กระบี่-ผู้จัดการชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดกระบี่ ชี้คณะกรรมการปาล์มน้ำมันฯ นำเข้าน้ำมันปาล์มเพิ่มอีก 5 หมื่นตัน ฉุดราคาปาล์มสด ในประเทศที่กำลังจะออกสู่ตลาด ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ ตกต่ำแน่ แนะ ควรลดปริมาณนำเข้า
นายวิศาล จันทร์ทิพย์ ผู้จัดการชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงพาณิชย์เตรียมเสนอคณะกรรมการปาล์มน้ำมันฯ เพื่อเสนอ นำเข้าน้ำมันปาล์ม อีก 5 หมื่นตัน จากเดิมขอที่ 3 หมื่นตันว่า หากมีการนำเข้าน้ำมันเพิ่มอีก จะส่งผลกระทบกับราคาปาล์มสดอย่างแน่นอน เพราะประมาณช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม เป็นต้นไป ปาล์มน้ำมันภายในประเทศ ก็จะเริ่มให้ผลผลิตและสามารถเก็บเกี่ยวได้ ซึ่งจะตรงกับในช่วงของการนำเข้าน้ำมันปาล์มพอดี เพราะหากรวมกับของเดิมที่ขอนำเข้าไปแล้ว 3 หมื่นตัน กับอีก 5 หมื่นตัน รวมเป็น 8 หมื่นตัน ซึ่งเป็นปริมาณที่มากพอ ที่จะฉุดให้ราคาผลปาล์มสดที่กำลังจะออก ราคาทรุดอย่างแน่นอน
ผู้จัดการชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สำหรับน้ำมันปาล์ม จำนวน 5 หมื่นตัน ที่ทางกระทรวงพาณิชย์ เตรียมเสนอคณะกรรมการปาล์มน้ำมัน นำเข้าอีกนั้น หากเปรียบเทียบเป็นผลปาล์มสด ได้ประมาณ 250,000 ตัน หากเป็นโรงงานสกัดปาล์มน้ำมันของชุมนุมสหกรณ์ ที่มีกำลังการผลิต 60 ตันทะลาย/ชั่วโมง ก็จะสามารถนำเข้าโรงงานสกัดได้ประมาณถึง 1 ปี จึงไม่อยากให้มีการนำเข้ามากนัก ทางคณะกรรมการปาล์มน้ำมันฯควรชะลอการนำเข้าออกไปก่อน หรือหากว่าจะมีการนำเข้าเพื่อแก้ปัญหาน้ำมันปาล์มขาดตลาดจริงๆก็ไม่ควรให้ถึง 5 หมื่นตัน อาจจะนำเข้าเพียง 2-3 หมื่นตัน รวมกับของเดิม 3 หมื่นตัน ประมาณ 5 หมื่นตันก็น่าจะเพียงพอแล้ว
“ยอมรับว่าในช่วงนี้ผลปาล์มสดออกมาน้อยมาก ผิดเป้าจากที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งสาเหตุอาจจะเนื่องมาจากปีที่ผ่านมาเกิดฝนทิ้งช่วงนาน และว่าสำหรับโรงงานสกัดปาล์มน้ำมันของชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดกระบี่ ขณะนี้สามารถรับซื้อผลปาล์มสดได้เพียง 300 ตัน/วัน เท่านั้น ซึ่งน้อยกว่ากำลังการผลิต โดยกำลังการผลิตได้ อยู่ที่ ประมาณ 900-1,200 ตัน/วัน ซึ่งต้องยอมขาดทุนไปก่อน และสำหรับราคาปาล์มทะลายที่มีการรับซื้อ ณ โรงงานชุมนุมสหกรณ์ วันนี้ ราคา เฉลี่ย อยู่ที่ประมาณ 10 บาทเศษ ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ดีมากสำหรับเกษตรกร ส่วนน้ำมันปาล์มดิบมีการซื้อขายที่ กิโลกรัมละ 65 บาท"
นายวิศาล จันทร์ทิพย์ ผู้จัดการชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงพาณิชย์เตรียมเสนอคณะกรรมการปาล์มน้ำมันฯ เพื่อเสนอ นำเข้าน้ำมันปาล์ม อีก 5 หมื่นตัน จากเดิมขอที่ 3 หมื่นตันว่า หากมีการนำเข้าน้ำมันเพิ่มอีก จะส่งผลกระทบกับราคาปาล์มสดอย่างแน่นอน เพราะประมาณช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม เป็นต้นไป ปาล์มน้ำมันภายในประเทศ ก็จะเริ่มให้ผลผลิตและสามารถเก็บเกี่ยวได้ ซึ่งจะตรงกับในช่วงของการนำเข้าน้ำมันปาล์มพอดี เพราะหากรวมกับของเดิมที่ขอนำเข้าไปแล้ว 3 หมื่นตัน กับอีก 5 หมื่นตัน รวมเป็น 8 หมื่นตัน ซึ่งเป็นปริมาณที่มากพอ ที่จะฉุดให้ราคาผลปาล์มสดที่กำลังจะออก ราคาทรุดอย่างแน่นอน
ผู้จัดการชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สำหรับน้ำมันปาล์ม จำนวน 5 หมื่นตัน ที่ทางกระทรวงพาณิชย์ เตรียมเสนอคณะกรรมการปาล์มน้ำมัน นำเข้าอีกนั้น หากเปรียบเทียบเป็นผลปาล์มสด ได้ประมาณ 250,000 ตัน หากเป็นโรงงานสกัดปาล์มน้ำมันของชุมนุมสหกรณ์ ที่มีกำลังการผลิต 60 ตันทะลาย/ชั่วโมง ก็จะสามารถนำเข้าโรงงานสกัดได้ประมาณถึง 1 ปี จึงไม่อยากให้มีการนำเข้ามากนัก ทางคณะกรรมการปาล์มน้ำมันฯควรชะลอการนำเข้าออกไปก่อน หรือหากว่าจะมีการนำเข้าเพื่อแก้ปัญหาน้ำมันปาล์มขาดตลาดจริงๆก็ไม่ควรให้ถึง 5 หมื่นตัน อาจจะนำเข้าเพียง 2-3 หมื่นตัน รวมกับของเดิม 3 หมื่นตัน ประมาณ 5 หมื่นตันก็น่าจะเพียงพอแล้ว
“ยอมรับว่าในช่วงนี้ผลปาล์มสดออกมาน้อยมาก ผิดเป้าจากที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งสาเหตุอาจจะเนื่องมาจากปีที่ผ่านมาเกิดฝนทิ้งช่วงนาน และว่าสำหรับโรงงานสกัดปาล์มน้ำมันของชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดกระบี่ ขณะนี้สามารถรับซื้อผลปาล์มสดได้เพียง 300 ตัน/วัน เท่านั้น ซึ่งน้อยกว่ากำลังการผลิต โดยกำลังการผลิตได้ อยู่ที่ ประมาณ 900-1,200 ตัน/วัน ซึ่งต้องยอมขาดทุนไปก่อน และสำหรับราคาปาล์มทะลายที่มีการรับซื้อ ณ โรงงานชุมนุมสหกรณ์ วันนี้ ราคา เฉลี่ย อยู่ที่ประมาณ 10 บาทเศษ ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ดีมากสำหรับเกษตรกร ส่วนน้ำมันปาล์มดิบมีการซื้อขายที่ กิโลกรัมละ 65 บาท"
