงความยินดีของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ไปรอรับอถึงหน้าเรือนจำ “ณัฐวุฒิ” ลั่น “พวกผมกลับมาแล้ว” พร้อมจิตวิญญาณและอุดมการณ์เพื่อประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ขณะที่ “หมอเหวง” ย้ำจบกันทีสำหรับการรัฐประหาร ส่วน “วิภูแถลง” อ้อนอยากไปกราบถึงตักเสื้อแดงทุกคน จากนั้นทั้งหมดขึ้นปราศรัยทักทายกลุ่มเสื้อแดง ทำให้รถติดอย่างหนัก ก่อนที่จะทยอยกันเดินทางกลับบ้านไปกับครอบครัว
วันนี้ (22 ก.พ.) เมื่อเวลา 19.45 น. ที่บริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ศาล ได้นำหมายปล่อยตัว เดินทางไปถึงเรือนจำแล้ว เพื่อให้ปล่อยตัวชั่วคราว นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายนิสิต สินธุไพร นายขวัญชัย ไพรพนา นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก และนายภูมิกิตติ สุขจินดาทอง จำเลยที่ 3, 4, 5 , 6, 7, 8, 10 และ11 รวม 8 คน ในคดีร่วมกันก่อการร้าย ตามคำสั่งศาลแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงาน ทันทีที่ประตูเรือนจำชั้นในเปิดออก กลุ่มแกนนำทั้ง 8 คนได้จับมือเดินกันออกมาในชุดเสื้อขาวจนถึงประตูชั้นนอกสุด โดยเดิมทีกลุ่ม นปช.ที่เดินทางไปคคอยให้กำลังใจจำเลยทั้ง 8 คน ได้ตกลงกันว่าจะให้ครอบครัวของจำเลยเป็นผู้ยืนรอรับอยู่ที่ประตูชั้นนอกเป็นกลุ่มแรก ตามด้วยกลุ่มช่างภาพสื่อมวลชน และกลุ่มคนเสื้อแดงที่เดินทางไปให้กำลังใจ ให้ตั้งแถวหน้ากระดานเรียงกันไป แต่ปรากฏว่าทันทีที่จำเลยทั้ง 8 คนก้าวพ้นประตูชั้นอกสุดออกมาได้เกิดความวุ่นวายขึ้นทันที เมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงและกลุ่มสื่อมวลชนต่างคนต่างพยายามโหมเข้าไปหากลุ่มจำเลยที่เดินออกมาทำให้เกิดการดันกันไปดันกันมากว่า 10 นาที จนในที่สุด ทางการ์ดของ นปช.จึงให้นายณัฐวุฒิขึ้นขี่คคอ พร้อมให้พูดทางโทรโข่งกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่พยายามโหมเข้าไปอออกันอย่างแออัด
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า พี่น้องคนเสื้อแดงและคนทั่วโลกที่กำลังต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอยู่ ตนพร้อมกับพวกรวม 8 คน ขอขอบคุณในความห่วงใย และความปรารถนาดีที่พี่น้องคนเสื้อแดงมอบให้ ตั้งแต่วินาทีแรกที่สิ้นอิสรภาพ จนถึงวินาทีแรกที่ได้กลับออกมา แม้จะอยู่ข้างใน จะมีความทุกข์แสนสาหัสที่ไม่ได้อยู่ร่วมต่อสู้กับครอบครัวที่อยู่ข้างนอก แต่ถือว่าเป็นเรื่องน้อยนิดหากเทียบกับชีวิตของพี่น้องผู้บริสุทธิ์ที่ต้องสูญเสียไป
“ขอกราบเรียนพี่น้องเสื้อแดงและประชาชนที่เอาใจช่วยทุกคนว่า พวกผมกลับมาแล้ว กลับมาพร้อมจิตวิญญาณ จุดยืน อุดมการณ์ และชีวิตที่พร้อมเคียงข้างพี่น้องเสื้อแดง เพื่อประชาธิปไตยอย่างแท้จริง” นายณัฐวุฒิกล่าวผ่านโทรโข่ง
นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า หลังจากออกจากเรือนจำในวันนี้ สิ่งที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน คือการติดตามการเยียวยาให้กับญาติผู้เสียชีวิต และพี่น้องที่ได้รับาดเจ็บ หลังจากนั้นจะดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายเพื่อให้พี่น้องเสื้อแดงทั่วประเทศที่ยังถูกคุมขังทั่วประเทศได้รับการประกันตัวเช่นเดียวกันกับพวกตน
“พี่น้องทุกท่าน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ ไม่ว่าจะสูญเสียอิสรภาพไปอีกครั้ง พวกผม ชีวิตที่เหลืออยู่จะมอบให้กับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริงของประชาชน ขอขอบคุณศาลที่ให้อิสรภาพกับพวกผมในวันนี้ และหวังว่าอิสรภาพจะไปทั่วถึงกับพี่น้องคนเสื้อแดงที่ยังอยู่ในเรือนจำ ขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมผลักดันให้มีวันนี้ เพราะจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการปรองดอง สมานฉันท์ และสร้างประชาธิปไตยร่วมกัน หลังจากนี้ผมจะขออนุญาตไปใช้ชีวิตกับครอบครัวเพียงไม่กี่วัน หลังจากนั้นต่อไปทุกวันจะเป็นชีวิตเพื่อประชาธิปไตย” นายณัฐวุฒิกล่าวท่ามกลางการปรบมือและโห่ร้องแสดงความยินดีของมวลชนคนเสื้อแดง
ต่อมาเมื่อนายณัฐวุฒิได้ลงจากคอของการ์ด นปช.แล้ว นพ.เหวง โตจิราการ ได้ขึ้นขี่คอการ์ด พร้อมกล่าวผ่านโทรโข่งเช่นกันว่า ขอขอบคุณศาลที่กรุณาที่มอบสิทธิเสรีภาพให้กับพวกเรา แม้จะต้องใช้เวลานานถึง 9 เดือนก็ตาม ความจริงแล้วเรือนจำสามารถขังพวกตนได้ แต่ไม่สามารถขังจิตวิญญาณเพื่อประชาธิปไตยของพวกตนได้ หลังจากนี้จะดำเนินการให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง และจบสิ้นกันทีกับการรัฐประหาร
ขณะเดียวกัน เมื่อ นพ.เหวงลงจากคอการ์ด นายวิภูแถลงได้ขึ้นขี่คอและกล่าวผ่านโทรโข่งว่า หากเป็นไปได้จะเข้าไปกราบที่ตักของพี่น้องทุกคน จริงๆ แล้วพี่น้องที่เป็นวีรบุรุษการต่อสู้ที่แท้จริง คือพี่น้องที่บาดเจ็บและเสียชีวิต ขอฝากพี่น้องเสื้อแดงทุกคน อย่าลืมพี่น้องเสื้อแดงที่ยังอยู่ในเรือนจำ อย่างไรก็ตาม ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พี่น้องทุกคนนับถือคุ้มครองให้ปราศจากภยันตรายทั้งปวง
หลังจากที่นายวิภูแถลงพูดจบ แกนนำ นปช.พร้อมแนวร่วมรวม 8 คนที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในวันนี้ได้เดินเกาะกลุ่มกันออกมา ก่อนที่จะทยอยกันขึ้นปราศรัยทักทายกลุ่มเสื้อแดงที่มาปักหลักรอ ท่ามกลางเสียงโห่ร้อง ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก ประชาชนต้องลงจากรถประจำทางเพื่อเดินบนทางเท้า เมื่อแกนนำเดินทางกลับบ้านไปกับครอบครัว การจราจรก็เคลื่อนตัวได้ปกติ ส่วนมวลชนคนเสื้อแดงก็ทยอยเดินทางกลับไปจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครเช่นเดียวกัน
วันนี้ (22 ก.พ.) เมื่อเวลา 19.45 น. ที่บริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ศาล ได้นำหมายปล่อยตัว เดินทางไปถึงเรือนจำแล้ว เพื่อให้ปล่อยตัวชั่วคราว นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายนิสิต สินธุไพร นายขวัญชัย ไพรพนา นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก และนายภูมิกิตติ สุขจินดาทอง จำเลยที่ 3, 4, 5 , 6, 7, 8, 10 และ11 รวม 8 คน ในคดีร่วมกันก่อการร้าย ตามคำสั่งศาลแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงาน ทันทีที่ประตูเรือนจำชั้นในเปิดออก กลุ่มแกนนำทั้ง 8 คนได้จับมือเดินกันออกมาในชุดเสื้อขาวจนถึงประตูชั้นนอกสุด โดยเดิมทีกลุ่ม นปช.ที่เดินทางไปคคอยให้กำลังใจจำเลยทั้ง 8 คน ได้ตกลงกันว่าจะให้ครอบครัวของจำเลยเป็นผู้ยืนรอรับอยู่ที่ประตูชั้นนอกเป็นกลุ่มแรก ตามด้วยกลุ่มช่างภาพสื่อมวลชน และกลุ่มคนเสื้อแดงที่เดินทางไปให้กำลังใจ ให้ตั้งแถวหน้ากระดานเรียงกันไป แต่ปรากฏว่าทันทีที่จำเลยทั้ง 8 คนก้าวพ้นประตูชั้นอกสุดออกมาได้เกิดความวุ่นวายขึ้นทันที เมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงและกลุ่มสื่อมวลชนต่างคนต่างพยายามโหมเข้าไปหากลุ่มจำเลยที่เดินออกมาทำให้เกิดการดันกันไปดันกันมากว่า 10 นาที จนในที่สุด ทางการ์ดของ นปช.จึงให้นายณัฐวุฒิขึ้นขี่คคอ พร้อมให้พูดทางโทรโข่งกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่พยายามโหมเข้าไปอออกันอย่างแออัด
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า พี่น้องคนเสื้อแดงและคนทั่วโลกที่กำลังต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอยู่ ตนพร้อมกับพวกรวม 8 คน ขอขอบคุณในความห่วงใย และความปรารถนาดีที่พี่น้องคนเสื้อแดงมอบให้ ตั้งแต่วินาทีแรกที่สิ้นอิสรภาพ จนถึงวินาทีแรกที่ได้กลับออกมา แม้จะอยู่ข้างใน จะมีความทุกข์แสนสาหัสที่ไม่ได้อยู่ร่วมต่อสู้กับครอบครัวที่อยู่ข้างนอก แต่ถือว่าเป็นเรื่องน้อยนิดหากเทียบกับชีวิตของพี่น้องผู้บริสุทธิ์ที่ต้องสูญเสียไป
“ขอกราบเรียนพี่น้องเสื้อแดงและประชาชนที่เอาใจช่วยทุกคนว่า พวกผมกลับมาแล้ว กลับมาพร้อมจิตวิญญาณ จุดยืน อุดมการณ์ และชีวิตที่พร้อมเคียงข้างพี่น้องเสื้อแดง เพื่อประชาธิปไตยอย่างแท้จริง” นายณัฐวุฒิกล่าวผ่านโทรโข่ง
นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า หลังจากออกจากเรือนจำในวันนี้ สิ่งที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน คือการติดตามการเยียวยาให้กับญาติผู้เสียชีวิต และพี่น้องที่ได้รับาดเจ็บ หลังจากนั้นจะดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายเพื่อให้พี่น้องเสื้อแดงทั่วประเทศที่ยังถูกคุมขังทั่วประเทศได้รับการประกันตัวเช่นเดียวกันกับพวกตน
“พี่น้องทุกท่าน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ ไม่ว่าจะสูญเสียอิสรภาพไปอีกครั้ง พวกผม ชีวิตที่เหลืออยู่จะมอบให้กับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริงของประชาชน ขอขอบคุณศาลที่ให้อิสรภาพกับพวกผมในวันนี้ และหวังว่าอิสรภาพจะไปทั่วถึงกับพี่น้องคนเสื้อแดงที่ยังอยู่ในเรือนจำ ขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมผลักดันให้มีวันนี้ เพราะจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการปรองดอง สมานฉันท์ และสร้างประชาธิปไตยร่วมกัน หลังจากนี้ผมจะขออนุญาตไปใช้ชีวิตกับครอบครัวเพียงไม่กี่วัน หลังจากนั้นต่อไปทุกวันจะเป็นชีวิตเพื่อประชาธิปไตย” นายณัฐวุฒิกล่าวท่ามกลางการปรบมือและโห่ร้องแสดงความยินดีของมวลชนคนเสื้อแดง
ต่อมาเมื่อนายณัฐวุฒิได้ลงจากคอของการ์ด นปช.แล้ว นพ.เหวง โตจิราการ ได้ขึ้นขี่คอการ์ด พร้อมกล่าวผ่านโทรโข่งเช่นกันว่า ขอขอบคุณศาลที่กรุณาที่มอบสิทธิเสรีภาพให้กับพวกเรา แม้จะต้องใช้เวลานานถึง 9 เดือนก็ตาม ความจริงแล้วเรือนจำสามารถขังพวกตนได้ แต่ไม่สามารถขังจิตวิญญาณเพื่อประชาธิปไตยของพวกตนได้ หลังจากนี้จะดำเนินการให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง และจบสิ้นกันทีกับการรัฐประหาร
ขณะเดียวกัน เมื่อ นพ.เหวงลงจากคอการ์ด นายวิภูแถลงได้ขึ้นขี่คอและกล่าวผ่านโทรโข่งว่า หากเป็นไปได้จะเข้าไปกราบที่ตักของพี่น้องทุกคน จริงๆ แล้วพี่น้องที่เป็นวีรบุรุษการต่อสู้ที่แท้จริง คือพี่น้องที่บาดเจ็บและเสียชีวิต ขอฝากพี่น้องเสื้อแดงทุกคน อย่าลืมพี่น้องเสื้อแดงที่ยังอยู่ในเรือนจำ อย่างไรก็ตาม ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พี่น้องทุกคนนับถือคุ้มครองให้ปราศจากภยันตรายทั้งปวง
หลังจากที่นายวิภูแถลงพูดจบ แกนนำ นปช.พร้อมแนวร่วมรวม 8 คนที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในวันนี้ได้เดินเกาะกลุ่มกันออกมา ก่อนที่จะทยอยกันขึ้นปราศรัยทักทายกลุ่มเสื้อแดงที่มาปักหลักรอ ท่ามกลางเสียงโห่ร้อง ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก ประชาชนต้องลงจากรถประจำทางเพื่อเดินบนทางเท้า เมื่อแกนนำเดินทางกลับบ้านไปกับครอบครัว การจราจรก็เคลื่อนตัวได้ปกติ ส่วนมวลชนคนเสื้อแดงก็ทยอยเดินทางกลับไปจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครเช่นเดียวกัน
