ลำปาง - กรมสอบสวนคดีพิเศษ รับเป็นเจ้าภาพสอบนายทุนฮุบพื้นที่ป่าแม่ตุ๋ยฝั่งซ้าย(ป่าแม่เมาะแปลง2) หลังชาวบ้านทนไม่ไหวต้องยกทีมเข้ารื้อถอนรั้วลวดหนามที่กลุ่มนายทุนนำมากั้นไม่ให้ชาวบ้านเข้าทำมาหากิน ทั้งๆที่จังหวัดมีมติให้นำพื้นที่ทั้งหมด รวม 22,400 ไร่ คืนสถานะเป็นป่าที่สงวนไว้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
รายงานข่าวจากจังหวัดลำปาง แจ้งว่า สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มชาวบ้าน 4 ตำบลในเขตอ.แม่เมาะ รวมกว่า 500 คน นำโดยนายบุญสม ชมพูมิ่ง ประธานชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสุขภาพจังหวัดลำปาง ได้ยกขบวนเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าแม่ตุ๋ยฝั่งซ้าย (ป่าแม่เมาะแปลง 2) ในส่วนที่ ครม.มีมติสงวนไว้ให้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน จำนวน 22,400 ไร่
ทั้งนี้ พบว่าพื้นที่บ้านแม่ก๋ง ต.บ้านเปา บ้านศรีดอนชัย ต.ต้นธงชัย กว่า 2,000 ไร่ ถูกนายทุนนำรั้วลวดหนามมากั้นเป็นรั้วล้อมรอบพื้นที่ ทำให้ประชาชนไม่สามารถเข้าใช้ประโยชน์และหากินตามธรรมชาติได้ จากเดิมบริเวณดังกล่าวเป็นป่าชุมชน ปัจจุบันกลายเป็นป่าโล่งเตียน โดยนายทุนเริ่มนำต้นปาล์มน้ำมันและยางพารามาปลูกบ้างแล้ว ชาวบ้านทั้งหมดจึงได้เข้ารื้อถอนเสา - รั้วลวดหนามออก พร้อมกับตัดทำลายต้นปาล์มน้ำมันไปบางส่วน
ก่อนที่เรื่องจะบานปลาย ว่าที่ร.ต.นาวิน มิ่งเชื้อ ปลัดอำเภอเมืองลำปาง ฝ่ายความมั่นคง ได้เข้าเจรจากับกลุ่มชาวบ้าน โดยขออย่าทำลายทรัพย์สินของนายทุน แต่ให้ชาวบ้านเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บุกรุก และให้นำป้ายมีข้อความว่า บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าส่วนกลางที่สงวนไว้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ผู้ใดเข้าครอบครองถือว่าเป็นผู้บุกรุกมาติดตั้งไว้
ซึ่งชาวบ้านก็ได้ให้ความร่วมมือ ยุติการเข้าทำลายพืชไร่ พืชสวนที่นายทุนปลูก หยุดรื้อลวดหนามออก และได้รวมตัวกันเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายทุน ที่ สภ.เมืองลำปาง
ล่าสุด ดีเอสไอรับเป็นเจ้าภาพในการตรวจสอบพื้นที่ป่าแม่เมาะแปลง2 โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่มีหน้าที่เพียงรวบรวมข้อมูลให้เท่านั้น โดยจะการรวบรวมข้อมูลของตำรวจจะใช้เวลา 1 สัปดาห์ ก่อนที่จะส่งให้ ดีเอสไอ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ผืนป่าแม่ตุ๋ยฝั่งซ้าย หรือป่าแม่เมาะแปลง 2 มีเนื้อที่รวมทั้งหมด 45,000 ไร่ อยู่ในเขตพื้นที่ อ.เมืองลำปาง เชื่อมต่อ 5 ตำบล คือ ทุ่งฝาย ต้นธงชัย บ้านเป้า บ้านเอื้อม และบ่อแฮ้ว ห่างจากศาลากลางไปทางทิศเหนือเพียง 5 กิโลเมตร(กม.)เศษ ครม.เคยมีมติให้จำแนกเป็นป่าเตรียมการ(ป่าไม้ถาวร) เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2513 และเมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2520 จะมีมติเพิกถอนสภาพป่าเตรียมการในพื้นที่บางส่วนประมาณ 22,400 ไร่ นำมาจัดสรรให้ราษฎรทำกิน โดยไม่ให้กรรมสิทธิ์
แต่ปรากฏว่าหลายปีที่ผ่านมา
นอกจากจะไม่สามารถดำเนินการจัดสรรให้ชาวบ้านใช้ประโยชน์ร่วมกันแล้ว ยังถูกนายทุนบุกรุกเย้ยกฎหมายอย่างหนัก เช่นวันที่ 3 ม.ค. 2554 พล.ต.ต.อรรถกิจ กรณ์ทอง ผบก.ภ.จว.ลำปาง ได้รับแจ้งว่าป่าแม่เมาะแปลง 2 ซึ่งอยู่ด้านทิศตะวันตกของบ้านจำบอน หมู่ที่ 9 ต.ต้นธงชัย อ.เมือง จ.ลำปาง ถูกนายทุนนำเครื่องจักรเข้าบุกรุกแผ้วถาง จึงได้สั่งการให้กำลังเจ้าหน้าที่ นปพ.ภ.จว.ลำปาง ตรวจสอบพบว่ามีการใช้รถแบ็กโฮและรถแทร็กเตอร์บุกรุกจริงแต่ไม่มีผู้แสดงตัวเป็นเจ้าของ จึงได้ยึดรถทั้งสองคันไว้เพื่อตรวจสอบหาเจ้าของ
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ป่าไม้โดยนายจรัส นีรนาทไพบูรณ์ หน.สายตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ภาคเหนือตอนบนกรมป่าไม้ โดยใช้เครื่องจีพีเอสตรวจสอบพิกัดพบว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และ ป่าแม่เมาะแปลง 2
วันที่ 6 ก.พ. 2554 เจ้าหน้าที่ชุดเดิมได้รับแจ้งว่าป่าแม่ตุ๋ยฯ ที่ติดด้านบ้านหมู่ที่ 3 ต.บ้านเป้า อ.เมือง มีการนำเครื่องจักรเข้าไปบุกรุก จึงเดินทางไปตรวจสอบพบนายวันชัย เชาวลิต หัวหน้า สนง.กองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตำแหน่งพนักงานสงเคราะห์สวนยาง 7 พร้อมเครื่องจักรรถแบ็กโฮ กำลังแผ้วถางป่าอยู่เจ้าหน้าที่จึงเข้าสอบถาม และวันต่อมาได้เข้าตรวจสอบพิกัดจนทราบว่าอยู่ในพื้นที่ป่าแม่เมาะแปลง 2 จริง จึงแจ้งข้อหาแก่นายวันชัยว่ากระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ม.54 ฐานก่อสร้างแผ้วถางหรือเผาป่าหรือกระทำด้วยประการใดอันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดหรือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
นายวันชัย ได้กล่าวว่า คงต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ตนไม่ได้มีเจตนาที่จะบุกรุกป่า แต่ที่ดินดังกล่าวตนซื้อต่อมาในสภาพเป็นไร่อ้อยจากชาวบ้าน โดยไม่มีกรรมสิทธิ์ แต่ทราบว่าผืนดินบริเวณนี้สามารถทำการเกษตรได้ และทราบว่าเป็นป่าแม่เมาะแปลง2 แต่ไม่ได้เป็นป่าสงวน อีกทั้งขณะนี้สภาพทั่วไปนั้นไม่มีสภาพป่าอยู่แล้ว ตนและญาติได้ซื้อที่ดินบริเวณดังกล่าวไว้รวม 200 ไร่
อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแล้วกลับพบว่าพื้นที่ทั้งหมดที่ถูกแผ้วถางมีรวมถึง 1,500 ไร่
วันต่อมา(7 ก.พ.54) ขณะที่เจ้าหน้าที่ นปพ.พร้อมชาวบ้าน เข้าไปในพื้นที่เดิมเพื่อตัดไม้ที่ถูกโค่นทิ้งนำมาประกอบในคดี กลับพบเจ้าของที่รายเดิมว่าจ้างรถแทร็กเตอร์เข้าปรับพื้นที่อีก จึงได้ล้อมจับได้ทั้งรถและคน จากนั้นเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมดพบว่ามีต้นไม้ทั้งเล็ก-ใหญ่ ซึ่งมีทั้งไม้มะกอกป่า กระยาเลย ไม้สัก ถูกโค่นซ่อนไว้ใต้กองหญ้าแห้งจำนวนมาก จึงได้แจ้งข้อหาเพิ่มกับนายวันชัย เชาวลิต อีกหนึ่งข้อหา
ทั้งนี้กรณีการแก้ปัญหาผืนป่าแม่เมาะแปลง 2 นี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้เห็นชอบให้ทุกฝ่ายใช้มติ ครม. วันที่ 28 พ.ค. 2528 โดยสั่งการให้ทางพัฒนาที่ดินจังหวัดทำแผนที่สรุปเขตแดนให้ชัดเจน และให้เสร็จสิ้นภายในเดือนนี้
ต่อมานายมนตรี ชัยกาญจนกิจ นายอำเภอเถินรักษาราชการแทนนายอำเภอเมืองลำปาง ได้ประชุมคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงสภาพและตำแหน่งที่ตั้งของที่ดินป่าแม่ตุ๋ยฝั่งซ้าย(ป่าแม่เมาะแปลง2) เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2554 ที่ศาลาว่าการอำเภอเมืองลำปาง โดยมีมติว่า ป่าแม่เมาะแปลง 2 ทั้งหมด 45,000 ไร่ ตามที่กรมพัฒนาที่ดินได้สำรวจไว้แล้วนั้น ให้ดำเนินการ 2 ส่วน คือ 1. ที่ดินจำนวน 22,400 ไร่ เดิมให้สงวนไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง และ 2. ที่ดินนอกเหนือจากนั้น ที่ได้สำรวจแล้ว 3,569 ราย ให้สถานีพัฒนาที่ดินดำเนินการคำนวณค่าใช้จ่ายในการสำรวจและจัดทำโครงการออกโฉนดให้ถูกต้องต่อไป