“เกษตร-พลังงาน-ธ.ก.ส.” จับมือ “บางจาก” ลุยโครงการจัดตั้งศูนย์ศึกษาและพัฒนาสวนส้มร้าง ทุ่งรังสิต 1.2 แสนไร่ เพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน พร้อมเปิดแผนลงทุนก่อสร้างโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มแห่งแรก คาดใช้เงินลงทุน 350 ล้านบาท รองรับสกัดน้ำมันปาล์มได้วันละ 3 แสนลิตร
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บางจากได้ลงนามความตกลงร่วมมือกับกระทรวงพลังงาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดำเนินโครงการจัดตั้งศูนย์ศึกษา และพัฒนาสวนส้มร้างทุ่งรังสิต เพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน ที่อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก จำนวน 100,000 ไร่ เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่สวนส้มร้างทุ่งรังสิต หันมาปลูกปาล์มน้ำมัน เพิ่มรายได้และแก้ปัญหาหนี้สินให้กับเกษตรกร
นอกจากนี้ ยังเป็นการป้องกันปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร บรรเทาปัญหาภาวะโลกร้อน และช่วยสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ รวมทั้งยังเป็นแหล่งดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 500,000 ตันต่อปี
โดยโครงการนี้ เป็นหนึ่งในโครงการลดโลกร้อนถวายพ่อ เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความร่วมมือดังกล่าว เป็นการศึกษาพื้นที่สวนส้มร้าง เพื่อพัฒนาปลูกปาล์มน้ำมันได้หรือไม่ หากเกษตรกรปลูกปาล์ม 50,000-60,000 ไร่ จะสกัดเป็นน้ำมันปาล์มดิบได้ถึง 1.5 แสนลิตรต่อวัน โดยจะใช้เงินลงทุนประมาณ 350 ล้านบาท สามารถสกัดน้ำมันปาล์มได้ 45 ตันต่อชั่วโมง
ทั้งนี้ สิ่งที่สำคัญ คือ โครงการนี้จะทำให้บางจาก มีผลผลิตไบโอดีเซล บี100 เพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าจะขยายกำลังการผลิตไบโอดีเซล บี100 ได้ 400,000 ตันต่อวัน แต่ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลว่า จะมีแนวทางส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซล บี5 เกรดเดียวหรือไม่ หากผลการศึกษาสามารถเพาะปลูกข้าวได้ บางจากจะไม่เข้าไปใช้พื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน เพื่อไม่ให้เป็นการแย่งพื้นที่ปลูกพืชอาหาร
ส่วนสถานการณ์ปาล์มขณะนี้ อยู่ที่ 6 บาทต่อกิโลกรัม หากผลผลิตในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน ออกสู่ตลาดมากขึ้น จะส่งผลให้ราคาปาล์มน้ำมัน ปรับตัวลดลงอยู่ที่ประมาณ 3-4 บาทต่อกิโลกรัม
