“เทือก” ของขึ้น ว้าก “เจ๊วา” ไร้ฝีมือแก้ปัญหาน้ำมันปาล์มแพง ทั้งที่อนุมัติให้นำเข้า 1.2 แสนตันแต่ราคายังพุ่ง บอกรับไม่ได้หลังทราบจาก “ไตรรงค์” พาณิชย์ไม่ได้ทำอะไรเลย ปล่อยให้ประชาชนเดือดร้อน แถมยังงอแงเรื่องค่าใช้จ่ายในการนำเข้า ประกาศลงลุยด้วยตัวเอง ไม่สนแม้ต้องหักหน้าภูมิใจห้อย พร้อมสั่งดีเอสไอลงตรวจสอบลากคอไอ้โม่งอยู่เบื้องหลังทำราคาน้ำมันปาล์มแพงมาลงโทษ บ่นเสียใจ พาณิชย์ขอนำเข้าทำราคาปาล์มสดลด แต่ชาวบ้านยังต้องซื้อของแพง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมัน ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาราคาน้ำมันปาล์มขาดแคลนว่า เรื่องดังกล่าวไม่ใช่หน้าที่ของตน แต่นายกรัฐมนตรีต้องการให้เกษตรกรทั่งประเทศขายผลผลิตได้ราคาขึ้น จึงได้แบ่งหน้าที่กันทำ โดยนายกฯ เองดูแลเรื่องข้าว นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ดูแลเรื่องข้าวโพด มันสำปะหลังและอ้อย ส่วนยางพารา ปาล์มน้ำมัน และกุ้ง มอบหมายให้ตนดูแล ตนก็แก้ปัญหาเรื่องสินค้าเกษตรดังกล่าวทำให้มีราคาดีขึ้นเกษตรกรก็มีรายได้ที่ดีขึ้น
“เมื่อมีปัญหาเรื่องนำมันปาล์มขาดแคลน ทางคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันฯ จึงได้มีการพิจารณา และเห็นควรให้มีการเพิ่มปริมาณด้วยการน้ำเข้าน้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้น ล็อตแรก 3 หมื่นตัน ภายในเดือน ม.ค. โดยให้กระทรวงพาณิชย์ เอา 3 หมื่นตันไปให้องค์การคลังสินค้ากระจาย และมารายงานคณะกรรมการฯ เราเชื่อว่าถ้ามีการขาดตามจำนวนที่กล่าว และเมื่อมีการนำเข้าก็น่าที่จะไปบริหารจัดการได้ แต่ปรากฏว่าไม่เรียบร้อย กระทรวงพาณิชย์ยังกลับมาร้องขอว่า ยังขาดแคลนกรรมการฯก็เห็นว่า ตรงนี้อาจมีผลทางด้านจิตวิทยา คนอาจจะมีความรู้สึกจึงมีการอนุมัติให้นำเข้าเพิ่มอีก 1.2 แสนตัน ตรงนั้นทำให้เกิดผลกระทบทันทีกับเกษตรกรที่ปลูกปาล์มน้ำมัน โรงงานก็ตั้งแง่ ต่างๆ นานาแต่ก็ทำใจได้ เพราะราคาปาล์มขณะนี้เกษตรกรขายได้ที่กิโลละ 11 บาท”
นายสุเทพกล่าวว่า ที่ผ่านมาตนรู้สึกเสียใจเพราะเกษตรกรขายสินค้าได้ราคาถูกลงแต่ผู้บริโภคยังต้องซื้อของแพงอยู่ และยังมีภาวะขาดแคลน
“ผมเรียนตรงๆ ว่า วันนี้ผมสงสัยเหมือนประชาชนสงสัยว่าจะต้องมีการเอาเปรียบประชาชนอย่างเป็นกระบวนการ วันนี้จะสั่งให้อธิบดีกรมสอบสาวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตั่งทีมสอบสวนคดีนี้ และผมจะต้องหาทางว่าถ้ามีคนทำร่ายประชาชนด้วยวิธีการนี้จะต้องเอามาลงโทษกันให้ได้ ต้องดำเนินการตามกฎหมาย แล้วจะนัดประชุมคณะกรรมการ นโยบายปาล์มน้ำมันในวันที่ 22 ก.พ.นี้ เพื่อที่จะทบทวนกัน ถ้ากระทรวงพาณิชย์บกพร่องในเรื่องนี้ก็ต้องตำหนิ เพราะเมื่อขออนุมัตินำเข้าน้ำมันปาล์ม เราก็อนุมัติ แต่ทำไมแก้ปัญหาไม่ได้ เอาไปไว้ตรงไหน ทำอย่างไร อย่างนี้ต้องว่ากันต่อหน้าเลย ผมเรียนกับประชาชนได้เลยว่า ผมจะลงมาดูแลเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เพราะเมื่อให้ดำเนินการแล้วกลับเป็นปัญหายืดเยื้อ แล้วเกิดปัญหากับประชาชน เป็นหน้าที่ที่รัฐบาลจะต้องลงมาสะสาง”
ส่วนที่ นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ จะเสนอให้มีการนำเข้าแบบบรรจุขวดเสร็จนั้น นายสุเทพกล่าวว่า ที่อนุญาตให้นำเข้า 1.2 แสนตันนั้น ก็อนุญาตตามที่กระทรวงพาณิชย์ขอทุกอย่าง แม้แต่เรื่องการจะไปบริหารจัดการ แต่เมื่อบริหารจัดการไม่ได้ จะมีวิธีการอื่นก็ต้องมาหารือ แต่ถ้าปล่อยให้ประชาชนเดือดร้อนคงไม่ยอม ส่วนที่ขออนุมัติไปนั้นล่าสุดกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า เป็นแค่ตามราคายังไม่มีเคาะราคานำเข้านั้น ตรงนี้ก็ต้องเล่นงาน จะมานั่งนิ่งนอนใจอยู่ได้อย่างไรถ้าประชาชนเดือดร้อนขณะนี้ เวลาจะขออนุมัติให้นำเข้าก็เร่งรัดทุกวันพอประชุมอนุญาตแล้ว ทำไมไม่จัดการให้เรียบร้อยต้องไล่เบี้ยกันไปว่าใครเป็นคนรับผิดชอบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่าจะเอาไอ้โม่งที่อยู่เบื้องหลังมาลงโทษได้ นายสุเทพกล่าวว่า “ก็ต้องมีจึงต้องให้ดีเอสไอไปดูว่าใครกักตุน ใครแกล้งประชาชน ใครทำผิดกฎหมาย ส่วน 4 บริษัทที่มีข่าวว่าไม่ให้ความร่วมมือนั้นทางกระทรวงพาณิชย์ก็จะต้องดำเนินการ จะทำอะไรก็ต้องทำแล้ว เพราะวันนี่ผมได้ส่งสัญญาณชัดเจนแล้ว ที่ผ่านมาเหตุที่ต้องรอเพราะไม่มีหน้าที่กำกับดูแลงานของกระทรวงพาณิชย์ นายไตรรงค์ สุวรรณคิรี รองนายกรัฐมนตรี เป็นคนกำกับดูแล แต่เมื่อวันที่ 16 ก.พ.มาหาผมแล้วบอกว่าท่านไม่ค่อยรู้เรื่อง ถามว่าเอา 1.2 แสนตันไปทำอะไรก็อึกๆ อักๆ บอกยังไม่ได้ทำอะไร ท่านจึงได้มาบอกผมให้ไปจัดการ ผมก็จะไปจัดการตามวิธีการของผม ยืนยันได้ว่ารัฐบาลไม่ได้ละเลยนโยบายเรื่องปากท้องประชาชน หรือแม้แต่เรื่องที่ไม่ใช่หน้าที่ของผม และเมื่อเป็นความเดือดร้อนของประชาชน ผมก็ได้เรียนท่านนายกฯ ว่าผมจะลงมาสะสางด้วยตัวเอง”
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่กินน้ำมันปาล์มบ้างหรือ ถึงไม่เดือดร้อนเห็นนั่งกันอยู่เฉย นายสุเทพในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ก็กินปกติ ไม่ได้กินมูมมามอะไร
และยืนยันหากมีการไล่เบี้ยไปจนถึงต้นตอของปัญหาก็จะไม่ทำให้เกิดหรือสร้างปัญหากับพรรคภูมิใจไทย และกรณีที่กระทรวงเกษตรฯ จะเสนอขอทบทวนการนำเข้า เพราะทำให้เกษตรกรมีปัญหานั้นตรงนี้ ตนก็จะดูด้วยเช่นกัน
“ผมขัดกับใครก็ได้ถ้าเขาทำร้ายประชาชน ผมไม่สนใจ เพราะผมเห็นแล้วว่ามันเดือดร้อนจริง ผมร้อนใจไปกับประชาชนด้วย ผมเห็นใจเกษตรกร ถ้าเป็นคนอื่นมาทำป่านนี้เขาเดินขบวนวุ่นวายแล้ว และผมยังมาทำให้ราคาเขาลดลงมากิโลหนึ่งตั้ง 4-5 บาท เขาก็เห็นใจให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสได้บริโภคของถูก เมื่อผู้บริโภคไม่ได้ประโยชน์ก็ต้องโกรธ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ท่านออกมาแรงในวันนี้ไม่ได้เป็นเพราะมีการอภิปรายในสภาฯ เพราะที่ผ่านมาเมื่อวาน (16 ก.พ.) ยังไม่มีท่าทีแบบวันนี้ นายสุเทพกล่าวว่า เมื่อวานไม่รู้สึกอะไรเท่าไร เพราะว่าเมื่อมีการนำเข้าแล้วก็คงจะสามารถบริหารจัดการได้แล้ว แต่พอนายไตรรงค์มาบอกว่ามีการสอบถามแล้วพบว่าไม่ทำอะไรกันเลย ทำให้ตนสงสัยว่าอนุมัติแล้วทำไมไม่ทำอะไรหลายวันมาแล้ว พ่อค้าแม่ค้าร้องจะขึ้นราคา มองดูแล้วพบว่าชักจะไม่ดี ก็คิดว่าควรที่จะมีการทำอะไรบ้างแล้ว ส่วนเรื่องที่กระทรวงพาณิชย์เสนอที่จะนำเข้าจากประเทศอินโดนีเซีย แต่ติดที่เรื่องค่าใช้จ่ายในการขนส่งนั้น บอกได้เลยว่าจะมางอแงไม่ได้ ฟังไม่ขึ้น ถ้าฟังอย่างนี้ได้ต้องพูดในที่ประชุมตั้งแต่วันนั้นแล้ว วันนี้จะมางอแงทีหลัง อย่างนั้นอย่างโน้นอย่างนี้ไม่ได้
“ถ้ากระทรวงพาณิชย์นำเข้าไม่ได้ ผมจะให้เอกชนนำเข้าเอง วันนี้ถ้ากระทรวงพาณิชย์แก้ปัญหาไม่ได้เพราะน้ำมันปาล์มขาดแคลน ประชาชนเดือดร้อน ดังนั้น ในการประชุมวันที่ 22 ก.พ.จะเสนอให้คณะกรรมการฯ ให้เอกชนนำเข้าเป็นรายๆ ไป และยืนยันว่ายังไม่มีการยึดกระทรวงพาณิชย์กลับมาบริหารงานเองเพราะยังไม่อยากเป็น รมว.พาณิชย์”