พณ.เล็งชงบอร์ดน้ำมันปาล์มชุด “เทพเทือก” ขอนำเข้าอีก 1 แสนตัน ภายในเดือน ก.พ.นี้ หลังประเมินผลผลิตต่ำกว่าที่คาดไว้มาก ส่วนล็อตแรก 3 หมื่นตัน ถึง กทม.จันทร์นี้ พร้อมระบายเข้าสู่ตลาดทันที แนะจุดสังเกตจุกขวดใช้สีฟ้าแทนสีเขียว
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า น้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์จำนวน 30,000 ตัน จากประเทศมาเลเซีย ที่ไทยสั่งนำเข้ามาเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มในประเทศขาดแคลน ทยอยมาถึงไทยแล้ว ซึ่งจะมาครบตามจำนวนทั้งหมดในวันจันทร์ 31 มกราคม 2554 นี้ ซึ่งทางผู้ผลิตได้ทยอยนำไปกลั่นเพื่อออกจำหน่ายแล้ว และคาดว่า จะเริ่มออกจากโรงงานไปยังห้างค้าปลีกและร้านค้าต่างๆ ได้ประมาณกลางสัปดาห์หน้า
โดยน้ำมันปาล์มนำเข้าที่ได้นำมาบรรจุในครั้งนี้ มีทั้งแบบบรรจุขวดและบรรจุถุงขนาด 1 ลิตร โดยแบบขวดจะมีความแตกต่างกับน้ำมันในประเทศ ตรงฝาบรรจุขวดที่จะเป็นสีฟ้าทุกยี่ห้อ แต่ยังคงจำหน่ายในราคาขวดละไม่เกิน 47 บาท ส่วนแบบบรรจุถุงให้จำหน่ายในราคาไม่เกิน 45 บาท และมีการพิมพ์วันเดือนปีที่ผลิตเป็นสีฟ้าเช่นกัน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะติดตามดูแลสินค้าในส่วนนี้อย่างใกล้ชิดทั้งกระบวนการผลิต การขนส่ง และการจำหน่ายปลีก
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ที่มี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2554 นี้ กระทรวงพาณิชย์จะเสนอให้นำเข้าน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์อีกไม่ต่ำกว่า 1 แสนตัน เพื่อมาชดเชยผลผลิตที่ไม่เพียงพอจำหน่าย คาดว่า จะมีการนำเข้าไม่เกินต้นเดือนมีนาคม 2554 นี้
“กรมจะเสนอให้มีการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มอีก 1 แสนตัน เนื่องจากการประเมินผลผลิต จากเดิมที่คาดว่าจะเหลือ 7.8 หมื่นตัน ในเดือนมกราคม 2554 แต่ประเมินผลผลิตจริง มีสต็อกคงเหลือเพียง 4 หมื่นตัน ขณะที่สต๊อกที่เหมาะสมควรจะอยู่ที่ 1.2 แสนตันต่อเดือน จึงมีเป็นความจำเป็นที่จะต้องนำเข้าเพิ่มขึ้น”
สาเหตุที่ปาล์มน้อยกว่าปกติ มาจากการคาดการณ์ผิดไปจากข้อเท็จจริง มีการตัดผลปาล์มอ่อนมาขาย ซึ่งมีเปอร์เซ็นต์น้ำมันเพียงครึ่งหนึ่งของผลปาล์มที่ถึงเวลาตัด ทำให้ปริมาณลดลง ถ้าอนุมัตินำเข้าจะช่วยแก้ปัญหาสินค้าขาดตลาดได้ โดยจะต้องนำเข้าเดือนกุมภาพันธ์ 2554 หรืออย่างช้าสุดต้นเดือนมีนาคม 2554
นอกจากนี้ ในส่วนการชดเชยสต๊อกน้ำมันปาล์มในประเทศ ที่ยังมีความต้องการอีกกว่า 1 แสนตัน จะพิจารณาอีกครั้งหลังจำนวนผลผลิตในประเทศออกสู่ตลาดในเดือนมีนาคม 2554 นอกจากนี้ สำหรับสินค้าวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะปูนซีเมนต์ ยืนยันว่ายังไม่มีการขอปรับขึ้นราคา เนื่องจากยังอยู่ในช่วงขอความร่วมมือตรึงราคาสินค้าจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2554 นี้