กระบี่ - สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ สนธิกำลังรื้อถอนผลอาสินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าในช่องตะวันตก ถนนสาย 3 ต.เขาคราม อีก 3 แปลงรวมเนื้อที่ 18 ไร่ เศษมีต้นปาล์มน้ำมันอายุ 1-2 ปี 209 ต้น ยางพารา อายุ 2-3 ปี 720 ต้น หลังครบกำหนดประกาศใช้มาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนฯ เตรียมฟื้นฟูสภาพป่าป้องกันการบุกรุกเพิ่ม
วันนี้ (19 ม.ค.) นายเผชิญ โมฬี ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ นายสุรศักดิ์ กราปัญจะ หัวหน้ากลุ่มงานทรัพยากรธรรมชาติ (ป่าไม้) พร้อมด้วยนายโสภณ สุวรรณคะราช ปลัดอำเภอเมืองกระบี่ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ กบ.1 เหนือคลอง หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ กบ.9 (เกาะลันตา) หน่วยประสานงานป้องกันและปราบปรามการทำลายทรัพยากรป่าไม้ จ.กระบี่ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 426 กระบี่ และเจ้าหน้าอาสาสมัครรักษาดินแดน จ.กระบี่ กว่า 100 นายเข้าทำลายผลอาสิน ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าในช่องตะวันตก ถนนสายสาม ท้องที่หมู่ที่1 ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ จำนวน 3 แปลง รวมเนื้อที่ 18 ไร่เศษ ภายหลังครบกำหนดประกาศตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507
โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำลายต้นยางพารา อายุประมาณ 2-3 ปี ในพื้นที่แปลงที่ 1 เนื้อที่ 3 ไร่ 72 ตารางวา จำนวน 265 ต้น แปลงที่ 2 เนื้อที่ 5 ไร่ 2 งาน 84 ตารางวา ยางพาราอายุ 2-3 ปี จำนวน 455 ต้น และแปลงที่ 3 เนื้อที่ 9 ไร่ 2 งาน 16 ตารางวา ต้นปาล์มน้ำมัน อายุ 1-2 ปี จำนวน 209 ต้น โดยทั้ง 3 แปลงได้มีการจับกุมดำเนินคดีเมื่อเดือนสิงหาคม 2553
นายเผชิญ โมฬี ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ กล่าวว่า ในการสนธิกำลังเข้าทำลายผลอาสิน ครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2553 เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ กบ.1 เหนือคลอง ได้ดำเนินการตรวจยึดพื้นที่ถูกบุกรุกปลูกปาล์มน้ำมัน และยางพารา รวมเนื้อที่ 18 ไร่ และเมื่อครบกำหนดประกาศตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติฯ จึงได้สนธิกำลังเข้ารื้อถอนดังกล่าว
อย่างไรก็ตามในส่วนที่ มีการร้องเรียนเจ้าหน้าที่ป่าไม้มีส่วนเกี่ยวข้องนั้นยังอยู่ระหว่างการดำเนินการสอบสวนของกรมป่าไม้ เบื้องต้น ยังไม่มีพยานยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ที่ถูกกล่าว หา เป็นผู้มีส่วนรู้เห็นการบุกรุกพื้นที่ป่าในช่อง แต่อย่างใด ซึ่งต้องรอผลการวินิจฉัยจากคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง ส่วนป่าที่มีการยึดคืนแล้วจะได้ดำเนินการประสานกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อเข้ามาช่วยฟื้นฟูสภาพป่าให้เป็นแหล่งเรียนรู้ ศึกษาธรรมชาติ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ
วันนี้ (19 ม.ค.) นายเผชิญ โมฬี ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ นายสุรศักดิ์ กราปัญจะ หัวหน้ากลุ่มงานทรัพยากรธรรมชาติ (ป่าไม้) พร้อมด้วยนายโสภณ สุวรรณคะราช ปลัดอำเภอเมืองกระบี่ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ กบ.1 เหนือคลอง หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ กบ.9 (เกาะลันตา) หน่วยประสานงานป้องกันและปราบปรามการทำลายทรัพยากรป่าไม้ จ.กระบี่ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 426 กระบี่ และเจ้าหน้าอาสาสมัครรักษาดินแดน จ.กระบี่ กว่า 100 นายเข้าทำลายผลอาสิน ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าในช่องตะวันตก ถนนสายสาม ท้องที่หมู่ที่1 ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ จำนวน 3 แปลง รวมเนื้อที่ 18 ไร่เศษ ภายหลังครบกำหนดประกาศตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507
โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำลายต้นยางพารา อายุประมาณ 2-3 ปี ในพื้นที่แปลงที่ 1 เนื้อที่ 3 ไร่ 72 ตารางวา จำนวน 265 ต้น แปลงที่ 2 เนื้อที่ 5 ไร่ 2 งาน 84 ตารางวา ยางพาราอายุ 2-3 ปี จำนวน 455 ต้น และแปลงที่ 3 เนื้อที่ 9 ไร่ 2 งาน 16 ตารางวา ต้นปาล์มน้ำมัน อายุ 1-2 ปี จำนวน 209 ต้น โดยทั้ง 3 แปลงได้มีการจับกุมดำเนินคดีเมื่อเดือนสิงหาคม 2553
นายเผชิญ โมฬี ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ กล่าวว่า ในการสนธิกำลังเข้าทำลายผลอาสิน ครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2553 เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ กบ.1 เหนือคลอง ได้ดำเนินการตรวจยึดพื้นที่ถูกบุกรุกปลูกปาล์มน้ำมัน และยางพารา รวมเนื้อที่ 18 ไร่ และเมื่อครบกำหนดประกาศตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติฯ จึงได้สนธิกำลังเข้ารื้อถอนดังกล่าว
อย่างไรก็ตามในส่วนที่ มีการร้องเรียนเจ้าหน้าที่ป่าไม้มีส่วนเกี่ยวข้องนั้นยังอยู่ระหว่างการดำเนินการสอบสวนของกรมป่าไม้ เบื้องต้น ยังไม่มีพยานยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ที่ถูกกล่าว หา เป็นผู้มีส่วนรู้เห็นการบุกรุกพื้นที่ป่าในช่อง แต่อย่างใด ซึ่งต้องรอผลการวินิจฉัยจากคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง ส่วนป่าที่มีการยึดคืนแล้วจะได้ดำเนินการประสานกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อเข้ามาช่วยฟื้นฟูสภาพป่าให้เป็นแหล่งเรียนรู้ ศึกษาธรรมชาติ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ