กระบี่ - ประธานหอการค้ากระบี่ ห่วงการนำเข้าน้ำมันปาล์มมีเงือนงำ ชี้ ที่ผ่านมาหลายสิบปีไม่เคยมีปัญหา และมีน้ำมันเหลือใช้ผลิตไบโอดีเซล
นายภูวดิท ปรีชานนท์ ประธานคณะกรรมการบริหารหอการค้าจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงกรณี ที่ทางกระทรวงพาณิชย์ เตรียมเสนอคณะกรรมการปาล์มน้ำมันแห่งชาติ โดยมี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ให้มีการนำเข้าน้ำมันปาล์มเพิ่มอีกจำนวน 5 หมื่นตัน หลังจากที่ได้นำเข้ามาแล้วก่อนหน้านี้ จำนวน 3 หมื่นตัน เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มภายในประเทศขาดแคลนและมีราคาแพง อยู่ในช่วงนี้ ว่า การนำเข้าน้ำมันปาล์มเพิ่มอีกจะส่งผลกระทบกับราคาสดภายในประเทศอย่างแน่นอนในอนาคต เนื่องจากขณะนี้ผลปาล์มภายในประเทศ กำลังให้ผลผลิตและเริ่มออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น
เป็นที่น่าสังเกตว่า ที่ผ่านมา ผลผลิตปาล์มน้ำมันภายในประเทศ มีเพียงพอ และเหลือใช้มากว่า 10 ปี และอาจจะเรียกได้ว่าปาล์มน้ำมันเป็นเศรษฐกิจพอเพียงของประเทศอย่างแท้จริง เดิมทีเคยพึ่งพาตัวเองได้ โดยไม่ต้องมีการนำเข้าและบางครั้งน้ำมันปาล์มภายในประเทศก็ล้นตลาดเสียด้วยซ้ำไป จนรัฐบาลต้องเข้าไปแก้ปัญหาด้วยการมีนโยบายส่งเสริมให้ผู้ค้าน้ำมันมีการผลิตพลังงานทางเลือกหรือไบโอดีเซล และที่ผ่านมา ก็ได้มีการนำเข้ามาแล้วถึง 3 หมื่นตัน และจำหน่ายยังไม่ทันหมด ก็จะมีการนำเข้าอีก 5 หมื่นตัน
นายภูวดิท กล่าวอีกว่า ทำให้ฉุกคิดได้ว่าการนำเข้าน้ำมันปาล์ม มีเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือเปล่า เนื่องจากปัจจุบันพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันภายในประเทศเพิ่มขึ้น ประชากร ก็ไม่เพิ่มขึ้นพรวดพราด แต่น้ำมันปาล์มภายในประเทศกลับขาดแคลน ต้องถึงกับนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งก็เท่ากับทฤษฎีของประเทศผิด พื้นที่ปลูกเพิ่ม ผู้บริโภคไม่เพิ่ม แต่ต้องมีการนำเข้า แต่ยอมรับในช่วงนี้ผลผลิตปาล์มออกมาน้อยก็จริง แต่ก็เป็นอยู่ในช่วงประมาณ 3 เดือนเท่านั้น
ขณะนี้ผลิตปาล์มก็เริ่มออกสู่ตลาดและมีปริมาณเพิ่มขึ้น จึงอยากฝากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องควรจะพิจารณาให้ดีก่อนนำเข้าน้ำมันปาล์ม เพราะจะส่งผลกระทบกับเกษตรกรในประเทศได้
ขณะที่นายอรุณ ไม้ทิพย์ การค้าภายในจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ภายหลังที่กระทรวงพาณิชย์ ได้มีการนำเข้าน้ำมันปาล์ม จากประเทศมาเลเซีย จำนวน 3 หมื่นตัน ปรากฏว่า ราคาผลปาล์มของเกษตรกรไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ราคารับซื้อผลปาล์มยังคงปรับตัวขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง จนถึง ณ วันที่ 29 มกราคม 2554 ราคาปาล์มทะลาย มีการรับซื้อในราคา กิโลกรัมละ 9.55-10.75 บาท น้ำมันปาล์มดิบ กิโลกรัมละ 63-64 บาท และคาดการณ์ว่า ราคาผลปาล์มจะยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไปอีก เนื่องจากปริมาณผลปาล์มที่ออกสู่ตลาดยังคงทรงตัว และอาจจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
โดยเปรียบเทียบปริมาณผลปาล์ม ที่โรงงานรับซื้อในพื้นที่จังหวัดกระบี่ เดือนมกราคม ปี 2552 ปริมาณรับซื้อ 162,234.062 ตัน ปี 2553 ปริมาณรับซื้อ 188,147.840 ตัน และปี 2554 ปริมาณรับซื้อ 80,000 ตัน โดยมีปริมาณลดลงจากสองปีที่ผ่านมาประมาณ 50%
นายภูวดิท ปรีชานนท์ ประธานคณะกรรมการบริหารหอการค้าจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงกรณี ที่ทางกระทรวงพาณิชย์ เตรียมเสนอคณะกรรมการปาล์มน้ำมันแห่งชาติ โดยมี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ให้มีการนำเข้าน้ำมันปาล์มเพิ่มอีกจำนวน 5 หมื่นตัน หลังจากที่ได้นำเข้ามาแล้วก่อนหน้านี้ จำนวน 3 หมื่นตัน เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มภายในประเทศขาดแคลนและมีราคาแพง อยู่ในช่วงนี้ ว่า การนำเข้าน้ำมันปาล์มเพิ่มอีกจะส่งผลกระทบกับราคาสดภายในประเทศอย่างแน่นอนในอนาคต เนื่องจากขณะนี้ผลปาล์มภายในประเทศ กำลังให้ผลผลิตและเริ่มออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น
เป็นที่น่าสังเกตว่า ที่ผ่านมา ผลผลิตปาล์มน้ำมันภายในประเทศ มีเพียงพอ และเหลือใช้มากว่า 10 ปี และอาจจะเรียกได้ว่าปาล์มน้ำมันเป็นเศรษฐกิจพอเพียงของประเทศอย่างแท้จริง เดิมทีเคยพึ่งพาตัวเองได้ โดยไม่ต้องมีการนำเข้าและบางครั้งน้ำมันปาล์มภายในประเทศก็ล้นตลาดเสียด้วยซ้ำไป จนรัฐบาลต้องเข้าไปแก้ปัญหาด้วยการมีนโยบายส่งเสริมให้ผู้ค้าน้ำมันมีการผลิตพลังงานทางเลือกหรือไบโอดีเซล และที่ผ่านมา ก็ได้มีการนำเข้ามาแล้วถึง 3 หมื่นตัน และจำหน่ายยังไม่ทันหมด ก็จะมีการนำเข้าอีก 5 หมื่นตัน
นายภูวดิท กล่าวอีกว่า ทำให้ฉุกคิดได้ว่าการนำเข้าน้ำมันปาล์ม มีเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือเปล่า เนื่องจากปัจจุบันพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันภายในประเทศเพิ่มขึ้น ประชากร ก็ไม่เพิ่มขึ้นพรวดพราด แต่น้ำมันปาล์มภายในประเทศกลับขาดแคลน ต้องถึงกับนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งก็เท่ากับทฤษฎีของประเทศผิด พื้นที่ปลูกเพิ่ม ผู้บริโภคไม่เพิ่ม แต่ต้องมีการนำเข้า แต่ยอมรับในช่วงนี้ผลผลิตปาล์มออกมาน้อยก็จริง แต่ก็เป็นอยู่ในช่วงประมาณ 3 เดือนเท่านั้น
ขณะนี้ผลิตปาล์มก็เริ่มออกสู่ตลาดและมีปริมาณเพิ่มขึ้น จึงอยากฝากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องควรจะพิจารณาให้ดีก่อนนำเข้าน้ำมันปาล์ม เพราะจะส่งผลกระทบกับเกษตรกรในประเทศได้
ขณะที่นายอรุณ ไม้ทิพย์ การค้าภายในจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ภายหลังที่กระทรวงพาณิชย์ ได้มีการนำเข้าน้ำมันปาล์ม จากประเทศมาเลเซีย จำนวน 3 หมื่นตัน ปรากฏว่า ราคาผลปาล์มของเกษตรกรไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ราคารับซื้อผลปาล์มยังคงปรับตัวขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง จนถึง ณ วันที่ 29 มกราคม 2554 ราคาปาล์มทะลาย มีการรับซื้อในราคา กิโลกรัมละ 9.55-10.75 บาท น้ำมันปาล์มดิบ กิโลกรัมละ 63-64 บาท และคาดการณ์ว่า ราคาผลปาล์มจะยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไปอีก เนื่องจากปริมาณผลปาล์มที่ออกสู่ตลาดยังคงทรงตัว และอาจจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
โดยเปรียบเทียบปริมาณผลปาล์ม ที่โรงงานรับซื้อในพื้นที่จังหวัดกระบี่ เดือนมกราคม ปี 2552 ปริมาณรับซื้อ 162,234.062 ตัน ปี 2553 ปริมาณรับซื้อ 188,147.840 ตัน และปี 2554 ปริมาณรับซื้อ 80,000 ตัน โดยมีปริมาณลดลงจากสองปีที่ผ่านมาประมาณ 50%
