กระบี่ - นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวกระบี่ จี้นายอำเภอเกาะลันตา จัดระเบียบชายหาด หวั่นทำชายหาดเกาะลันตา กลายเป็นสลัม หลังมีผู้ประกอบการนำขนำไปวางบนชายหาดเป็นแนวยาวเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยว และนำป้ายการให้บริการนำเที่ยวมาปักไว้บนตามชายหาดเพื่อใช้เป็นที่นั่งให้นักท่องเที่ยวได้นั่งรับประทานอาหาร
วันนี้ (12 ม.ค.54) นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก นายกสมาคมมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงเรื่องที่มีผู้ประกอบการนำขนำไปวางบนชายหาด ลองบีช ม.2 ต.ศาลาด่าน อ.เกาะลันตา เป็นแนวยาวเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวที่สั่งอาหารภายในร้านมานั่งดื่มกินชมวิวทะเล นอกจากนี้ ยังพบว่าได้มีผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวบางรายนำป้ายการให้บริการนำเที่ยวมาปักไว้บนตามชายหาดด้วยเพื่อใช้เป็นที่นั่งให้นักท่องเที่ยวได้นั่งรับประทานอาหารว่า การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการท้าทายกฎหมาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะมีการจัดระเบียบให้เกิดความเรียบร้อย เพราะเชื่อว่า นักท่องเที่ยวไม่อยากเห็นร้านค้าบนชายหาดอย่างแน่นอน
"ชายหาดควรจะเป็นที่พักผ่อนไม่ใช่ค้าขายและจังหวัดกระบี่ได้มีนโยบายอย่างชัดเจนมาตลอดทางด้านการท่องเที่ยว โดยได้กำหนดให้จังหวัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ต้องไม่มีร่มชายหาด และเตียงผ้าใบ ซึ่งก็เป็นที่ยอมรับไปทั่ว"
นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว กล่าวด้วยว่า การที่นายอำเภอเกาะลันตา ยอมอนุโลมให้มีการนำเตียงและร่มชายหาด มาวางบนชายหาดของเกาะลันตาได้ ถือว่าเป็นการสวนกระแส นโยบายของจังหวัดอย่างรุนแรง เพราะกว่า 10 ปี ที่ผ่านมาทางผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวของจังหวัดได้มีการคัดค้านและไม่เห็นด้วยมาตลอดที่จะให้มีการวางร่มและเตียงผ้าใบบนชายหาด
แต่ก็ยังมีผู้ประกอบการบางรายที่เห็นแก่ตัวแอบนำมาวางให้บริการนักท่องเที่ยว และทางผู้ที่ดูแลกฎหมายก็ทำไม่รู้ไม่เห็นเหมือนเป็นการสมยอม นายอำเภอควรจะเป็นแนวร่วมให้กับจังหวัดไม่ใช่สมยอมผู้ประกอบการที่ทำผิด และควรจะให้มีการสั่งรื้อถอนโดยเร็วก่อนที่ชายหาดอันสวยงามจะกลายเป็นร้านขายของ
จากการสอบถามไปยังนายวีระ เกิดศิริมงคล นายอำเภอเกาะลันตา ทราบว่า ปัญหาการนำขนำและป้ายมาวางบนชายหาดเป็นปัญหามานาน ซึ่งขณะนี้ทางอำเภอได้ร่วมกับภาคธุรกิจ ทั้งผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจโรงแรม ได้ตั้งคณะทำงานลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว เห็นชอบให้มีการรื้อถอน
พร้อมกับได้ตั้งคณะกรรมการไปเจรจากับผู้ประกอบการให้มีการรื้อถอนขนำและสิ่งปลูกสร้างบนชายหาดออกทั้งหมด ซึ่งทุกภาคส่วนก็มีความเห็นพ้องกันแต่จะอนุโลมให้เฉพาะเตียงผ้าใบและร่มชายหาดเท่านั้น แน่นอนว่าการเจรจาให้รื้อถอนย่อมมีผู้เสียผลประโยชน์อย่างแน่นอน แต่ต้องเอาความคิดเห็นคนส่วนใหญ่เป็นสำคัญ