กระบี่ - ผู้ว่าฯกระบี่ เรียกทุกหน่วยหารือ และติดตามสถานการณ์ปาล์มน้ำมันในจังหวัด หลังมีการนำเข้าน้ำมันปาลม์เพิ่มอีก1.2 แสนตัน ส่งผลให้ราคาผลปาล์มน้ำมันลดลงจาก กก.ละ 12 บาท เหลือ กก.ละ 7 บาท จากนั้นเตรียมส่งเรื่องหน่วยงานเกี่ยวข้องแก้ทั้งระบบ
วันนี้ (9 ก.พ.) ที่ห้องประชุมปกาสัย ศาลากลาง จ.กระบี่ นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้เป็นประธานในการประชุมติดตามสถานการณ์ปาล์มน้ำมันในจังหวัดกระบี่ ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีการปลูกปาล์มน้ำมันมากที่สุดในประเทศ ภายหลังจากที่ราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันได้พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553-มกราคม 2554 ราคากิโลกรัมละประมาณ 12 บาท และปรับลดลงมาครั้งเดียวเหลือ 8 บาทต่อกิโลกรัม และลดลงมาถึง 7 บาท โดยการประชุมครั้งนี้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมประชุมหารือติดตามสถานการณ์ เพื่อเตรียมความพร้อมแก้ไขปัญหา และทำความเข้าใจเกษตรกร
ในที่ประชุมได้มีการพูดกันอย่างกว้างขวางกรณีที่รัฐบาล โดยคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ มีมติอนุมัติการนำเข้าน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์จากต่างประเทศ เพิ่มอีกจำนวน 1.2 แสนตัน เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2554 ซึ่งมีผลทำให้ราคาผลปาล์มน้ำมันลดลงมาทันที โดยราคาผลปาล์มน้ำมัน ณ วันนี้ อยู่ ที่กิโลกรัม ละ 7-7.5 บาท จากกิโลกรัมละ 12 บาท และมีแนวโน้มลดลงไปถึงกิโลกรัม 6-5.5 บาท ขณะที่ปัจจุบันน้ำมันปาล์มยังขาดแคลนอยู่ แต่ราคากลับลดลงต่อเนื่อง
ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ผลจากการหารือในวันนี้ ก็ได้รับทราบปัญหาว่า ณ ปัจจุบันปาล์มน้ำมันยังไม่สามารถกำหนดราคาอ้างอิงที่แน่นอนได้ ส่งผลทำให้โรงสกัดในพื้นที่ไม่สามารถรับซื้อผลปาล์มได้ในราคาที่เหมาะสม คือ ไม่ขาดทุนได้ เพราะข่าวสารที่ออกมาจะมองในด้านผู้บริโภคอย่างเดียว ไม่มองถึงผู้ผลิต จึงต้องรวบรวมข้อเสนอแนะต่างๆ อาทิ การไม่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาด้วยการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบเพียงอย่างเดียว การส่งเสริมให้มีการพัฒนาทั้งระบบตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการอื่นๆ เช่น การส่งเสริมการลงทุนก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันขึ้นในพื้นที่ เพื่อที่จะกำหนดราคาอ้างอิงที่เหมาะสมได้ โดยหลังจากนี้จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมด นำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต่อไป
วันนี้ (9 ก.พ.) ที่ห้องประชุมปกาสัย ศาลากลาง จ.กระบี่ นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้เป็นประธานในการประชุมติดตามสถานการณ์ปาล์มน้ำมันในจังหวัดกระบี่ ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีการปลูกปาล์มน้ำมันมากที่สุดในประเทศ ภายหลังจากที่ราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันได้พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553-มกราคม 2554 ราคากิโลกรัมละประมาณ 12 บาท และปรับลดลงมาครั้งเดียวเหลือ 8 บาทต่อกิโลกรัม และลดลงมาถึง 7 บาท โดยการประชุมครั้งนี้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมประชุมหารือติดตามสถานการณ์ เพื่อเตรียมความพร้อมแก้ไขปัญหา และทำความเข้าใจเกษตรกร
ในที่ประชุมได้มีการพูดกันอย่างกว้างขวางกรณีที่รัฐบาล โดยคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ มีมติอนุมัติการนำเข้าน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์จากต่างประเทศ เพิ่มอีกจำนวน 1.2 แสนตัน เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2554 ซึ่งมีผลทำให้ราคาผลปาล์มน้ำมันลดลงมาทันที โดยราคาผลปาล์มน้ำมัน ณ วันนี้ อยู่ ที่กิโลกรัม ละ 7-7.5 บาท จากกิโลกรัมละ 12 บาท และมีแนวโน้มลดลงไปถึงกิโลกรัม 6-5.5 บาท ขณะที่ปัจจุบันน้ำมันปาล์มยังขาดแคลนอยู่ แต่ราคากลับลดลงต่อเนื่อง
ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ผลจากการหารือในวันนี้ ก็ได้รับทราบปัญหาว่า ณ ปัจจุบันปาล์มน้ำมันยังไม่สามารถกำหนดราคาอ้างอิงที่แน่นอนได้ ส่งผลทำให้โรงสกัดในพื้นที่ไม่สามารถรับซื้อผลปาล์มได้ในราคาที่เหมาะสม คือ ไม่ขาดทุนได้ เพราะข่าวสารที่ออกมาจะมองในด้านผู้บริโภคอย่างเดียว ไม่มองถึงผู้ผลิต จึงต้องรวบรวมข้อเสนอแนะต่างๆ อาทิ การไม่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาด้วยการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบเพียงอย่างเดียว การส่งเสริมให้มีการพัฒนาทั้งระบบตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการอื่นๆ เช่น การส่งเสริมการลงทุนก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันขึ้นในพื้นที่ เพื่อที่จะกำหนดราคาอ้างอิงที่เหมาะสมได้ โดยหลังจากนี้จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมด นำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต่อไป
